กองหน้าปรากฎการณ์ : ทำไม "โรนัลโด้ R9" จึงมีการสับขาหลอก ที่รับมือยากที่สุดในโลก?
"ไม่มีใครหยุดนักเตะอย่าง โรนัลโด้ ได้นอกจากหัวเข่าของเขาเอง" ... วาทะนี้เป็นอมตะ และมันจริงเสียยิ่งกว่าจริงอีก
มีกองหน้าระดับปรากฎการณ์บนโลกนี้มากมายหลายคน แต่เท่าที่ได้เห็นมากับตาไม่มีใครที่จะเหมาะสมกับคำว่าครบเครื่องได้เท่ากับ โรนัลโด้ นาซาริโอ อีกแล้ว
รวดเร็ว, คล่องตัว, แข็งแกร่ง, เฉียบคม และ ชาญฉลาด คือสิ่งที่พอจะอธิบายคุณสมบัติของเขาได้ น้อยครั้งมากที่ "R9" จะจบการดวล 1 ต่อ 1 กับกองหลังโดยที่เขาเป็นฝ่ายเสียบอล
หนึ่งในท่าไม้ตายที่ทำให้เขาวิ่งผ่านคู่ต่อสู้ไปพร้อมกับลูกบอลได้คือ "สเต็ปโอเวอร์" หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่า "การสับขาหลอก" ... แต่อะไรกันล่ะที่ทำให้เขาใช้ท่านี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ?
สัญชาตญาณ
สำหรับ โรนัลโด้ R9 คุณต้องเข้าใจไว้ก่อน อย่างแรกเลยคือเขาไม่ใช่นักเตะที่สักแต่ว่าสับขาหลอกอย่างเดียว ความเร็วที่โรนัลโด้มีเกิดขึ้นพร้อมๆ กับการเลือกจังหวะที่ถูกต้องด้วย หากคุณไล่เปิดวีดีโอคลิปของเขาดูจะพบว่า "R9" นั้นใช้การสับขาหลอกให้เป็นส่วนหนึ่งในการ "ไล่ล่า" ประตูเท่านั้น และแน่นอนการสับขาหลอกไม่ใช่อย่างเดียวที่เขามี
Photo : www.lance.com.br
"ผมชอบที่จะทำประตูหลังจากที่เอาชนะกองหลังทุกคนได้และอาจจะรวมถึงการเลี้ยงผ่านผู้รักษาประตูด้วย มันไม่ใช่พรสวรรค์หรือความสามารถพิเศษอะไร แต่มันคือนิสัยของผมต่างหาก" โรนัลโด้ กล่าว
เรื่องทักษะนั้น โรนัลโด้ ยอมรับว่าเขาก็เหมือนกับนักเตะทั่วไปในประเทศบราซิล ที่ฐานะยากจนและเริ่มเล่นสตรีทฟุตบอลหรือฟุตบอลชายหาดด้วยเท้าเปล่ามาตั้งแต่เด็ก ซึ่งนั่นคือจุดเริ่มต้นของรูปแบบการเล่นของเขาในระดับอาชีพ
"ที่บราซิล เด็กๆ ทุกคนเริ่มเล่นสตรีทฟุตบอลตั้งแต่อายุยังน้อย มันอยู่ในสายเลือด ผมเล่นฟุตบอลอาชีพครั้งแรกที่ เซา คริสโตวัว ในเมือง ริโอ เดอ จาเนโร และแน่นอนผมลงเล่นฟุตบอลชายหาดเท้าเปล่าด้วย"
บนหาดทรายที่บอลกระเด็นกระดอน เขายังสามารถควบคุมลูกให้อยู่กับเท้าได้อย่างประหลาด ดังนั้นเมื่อมาเล่นบนสนามหญ้ามันยิ่งเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาเข้าไปอีก สิ่งที่โรนัลโด้เป็นมันยิ่งกว่าการฝึกฝน แต่มันคือสิ่งที่เรียกว่าสัญชาตญาณอย่างแท้จริง จริงๆ แล้วเขาจะทำให้การยิงประตูมันง่ายๆ ก็ได้ แต่หากให้ทำแบบนั้นเขาบอกว่ามันไม่ใช่ตัวตนของเขาเท่านั้นเอง นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมเขาจึงชอบเอาชนะกองหลังก่อนที่จะส่งบอลเข้าไปกองที่ตาข่าย
