หมัดสลายปม : เพจ วานแซนต์ สาวนักสู้ผู้ตามล้างแค้นอดีต ที่เคยถูกล่วงละเมิดทางเพศ
ปัจจุบันนี้มีผู้หญิงหลายคนชอบออกกำลังกาย บ้างก็ออกวิ่ง บางคนก็ชอบปั่นจักรยาน และบางรายก็เข้ายิมเพื่อออกกำลังกายผ่านการชกมวย
ทว่าที่สุดแล้วมีสตรีเพียงหยิบมือเดียวเท่านั้นที่ตัดสินใจเอาทักษะมวยที่ฝึกฝนมาใช้บนเวทีต่อสู้จริงๆ ซึ่งเป็นเวทีที่หากคุณพลาด เลือดพร้อมจะกบปาก จมูกพร้อมจะหัก คิ้วพร้อมจะแตก และแน่นอนว่ามันจะทำให้เธอเสียโฉม ... ผู้หญิงที่พร้อมจะเอาตัวเข้าแลกกับสิ่งนั้นจำเป็นต้องมีความกล้า, ความมั่นใจ และ หัวจิตหัวใจของนักสู้ที่สูงส่ง
และนี่คือเรื่องราวของ เพจ วานแซนต์ นักสู้มวยกรงระดับแถวหน้าของผู้โลก เธอบอกว่าแค่เลือดกบปากมันเรื่องจิ๊บๆ หากเทียบกับอดีตที่เธอเจอมา นั่นคือการ "ถูกข่มขืน"
ติดตามเรื่องราวทั้งหมดได้ที่นี่
เพจ วานแซนต์
ในคืนที่การต่อสู้มวยกรงโหมกระหน่ำด้วยพายุแห่งศาสตร์แห่งการต่อสู้แต่ละแขนง เพจ วานแซนต์ นักสู้หญิงชาวอเมริกัน ขึ้นไปดวลบนเวทีกับ เจสซิกา-โรส คลาร์ก เพื่อหาผู้ชนะในศึก Ultimate Fighting Championship หรือ UFC โดยคู่ระหว่าง วานแซนต์-คลาร์ก ถูกจัดให้เป็นรองคู่เอกของโปรแกรม UFC Fight Night: Stephens vs. Choi เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2018
Photo : metro.co.uk
การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด เพจ ปล่อยหมัดใส่หน้า คลาร์ก ได้จังๆ แต่คู่ชกของเธอก็ยังไม่ยอมร่วง และนั่นอาจจะเป็นความตะลึงที่ทำให้เธอตั้งตัวไม่ทัน "ทำไมไม่ร่วง?" คือความคิดที่เธอสงสัย แต่เผลอแว่บเดียว คลาร์ก ก็เอาเธอลงพื้นได้ และใส่ท่าซับมิชชั่นด้วยการเอาขาเกี่ยวคอ และล็อกแขนขวาของเธอไว้ ขณะที่มืออีก 2 ข้างของ คลาร์ก ถูกใช้เป็นเครื่องบิดสังหารที่พยายามจะหักแขนของ เพจ วานแซนต์ ให้จงได้
คลาร์ก ถูกแฟนมวยกรงตำหนิบ่อยๆ ว่าเป็นนักสู้ที่น่าเบื่อ แต่กระนั้นมันเป็นเพราะว่าเธอไม่ชอบออกหมัดและชอบที่จะใช้การสู้แบบนอนมากกว่า หากว่าเธอจับล็อกใครลงพื้นได้แล้ว รับรองว่ารอดยาก ... ไม่หัก ก็ตบพื้นยอมแพ้ มี 2 อย่างให้เลือกเท่านั้น
