เชลซี 7-1 กริมส์บี : เก็บตกทุกประเด็นร้อนหลังเกม คาราบาว คัพ
ฟุตบอล คาราบาว คัพ รอบที่ 3 2019/20
คืนวันพุธที่ 25 กันยายน 2019
เชลซี 7-1 กริมส์บี
สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์
เชลซี เปิดบ้านถล่ม กริมส์บี ทาวน์ ทีมจาก ลีกทู ไปอย่างขาดลอย 7-1 โดยได้ประตูจาก รอส บาร์คลีย์ นาทีที่ 4 มิชี บาตชูอายี นาทีที่ 7, 86 เปโดร นาทีที่ 43 เคิร์ท ซูมา นาทีที่ 56 รีส เจมส์ นาทีที่ 82 และ คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย นาทีที่ 89 ส่วนทีมยืนได้หนึ่งประตูจาก แมท กรีน ในนาทีที่ 19 จบเกมด้วยสกอร์ 7-1 เป็นชัยชนะในบ้านนัดแรกของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ตั้งแต่เข้ามาคุมทีมในฤดูกาลนี้
เริ่มครึ่งเวลาแรกเป็นเจ้าบ้านที่โหมบุกเข้าใส่อย่างหนัก จนกระทั่งนาทีที่ 4 สิงห์บลู ได้ประตูออกนำก่อนจาก บาร์คลีย์ ที่ลากเดี่ยวเข้าไปยิงแบบดื้อ ๆ ให้ทีมออกนำ 1-0
จากนั้นนาที 7 เจ้าถิ่นนำห่าง 2-0 จากจังหวะเปิดเข้ากลางของ รีส เจมส์ และเป็น บาตชูอายี เก็บบอลได้ก่อนซัดด้วยซ้ายเสียบมุมเข้าไป
ทีมเยือนได้ประตูตีไข่แตกในนาทีที่ 19 จาก แมท กรีน ที่รับบอลเปิดยาวจากผู้รักษาประตู แล้วกดเต็มข้อเข้าไป ไล่ตามมาเป็น 2-1
จนกระทั่งท้ายครึ่งแรก เชลซี ยิงเพิ่มเป็น 3-1 จากลูกจุดโทษที่ ซูมา ถูกทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษ และเป็น เปโดร สังหารเข้าไปไม่พลาด และจบครึ่งเวลาแรกด้วยสกอร์ 3-1
เริ่มเกมในครึ่งหลัง เจ้าบ้านยังคงเปิดเกมบุกใส่ผู้มาเยือนอย่างต่อเนื่อง ในนาทีที่ 56 พลพรรคเดอะบลู นำห่างจากการเปิดเข้ามาของ เจมส์ ให้ ซูมา ชาร์จจ่อ ๆ ให้ทำนำ 4-1
ช่วงท้ายเกม สิงห์บลูมาได้อีก 3 ประตูรวดในช่วง 10 นาทีสุดท้าย จาก รีส เจมส์ นาทีที่ 82 บาตชัวอายี นาที 86 และปิดด้วย โอดอย นาทีที่ 89 ก่อนจะจบเกมด้วยชัยชนะอย่างท่วมท้นของทัพสิงโตน้ำเงินคราม 7-1
คะแนนนักเตะ เชลซี
เชลซี : กาบาเยโร (6), เจมส์ (9)*, ซูมา (8), กูยอีห์ (7), อลอนโซ (6.5), บาร์คลีย์ (8.5), กิลมัวร์ (7), เปโดร (7.5), พูลิซิช (7.5), โอดอย (8), บาตชูอายี (8.5)
ตัวสำรอง : แอนจอริน (6.5), มาทเซน (6.5)
ประเด็นร้อนหลังเกม - ชัยชนะในบ้านครั้งแรก
หากใครไม่ได้ติดตามผลงานของทีม สิงโตน้ำเงินคราม ในซีซั่นนี้ คงอาจจะไม่ทราบว่าตั้งแต่กุนซือคนใหม่อย่าง แฟรงค์ แลมพาร์ด เข้ามาคุมทีมพวกเขายังไม่เคยเอาชนะคู่แข่งในเกมที่เล่นใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ ได้เลยแม้แต่แกมเดียว
แต่พวกเขาทำสำเร็จแล้วในเกมวันนี้ แถมยังเป็นชัยชนะที่ท่วมท้นถึง 7-1 ถึงจะเป็นเพียงฟุตบอลถ้วยและคู่แข่งก็เป็นทีมที่เล่นในลีกที่ต่ำกว่า แต่ก็ถือว่าเป็นการเรียกขวัญและกำลังใจให้กับทีมและแฟนบอลได้เป็นอย่างดี แม้ทีมอาจจะยังเสียประตูอยู่ หากมองในแง่ดี อย่างน้อยพวกเขาก็มีเกมรุกที่ดุดันและน่าเกรงขาม ซึ่งเป็นจุดเด่นของทัพสิงห์บลู ภายใต้การคุมทีมของ ซูเปอร์แฟรงค์ ในตอนนี้