พรสวรรค์ในการควบคุมความเร็ว
แม้ โรนัลโด้ จะบอกว่ามันเป็นนิสัยและสัญชาตญาณในการชอบเอาชนะกองหลัง แต่ในความจริงแล้วหากปราศจากพรสวรรค์เขาก็คงทำในสิ่งที่คิดได้ยาก เรื่องนี้ ริคาร์โด้ กาก้า ที่อยู่ร่วมทีมชุดแชมป์โลกในปี 2002 บอกเล่าตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยเจอใครที่ "จัดการกับความเร็วของตัวเอง" ได้ดีมากกว่า โรนัลโด้ R9 เลยสักคนเดียว
Photo : Reuter
"สำหรับผม เขาคือผู้เล่นที่สามารถใช้ความคิดไปพร้อมๆ กับการเล่นและตัดสินใจทำอะไรได้อย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ที่สำคัญสิ่งที่เขาคิดมักจะเป็นทางเลือกในการตัดสินใจที่ดีที่สุดอีกด้วย" กาก้า เริ่มเล่าถึงรุ่นพี่ที่คว้าแชมป์โลกมาด้วยกัน
"ความเร็วของเขาสูสีกับความคิดและการตัดสินใจของเขาด้วย สปีดของทั้งคู่ (ร่างกาย และ ความคิด) เป็นไปตามสิ่งที่เขาอยากจะทำ เหลือเชื่อ! มันสมบูรณ์แบบอย่างน่าอัศจรรย์"
ในการสับขาหลอก มันคือการดึงจังหวะของคนที่กำลังเลี้ยงบอลเพื่อหาเวลาเพียงเสี้ยววินาทีในการพาบอลไปอีกทางจุดบอดของกองหลังที่เข้ามาประกบ ดังนั้นหากทำได้เร็วพอก็มีโอกาสที่จะเอาชนะการดวล 1-1 ได้
อย่างไรก็ตามทุกวันนี้เรายังเห็นนักบอลหลายคนที่คิดว่าการสับขาหลอกนั้นเป็นเรื่องง่ายๆ หลายคนสับขารวดเร็วทว่าไม่เกิดประโยชน์ เพราะแม้จะสับขาแบบมีความเร็วแต่จังหวะมันไม่ได้ ก็ยากที่จะหลอกและผ่านใครไปได้ง่ายๆ
คำตอบอยู่ตรงนี้แล้วว่าทำไม โรนัลโด้ จึงผ่านคู่แข่งได้อย่างง่ายดาย อย่างที่ กาก้า บอก โรนัลโด้ เป็นคนที่ควบคุมความเร็วของตัวเองในเวลามีบอลเก่งมาก จังหวะไหนควรจะไป จังหวะไหนควรจะสับกี่ครั้ง มันคือเรื่องของการควบคุมและการตัดสินใจภายในเวลาแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น
"ผมไม่เคยจับเวลาหรอกว่าตัวเองวิ่งเร็วแค่ไหนในระยะ 100 เมตร แต่ถ้าระยะสั้นๆ 20-30 เมตรก็เคยมีบ้างทั้งแบบที่เลี้ยงบอลไปด้วยแล้วก็แบบวิ่งตัวเปล่า" โรนัลโด้ ตอบคำถามเรื่องความเร็วของตัวเองที่หลายคนสงสัย
Photo : bleacherreport.com