เพจ เองก็ไม่รอด ... เสียง "ปล็อก" ดังขึ้นในหูของเธอ เธอรู้แน่ว่าแขนขวาเธอหักแล้ว แต่ความเหลือเชื่ออยู่ที่ว่าเธอรวมกำลังเฮือกสุดท้าย และม้วนตัวขึ้นมาจนหลุดจากล็อกได้ในเวลาที่ คลาร์ก ชะล่าใจ ... เธอ ลุกขึ้นยืนสู้ต่อในสภาพที่แขนขวาใช้การไม่ได้และตัดสินใจว่า "ไม่ยอมแพ้" เพราะนี่คือไฟต์แรกที่เธอขยับมาสู้รุ่นฟลายเวต ของศึกมวยกรงที่เธอทุ่มเทแทบทุกอย่างเพื่อให้ได้โอกาสนี้
"อยากจะสู้ต่อให้จบ ... กว่าจะมาถึงไฟต์นี้ฉันทุ่มเทอะไรไปไม่น้อย และเพื่อก้าวข้ามสิ่งนั้นฉันจะไม่ยอมให้กับเรื่องแค่ แขนหัก พาฉันออกจากการแข่งขันหรอก" เพจ เล่าให้กับ The Guardian ฟัง
Photo : www.bloodyelbow.com
15 นาทีเต็มๆ ที่เธอสู้กับ คลาร์ก ต่อ จนกระทั่งครบ 3 ยก (กติกาของ UFC จะสู้กัน 3 ยก ยกละ 5 นาที ยกเว้นคู่เอกหรือชิงแชมป์ จะสู้กัน 5 ยก ยกละ 5 นาที) ก็ไม่มีอะไรผิดคาด เธอแพ้ไปตามสภาพ ... ใครอาจจะบอกว่าเธอโง่ที่ยอมเอาอนาคตของตัวเองไปแลกกับชัยชนะไฟต์เดียว แต่เธอไม่คิดอย่างนั้น เพราะสิ่งที่เธอคิดไว้ก่อนขึ้นชกไม่ใช่การชนะคู่แข่งเป็นอย่างแรก แต่เธอต้องการพิสูจน์ว่าเธอได้ก้าวข้ามอะไรบางอย่างภายในจิตใจได้สำเร็จ
และเมื่อมีคนถามว่าต่อให้เธอสามารถสู้ต่อได้ครบยกจริง แต่ที่ทุกคนสงสัยคือการสู้ขณะที่แขนหักมันทรมานขนาดไหน ... เธอตอบกลับไปว่าแค่นี้เรื่องขี้ผง หนักกว่านี้ร้อยเท่าเธอก็เจอมาแล้วเมื่อตอนที่เธออายุ 14 ปี
นรกของหญิงสาว
เรื่องราวเมื่อหลายปีก่อนของเพจ เริ่มขึ้นเหมือนกับหนังไฮสคูลสักเรื่องที่ประกอบด้วย หนุ่มหล่อ, สาวฮ็อต, นักกีฬา, พวกติสต์แตกหลุดโลก, เด็กที่เป็นลูกไล่และโดนกลั่นแกล้งทุกครั้งที่มีซีน ซึ่งเด็กหญิง "เพจ มิเชล สเล็ทเท่น" คืออย่างหลังสุด เธอคือสาวเนิร์ดที่โดนแกล้ง และเลวร้ายยิ่งกว่านั้น คือ ไม่มีเพื่อนคบแม้แต่คนเดียว
พ่อของแม่เธอเป็นเจ้าของสตูดิโอสำหรับเรียนเต้น ขณะที่เธอเองก็เป็นคนชอบเด็กที่ชอบเต้นบัลเล่ต์ และฮิปฮ็อปแดนซ์ ซึ่งพรสวรรค์เรื่องนี้ทำให้เธอเคยได้ปรากฎตัวในโฆษณาไม้ถูพื้น Bissell มาแล้ว
เมื่อเริ่มโตขึ้น ตอนอายุ 13 ปี เพจ มักจะถูกเพื่อนหรือคนอื่นๆ มองว่าเป็นทอมบอย เพราะเธอชอบตกปลา, ยิงปืน, ล่าสัตว์, ปั่นจักรยาน และเล่นอะไรที่เลอะเทอะเหมือนกับเด็กผู้ชาย ซึ่งมันทำให้เธอเข้ากับใครไม่ค่อยได้
