ใช่-ไม่ใช่?... "เลวานดอฟสกี้" คือสไตรเกอร์ที่ดีที่สุดในโลก
นอกจากแซร์จ นาบรี้ ที่สร้างความฮือฮา กดสี่ประตูให้ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค บุกไปถล่มท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ ในแชมเปียนส์ลีกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ก็ไม่ได้น้อยหน้าสักเท่าไหร่ เมื่อทำได้สองประตูในเกมนั้นและยืนยันฟอร์มอันร้อนแรงไม่มีตกต่อไป โดยจากการลงเล่นทุกรายการรวม 10 นัด เลวานกดไปถึง 14 ตุงแล้ว วันนี้เรามาวิเคราะห์กันด้วยสถิติดูว่าเลวานดอฟสกี้คือสไตรเกอร์ที่ดีที่สุดในโลกตอนนี้หรือเปล่า…
ถือว่าลีกสูงสุดของเยอรมนีอย่างบุนเดสลีกานั้นไม่เคยขาดกองหน้าระดับโลกเลยทีเดียว ที่ฮือฮากันอยู่ในตอนนี้ นอกจากจะมีทิโม แวร์เนอร์ที่ยิงให้แอร์เบ ไลป์ซิกไป 55 ประตูจาก 99 เกมแล้ว ยังมีปาโก้ อัลกาเซร์ จากโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ที่ทำสถิติยิงทุก 90 นาทีนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมก๊วน “เสือเหลือง” เมื่อช่วงต้นฤดูกาลที่แล้ว
แต่คนที่ทำสถิติได้เหมือนกับสองกองหน้าที่ว่ามา ก็คือโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เจ้าของรางวัลดาวซัลโว 3 สมัยจาก 4 ฤดูกาลล่าสุดของสโมสรบาเยิร์นนั่นเอง...
ถ้าจะให้พูดว่า “เลวานคือศูนย์หน้าสไตรเกอร์ที่ดีที่สุดในบุนเดสลีกา” เชื่อได้เลยว่าน้อยคนนักที่จะกังขาในเรื่องนี้ แต่ถ้าจะบอกว่า “เลวานคือสไตรเกอร์ที่ดีที่สุดในโลกตอนนี้ล่ะ?” ถ้าแบบนี้คงต้องจับเอาศูนย์หน้าตัวท็อปของแต่ลีกชั้นนำ 5 ลีกในยุโรปมาวัดกันดูหน่อย..
ผู้ท้าชิงมีใครกันบ้าง?
ลา ลีกา
แน่นอนว่าทุกคนต้องนึกถึงชื่อ ลิโอเนล เมสซี่ เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์เมื่อปีที่แล้วด้วยสถิติยิง 36 ประตูในลาลีกา แต่ศูนย์หน้าชาวอาร์เจนไตน์รายนี้ไม่ได้ยืนตำแหน่งศูนย์หน้าซะทีเดียว เมสซี่ยืนตำแหน่งต่ำลงมาจนเรียกว่าเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกของบาร์เซโลน่าซะมากกว่า ส่วนอีกคนที่ต้องนึกถึงในทีมเดียวกันก็คือ หลุยส์ ซัวเรซ และที่ลืมไม่ได้จากค่าย “ราชันชุดขาว” ก็คือ คาริม เบนเซม่า ที่ยิงไป 21 ประตูในลีกเมื่อซีซั่นก่อนและกดไปแล้ว 5 เม็ดในซีซั่นล่าสุด