แม้ตัวของเขาเองจะไม่เคยจับ ทว่า FourFourTwo เว็บไซต์ฟุตบอลชื่อดังได้ทำการศึกษาและพบว่า โรนัลโด้ นั้นสามารถวิ่งระยะ 100 เมตรได้ด้วยความเร็ว 10.3 วินาที หากคุณยังไม่เห็นภาพให้นึกภาพเอาว่า ยูเซน โบลท์ นักวิ่งเหรียญทองโอลิมปิกชาว จาไมก้า ทำสถิติโลกการวิ่งระยะ 100 เมตรภายในเวลา 9.58 วินาที ... R9 ช้ากว่าเพียงราว 0.8 วินาทีเท่านั้นเอง
โรนัลโด้ เล่าว่าเขาไม่คิดว่าตัวเองเร็วอะไรมากมาย และเฉลยว่าแท้จริงแล้วเขาชอบที่จะวิ่งไปพร้อมกับลูกบอลและทำได้ดีกว่าการวิ่งปกติ
"มีเรื่องน่าแปลกอยู่อย่างหนึ่ง คือเวลาที่ผมวิ่งไปพร้อมกับบอลผมกลับทำเวลาเร็วกว่าวิ่งตัวเปล่าเสียอีก" โรนัลโด้ กล่าว
บางคนเกิดมาเพื่อวิ่งระยะไกล บางคนเกิดมาเพื่อวิ่งระยะสั้น แต่ R9 เกิดมาเพื่อวิ่งไปพร้อมกับฟุตบอล ... นั่นคงเป็นสิ่งที่เจ้าตัวพยายามจะบอกในทางอ้อม แม้เขาจะไม่รู้ตัวก็ตามว่า ไม่ว่าระยะไหนเขาก็วิ่งได้ทั้งหมดนั่นแหละ
สับขาแบบ R9
ก่อนที่จะเริ่มต้นเขียนบทความนี้ เราได้ลองเปิดคลิปวีดีโอของยอดนักสับขาหลอกหลากหลายคนทั้ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หรือ CR7, โรบินโญ่, โรนัลดินโญ่, หลุยส์ นานี่ รวมถึงใครก็ตามที่พอจะหาดูได้แม้กระทั่ง ซีเนดีน ซีดาน ด้วย เราได้พบว่าการสับขาหลอกของแข้งแถวหน้านั้นแบ่งออกเป็นกว้างๆ ได้ 3 ประเภท (ซึ่งจริงๆ อาจจะมีมากกว่านี้)
Photo : www.sportskeeda.com
1. สับขาพร้อมๆ กับโน้มตัวไปข้างหน้า : นี่คือท่าที่ R9 และ โรนัลดินโญ่ ใช้ พวกเขามักจะใช้การสับขาในขณะที่บอลกลิ้งไปข้างหน้าในลักษณะที่เราเรียกกันว่า "การเลี้ยงจี้" จุดสังเกตคือแนวของหน้าอกของพวกเขาจะอยู่นำหน้าลูกฟุตบอลไปอีกด้วยซ้ำ ซึ่งมันเป็นการตั้งท่าเพื่อที่จะเตรียมตัว "ชิงจังหวะสุดท้าย" โดยการเลือกทิศทางและพุ่งตัวไปข้างหน้าเพื่อผ่านกองหลังคู่แข่ง ส่วนใหญ่มักจะด้วยการที่พวกเขาเหล่านี้ "พาทัวร์" เป็นประจำ
2. สับขาด้วยความเร็ว : ท่านี้ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือ CR7 และโรบินโญ่ที่มักจะใช้ประจำตอนที่บอลหยุดนิ่งอยู่กับที่และประจันหน้ากับตัวประกบ ลักษณะการสับของ โรบินโญ่ นั้นจะถี่และมากครั้งกว่าคนอื่นๆ พอสมควร เพราะเขามักจะสับจนกว่าจะตัวประกบจะหลง เมื่อกองหลังเริ่มยื่นขาเข้ามาสกัดเขาจะเริ่มเอาเท้าแตะบอลทันที ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในกรอบเขตโทษและจบลงด้วยการที่เขาโดนเตะขาและทีมได้ลูกโทษ