1 ปีแรกในการเรียนระดับมัธยมต้นเป็นอะไรที่ยากลำบาก ขณะที่เด็กคนอื่นตั้งแก๊ง ไปเที่ยวกันทุกวันหยุด หรือกระทั่งเฝ้ารองานปาร์ตี้หลังเลิกเรียน แต่สำหรับ เพจ ประสบการณ์ในวัยเรียนเหล่านั้น ... ไม่มีเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ช่วงชีวิตวัยรุ่นเป็นช่วงชีวิตที่คาดเดาอะไรไม่ได้เลยแม้แต่น้อย แต่ร้อยทั้งร้อย วัยรุ่นทุกคนต้องการเพื่อนที่อยู่เคียงข้าง ต่อให้จะบ้านรวย มีความสามารถและมีชื่อเสียง ทว่าหากไร้ซึ่งเพื่อนซี้แล้วชีวิตวัยรุ่นก็คงไม่ถูกเติมเต็มรสชาติให้สมบูรณ์นัก
"แย่มาก ... มากที่สุดเท่าที่ฉันจะจินตนาการได้" เพจ เล่าถึงตอนที่เธอเข้าเรียนมัธยม "ฉันไม่มีเพื่อนเลย ทุกช่วงพัก ฉันจะไปหยิบอาหารและเอามันเข้าไปกินในห้องน้ำ เพราะฉันรู้สึกกลัวเกินกว่าจะไปนั่งกินในโรงอาหารร่วมกับคนอื่นๆ"
สภาพจิตใจของเธอนั้นย่ำแย่ เธออยากจะมีใครสักคนที่ชวนเธอไปเล่นสนุกหรือทำอะไรบ้าๆ แบบที่เคยดูในหนังบ้าง จนกระทั่งวันหนึ่งมีกลุ่มเพื่อนมาชวนไปปาร์ตี้ และแน่นอนว่ามันคือสิ่งที่เธอรอมันอยู่เสมอ
"ว้าว มีใครบางคนอยากจะเป็นเพื่อนกับฉันล่ะ" นั่นคือสิ่งที่เธอคิดในตอนแรก
อย่างไรก็ตามงานปาร์ตี้ ในครั้งนั้นมันเปลี่ยนชีวิตเธอ อย่างที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ช่วงชีวิตวัยรุ่นเป็นช่วงชีวิตที่คาดเดาอะไรไม่ได้ สวรรค์กับนรกนั้นห่างกันแค่คืบเดียว เพจ แค่เข้าไปในงานและสนุกกับคนอื่นๆ จนกระทั่งวัยรุ่นชายกลุ่มหนึ่งเข้ามารุมล้อมเธอ ... และเริ่มใช้ความรุนแรง สุดท้ายเธอถูกจับล็อกโดยไร้การขัดขืน
Photo : timesofcbd.com
"พวกเขาจับฉันย้ายไปที่นั่นทีที่นี่ที พลิกตัวฉันอยู่หลายตลบ ฉันพยายามต่อต้านแล้ว แต่ทุกครั้งที่คิดจะดิ้นเหมือนว่าแขนกับขาของฉันโดนโบกด้วยปูนซีเมนต์ และสมองของฉันมันเหมือนมีหมอกหนาทึบจนดูเบลอไปหมด"
เธอว่าไว้เช่นนั้น แต่มันคงจะดีเสียกว่าถ้าเธอขาดสติหรือสลบไป เพราะหลังจากถูกล็อก กลุ่มวัยรุ่นชาย "จำนวนหนึ่ง" รุมข่มขืนเธอ เธอไม่ได้สมยอม แค่เธอต่อต้านไม่ไหว ที่ร้ายกว่านั้นคือเธอมีสติอยู่ทุกวินาทีที่โดนกระทำชำเรา ... ไม่มีใครหยุดมันได้ นอกจากปล่อยให้มันจบลงตามที่วัยรุ่นกลุ่มนั้นจะพอใจ
เมื่องานปาร์ตี้จบลง เพจ แบกร่างกายไร้จิตวิญญาณของตัวเองกลับบ้าน ปิดห้องเงียบไม่กล้าที่จะบอกกับพ่อและแม่ว่าตนเองถูกข่มขืนมา ดังนั้นเธอจึงยังต้องไปโรงเรียนปกติ ... ที่ผิดจากปกติเพราะตอนนี้มันเลวร้ายที่สุดเท่าที่เด็กอายุ 14 ปี จะจินตนาการได้ แค่ไม่มีเพื่อนก็ว่าแย่แล้ว แต่นี่เธอกลับถูก "บูลลี่" ด้วยถ้อยคำที่ยิ่งฟังยิ่งช้ำ ราวกับเธอตกนรกทั้งเป็น