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สำหรับในลีกอังกฤษเมื่อซีซั่นที่แล้ว มีนักเตะถึง 3 คนที่ได้ตำแหน่งรองเท้าทองคำจากผลงานยิง 22 ประตู ได้แก่ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยัง และสองแข้งดังจากลิเวอร์พูล ซาดิโอ มาเน่ กับ โมฮาเม็ด ซาลาห์ แต่ถ้าดูตามตำแหน่งแล้ว สองดาวยิงจากทีม “หงส์แดง” นั้นไม่ได้ยืนเป็นสไตรเกอร์ แต่จะเล่นเป็นกองหน้าตัวข้างมากกว่า คนที่ดูจะเป็นสไตรเกอร์ที่โดดเด่นในพรีเมียร์ลีกน่าจะเป็น เซร์คิโอ กุน อเกวโร่ ที่มีสถิติยิงประตูสูงถึง 0.87 ประตูต่อเกม ในขณะที่สถิติของโอบาเมยังอยู่ที่ 0.76 ประตูต่อเกม
เซเรีย อา และ ลีกเอิง
ตัวท็อปจากสองลีกนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ยืนตำแหน่งสูงจนแทบจะเป็นสไตร์เกอร์ และฟาบิโอ กวายาเรลล่า (ที่ยิงมากกว่าโรนัลโด้ในซีซั่นก่อนถึง 5 ประตู) ส่วนคีเลียน เอ็มบัปเป้ ทำสถิติการยิงประตูสูงถึง 1.21 ประตูต่อนัดเลยทีเดียว
ยกที่ 1: ระยะเวลาที่ใช้ในการทำประตู
(นับเป็นจำนวนนาทีต่อการยิงหรือจ่ายแอสซิสต์ 1 ประตูให้สโมสรหรือทีมชาตินับตั้งแต่เริ่มฤดูกาล 2018/19)
เอ็มบัปเป้: 76
อเกวโร่: 80
เลวานดอฟสกี้: 88
โรนัลโด้: 97
เบนเซม่า: 107
มีนักเตะในลีกท็อป 5 ของยุโรปเพียง 3 คนเท่านั้นที่มีสถิติยิงหรือจ่ายน้อยกว่าทุกๆ 90 นาที ได้แก่เอ็มบัปเป้ อเกวโร่ และเลวานดอฟสกี้ งานนี้โรนัลโด้ยังเทียบสามคนนี้ไม่ติด...
แม้เลวานดอฟสกี้จะเป็นรองเอ็มบัปเป้และอเกวโร่ แต่อย่าลืมว่าสถิตินี้นับการยิงและจ่ายในทีมชาติด้วย ซึ่งเอ็มบัปเป้คือแชมป์โลกสมัยล่าสุด! เขามีเพื่อนร่วมทีมที่แข็งแกร่งและได้เล่นกับทีมที่อ่อนชั้นกว่าอยู่หลายนัด ส่วนเลวานดอฟสกี้อยู่ทีมชาติโปแลนด์ที่มีอันดับฟีฟ่าแรงกิ้งต่ำกว่าฝรั่งเศสถึง 20 กว่าอันดับ จึงไม่แปลกที่สถิติในนามทีมชาติของเลวานจะไม่ค่อยหวือหวานัก
ส่วนอเกวโร่นั้นคือสไตรเกอร์ที่ยอดเยี่ยมและได้รับการยอมรับอย่างสูง แต่สถิติที่ดูสูงถึง 1 ประตูในทุกๆ 80 นาทีนั่นก็เพราะเขามักถูกเปลี่ยนตัวออกเสมอทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติรวมแล้วถึง 36 ครั้ง! ในขณะที่เลวานถูกเปลี่ยนออกแค่ 7 ครั้งเท่านั้น
ยกที่ 2: ยิงด้วยเท้าขวา/ซ้าย/โหม่ง?
เปอร์เซ็นต์การยิงด้วยเท้าขวา (R), เท้าซ้าย (L) และโหม่งทำประตู (H)
โรนัลโด้: R 45%, L 20%, H 35%
อเกวโร่: R 61%, L 26%, H 13%
เลวานดอฟสกี้: R 64%, L 13%, H 24%
เบนเซม่า: R 56%, L 6%, H 38%
เอ็มบัปเป้: R 89%, L 11%, H 0%