3. สับช้าๆ และใช้เอวในการโยก : ซีเนดีน ซีดาน มักจะใช้การสับขาแบบไม่เร็วเท่าลักษณะคนด้านบน แต่ลักษณะการสับแบบซีดานมักจะใช้จังหวะการสับไม่กี่ครั้งและหลังจากนั้นเขาจะปล่อยบอลให้กับเพื่อนร่วมทีมทันที ซึ่งดูๆ แล้วเป็นเหมือนการดึงจังหวะรอการเติมจากเพื่อน ซึ่งหากไม่มีคนเติมมารับบอล ตัวเลือกที่ 2 ของซีดานคือพาบอลไปเอง แม้ตัวของเขาจะไม่เร็วเท่าชื่อด้านบนที่กล่าวมา แต่ส่วนใหญ่ปลายทางก็ไม่ต่างกันนัก ซีดาน มักเอาตัวรอดและไม่เสียบอลได้ทุกครั้งไป
Photo : www.sportskeeda.com
ทุกรูปแบบของการสับขานั้นมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน แต่เหตุผลที่ว่าทำไมการสับของ R9 มันจึงยากที่ยากจะหยุดนั้นง่ายมาก มันคือสิ่งที่เราได้บอกไว้ก่อนหน้านี้ การชอบเอาชนะโดยสัญชาตญาณและพรสวรรค์ในการควบคุมความเร็วและการตัดสินใจ ทุกอย่างประมวลผลได้ภายในเสี้ยววินาที มันเหมือนกับมีเสียง "ปัง!" ... แค่เสียงนี้ดังขึ้นในหัวเขาจะเลือกทันทีว่าจะไปทำอย่างไรต่อไป และอย่างที่ กาก้า ยืนยันไว้คือส่วนใหญ่แล้วเขา "มักจะ" ตัดสินใจถูกจังหวะเสมอ
มีเรื่องตลกที่ถูกเปิดเผยขึ้นในอีกหลายปีหลัง มันเป็นคลิปวีดีโอที่ถูกบันทึกในแคมป์ฝึกซ้อมทีมชาติฝรั่งเศส ในสมัยฟุตบอลโลกปี 1998 บรรยากาศภายในคลิปเป็นการจับกลุ่มคุยกันของแนวรับของทีมชาติฝรั่งเศสที่เป็นระดับ "โคตรพระกาฬ" อย่าง มาร์กแซล เดอไซญี่, ลิลิยอง ตูราม, ฟร้องค์ เลอเบิฟ และ บิเซนเต้ ลิซาราซู จับกลุ่มคุยกันเกี่ยวกับกองหน้าของบราซิลที่เป็นคู่ชิงชนะเลิศในฟุตบอลโลกครั้งนั้นของพวกเขา
เอเม่ ฌักเกต์ กุนซือของทีมตราไก่ชุดนั้นเริ่มประเด็นดังกล่าว เขาเดินเข้ามากลางวงของกองหลังทั้งสี่คน และเริ่มบอกกับลูกทีมของเขาถึงการสับขาหลอกของโรนัลโด้
"ระวังให้ดีการเลี้ยงบอลของ โรนัลโด้ จะเป็นลักษณะนี้นะ เขาจะสับขาแบบนี้เสมอ เขาจะเน้นไปทางขวาเสมอ ไม่ค่อยไปทางอื่นเท่าไหร่หรอก เขาจะสับหลอกเหมือนไปทางซ้าย" ฌักเกต์ เริ่มกล่าวได้ไม่ทันไร เดอไซญี่ ก็สวนทันที
"โอ้ย ผมเคยเจอแล้ว ... เขาเคยเล่นแบบนี้ใส่ผมตอนที่ผมอยู่มิลาน (ขณะนั้น โรนัลโด้ เล่นให้ อินเตอร์) เขาทำแบบเนี้ยะ! (ทำใช้มือตัวเองแสดงเป็นขวาของโรนัลโด้) ฟึ้บๆๆๆ (ทำเสียงประกอบ) ผมมองไม่เห็นบอลเลย เอาเถอะไม่ว่าเขาจะเลือกไปทางซ้ายหรือขวาคุณมองไม่ทันหรอก พอเขาผ่านไปแล้วคุณจะแบบ แล้วไหนวะบอล? ... ไปโน่นแล้ว หมอนี่มันทำเหมือนกับเล่นมายากล" เดอไซญี่ หันไปเล่าให้เพื่อนๆ ฟังสำหรับประสบการณ์โดน โรนัลโด้ เผาในเซเรีย อา ก่อนที่ทุกคนจะขำก๊ากออกมาโดยไม่ได้นัดหมาย
นอกจากนี้ ตูราม ที่เล่นให้กับ ปาร์ม่า ในเซเรีย อา เหมือนกันจะเสริมต่อว่า "อืม ใช่ ก้มลงมองเท้าเขานิดเดียว บอลก็ไปโน่นแล้ว"
Photo : @90sFootball
จริงๆ แล้วเราไม่รู้ว่าคำตอบของใครกันแน่ที่ถูกต้องไม่ว่าจะมุมมองของ ฌักเกต์ ที่บอกว่า โรนัลโด้ ไปแค่ทางขวาข้างเดียว หรือของ เดอไซญี่ ที่บอกว่า "เอาเถอะ ข้างไหนก็ช่างประกบไม่ทันหรอก" เพราะอันที่จริง เราเห็นภาพที่โรนัลโด้โยกออกทางซ้ายไปซัดประตูอยู่บ่อยๆ เป็นประจำ ซึ่งส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะการที่เจ้าตัวมักจะมีพื้นที่หากินทางกราบซ้ายของสนามเสียเป็นส่วนมากด้วย
ทว่าเรื่องโรนัลโด้ชอบสับขาหลอกไปทางไหนกันแน่ไม่ใช่แค่เราเท่านั้นที่สงสัย ชาวเน็ตทั่วโลกทั่งในเว็บบอร์ดอย่าง reddit และ quora ก็ยังมาถกเรื่องนี้เช่นกัน และเราเจอคำตอบที่อาจจะไม่ชัดเจนหรอกว่าเขาไปฝั่งไหน แต่มันคือคำตอบที่หาทางลงให้คำถามนี้ได้สวยที่สุด
"ไม่จริงหรอก (ที่โรนัลโด้สับขาหลอก และไปได้แค่ด้านใดด้านหนึ่งเพียงอย่างเดียว)" เหตุผลที่ เปาโล มัลดินี่ และ อเลสซานโดร เนสต้า เรียกเขาว่าฝันร้ายมันแสดงออกชัดเจนว่าเขาไม่ใช่ของปลอม ไม่ว่าจะโรนัลโด้จะเลือกไปฝั่งซ้ายหรือขวาก็ไม่มีใครบอกได้หรอก"
"เขาฉลาดมาก และเร็วมากในเวลาเดียวกัน เรื่องมันก็ง่ายๆ แบบนั้นเอง ... ถ้าคุณดักด้านซ้าย เขาก็จะไปด้านขวา และถ้าคุณดักด้านขวา เขาก็จะไปที่ด้านซ้ายของคุณ ... แต่ก็อีกนั่นแหละ ต่อให้คุณดักถูกบางทีเขาก็อาจจะแตะลอดขาคุณก็ได้ ยินดีด้วย!"
คำตอบนี้ถือว่าค่อนข้างน่าฟังและเป็นจุดกึ่งกลางของเรื่องนี้มากที่สุด เรื่องราวมันตรงกับที่ กาก้า บอก "เร็วและฉลาด" ส่วนเรื่องที่ มัลดินี่ บอกว่าเขาเป็นฝันร้ายก็เป็นเรื่องจริงอีกนั่นแหละ
Photo : www.flickr.com
"คุณคิดดูนะผมจับคู่กับ มัลดินี่ กองหลังที่ดีที่สุดในโลก แต่ตอนประกบ โรนัลโด้ นั้น มัลดินี่ บอกผมว่า มาร์แซล แกต้องคอยซ้อนฉันไว้นะโว้ย ฉันต้องการความช่วยเหลือจากแก" นี่คือสิ่งที่ เดอไซญี่ เล่าถึง โรนัลโด้ ในวันที่ถูกเรียกว่า "ปรากฎการณ์" ก่อนที่เขาจะได้รับบาดเจ็บและสูญเสียพรวรรค์กับสัญชาตญาณทั้งหมดไปในภายหลัง
แม้ช่วงระเบิดความสุดยอดของ โรนัลโด้ จะเป็นช่วงสั้นๆ ไม่ได้ยืนระยะยาวนานเหมือนกับที่ CR7 หรือ ลิโอเนล เมสซี่ ยืนระยะบนจุดสูงสุดได้นานกว่า 10 ปี แต่ความยิ่งใหญ่ของ R9 ยังถูกเล่าขานมาจนถึงทุกวันนี้ ... แค่นี้ก็ยืนยันความสุดยอดของเขาได้เป็นอย่างดีแล้ว
อัลบั้มภาพ 15 ภาพ