เห็นได้ชัดเจนว่านักเตะที่ทำประตูได้หลากหลายที่สุดก็คือโรนัลโด้ แต่ที่น่าทึ่งก็คือนักเตะที่เริ่มเล่นฟุตบอลในตำแหน่งปีกอย่างโรนัลโด้กลับทำประตูจากลูกโหม่งได้ถึง 35% เลยทีเดียว ส่วนอเกวโร่และเลวานดอฟสกี้ก็ทำได้ไม่เลว ในขณะที่เอ็มบัปเป้ไม่เคยโหม่งเข้าเลยนับตั้งแต่ต้นฤดูกาล 2018/19 แถมยังยิงด้วยเท้าขวาแทบทุกลูก อีกอย่างที่น่าสังเกตก็คือเบนเซม่าคือนักเตะที่มีเปอร์เซ็นต์ยิงประตูด้วยการโหม่งสูงสุด
ต้องบอกก่อนว่าสถิตินี้อาจไม่ใช้ตัวชี้วัดที่ฟันธงได้ชัดเจนว่าใครดีกว่าใคร เพราะยังมีบางเหตุการณ์ที่นักเตะสามารถทำประตูเพื่อเพิ่มสถิติของตัวเองได้ แต่กลับเลือกที่จะไม่ทำ! เราแทบไม่ค่อยเห็นนักเตะอย่างโรนัลโด้ฉลองดีใจกับเบนเซม่าหรือเกเร็ธ เบลบ่อยนัก ในทางกลับกัน นักเตะเจ้าสถิติอย่างเลวานดอฟสกี้กลับเลือกที่จะยกลูกจุดโทษที่เป็นหน้าที่ของตนเองให้คูตินโญ่ยิงแทนเพื่อที่คูตี้จะได้ยิงเปิดบัญชีประตูแรกกับทีมเสือใต้ น่าคิดไหมล่ะ…
ยกที่ 3: ยิงได้ไหมในเวลาที่ทีมต้องการ
(ยิงประตูชัย)
เลวานดอฟสกี้: 15
เบนเซม่า: 13
อเกวโร่: 12
โรนัลโด้: 10
เอ็มบัปเป้: 9
งานนี้เป็นเลวานดอฟสกี้ที่ทำได้ดีที่สุด ในขณะที่ศูนย์หน้าทุกคนต่างก็ยิงประตูพาทีมคว้าแชมป์กันเป็นว่าเล่น แต่เลวานดอฟสกี้คือนักเตะคนเดียวที่สามารถพาทีมคว้าแชมป์รวมทั้งคว้ารางวัลเฉพาะตัวนักเตะได้ด้วย (ดาวซัลโวบุนเดสลีกา) เขายิงประตูสำคัญหลายลูกที่สร้างเกียรติยศให้ต้นสังกัดได้สำเร็จ เช่น ยิงดอร์ทมุนด์ถึง 4 ประตูในเกมลีก “แดร์ คลาสสิกเคอร์” ซึ่งสุดท้ายพาทีมเฉือนแชมป์จากทัพเสือเหลืองมาได้ ยิงสองประตูดับฝันไลป์ซิกในนัดชิงเดเอฟเบคัพ เชื่อว่าตอนนี้เลวานน่าจะหวังลึกๆ ว่าจะอยากยิงในลีกให้ได้ 40 ลูกเทียบเท่ากับที่แกร์ด มึลเลอร์เคยทำได้
แล้วเลวานดอฟสกี้คือสไตรเกอร์เบอร์หนึ่งของโลกหรือเปล่า?
หากคู่แข่งคือโรนัลโด้ ก็ถือเลวานดอฟสกี้ทำผลงานแซงโรนัลโด้ไปแล้วในเวทียูเอฟ่า แชมเปียนส์ลีกเมื่อนับจำนวนประตูรวมที่ยิงได้ตั้งแต่เมื่อเริ่มฤดูกาลก่อน
ด้วยฟอร์มอันคงเส้นคงวาเดินหน้ายิงประตูมากขึ้นเรื่อยๆ เลวานดอฟสกี้คือนักเตะที่ครบเครื่องที่สุดในเกมฟุตบอลสมัยใหม่อย่างที่หาใครมาเทียบได้ยากเหลือเกิน เขากลายเป็นนักเตะที่สร้างมาตรฐานของศูนย์หน้าสไตรเกอร์เบอร์ 9 ระดับเวิลด์คลาสขึ้นมาใหม่ซะแล้ว ในทุกวันนี้แฟนบอลทั่วโลกต่างเอาแต่พูดว่าเป็นยุคของ “เมสซี่-โรนัลโด้” ซึ่งฟังดูไม่ค่อยแฟร์กับเลวานสักเท่าไหร่ แต่ก็อย่างว่าแหละ เราคงไม่ได้เห็นกองหน้าอย่างเลวานออกมาบ่นหรอกนะว่าทำไมไม่มีใครยกเขาขึ้นไปเทียบกับเมสซี่-โรนัลโด้บ้าง เพราะศูนย์หน้าอันดับหนึ่งตัวจริงคงคิดแต่เรื่องยิงประตูคู่แข่งเท่านั้น!