ข่าวลือจากงานปาร์ตี้สะพัดไปทั่วโรงเรียน แต่สิ่งที่คนพูดถึง คือ การบอกกันปากต่อปากคือ "เธอคือนังร่านมั่วผู้ชาย เปลี่ยนคู่นอนมากมายในราตรีเดียว" ... แน่นอนนั่นห่างจากความจริงที่เกิดขึ้นชนิดคนละโลกและถีบเธอตกนรกทั้งเป็น
Photo : abcnews.go.com
เพื่อนที่โรงเรียนรุมแกล้งเธอหนักยิ่งขึ้น ทั้งการล้อเลียน และเปลี่ยนชื่อเธอจาก เพจ สเล็ทเท่น (Sletten) เป็น เพจ สลัททั่น (Slutton : รากศัพท์มาจาก Slut = ร่าน) จนเรียกเธอชื่อนี้กันทั้งโรงเรียน และแทบทุกวันที่เธอตื่นมา เด็กๆ แถวนั้นจะเอาถุงยางอนามัยมาแขวนที่ต้นไม้หน้าบ้านเธอราวกับมันเป็นเทศกาลคริสต์มาส
"หากคุณลองได้เจออะไรแบบนี้หรือได้มาอยู่จุดเดียวกับฉันในช่วงมัธยม คุณจะรู้สึกได้ว่าชีวิตคนเรามันเกิดมาเพื่อพบเจอกับความโดดเดี่ยวและน่าสังเวช ฉันทบทวนดูว่าจะฆ่าตัวตายดีหรือเปล่า แต่พอได้นั่งคิดดีๆ แล้วฉันไม่ได้อยากตาย ฉันแค่ไม่อยากจะต้องเจ็บปวดแบบนี้อีกต่อไป" เธอกล่าวผ่านหนังสือ Rise: Surviving the Fight of My Life
ครอบครัวนักสู้
เมื่อการล้อเลียนเปลี่ยนเป็นการคุกคาม เธอตัดสินใจบอกความจริงกับพ่อและแม่ของเธอ และนั่นคือการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดเท่าที่เธอเคยทำมา
พ่อของเธอคือคนที่ยืนเคียงข้าง เขารู้ว่าลูกสาวของเขากำลังคิดว่าชีวิตตัวเองนั้นด้อยค่าเกินจะอยู่ต่อไป และเขารู้ดีว่าจะผ่านมันไปได้อย่างไร ขั้นแรกคือการทำให้เธอเห็นคุณค่าของชีวิตและการมนุษย์เสียก่อน เขาจึงเริ่มพาลูกสาวเข้าสู่ยิมเพื่อฝึกต่อสู้ และเปลี่ยนนามสกุลใหม่ว่า “เพจ วานแซนต์”
Photo : www.strongfitnessmag.com
เพจ ได้พบสังคมใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มของเหล่านักสู้ที่เอาตัวเองวิ่งเข้าชนความเหนื่อยและความเจ็บปวด คนเหล่านี้ไม่ได้สนอดีตว่าเคยอ่อนแอมาอย่างไร แต่พวกเขาจะเพิ่มความแข็งแกร่งให้ตัวเองและกลายเป็นยอดคนในอนาคต ... นี่คือสิ่งที่คนเป็นพ่อต้องการ ไม่ว่าเธอจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม
ทุกครั้งที่ออกหมัด มันเหมือนได้ปลดปล่อยบางสิ่งที่อยู่ในใจ เหงื่อที่ไหลท่วมตัวกลายเป็นเหมือนการถ่ายของเสียที่คั่งค้าง และยิ่งพยายามให้หนักขึ้นเท่าไหร่เธอยิ่งรู้สึกว่าตัวเองมีพลังมากขึ้นแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
รู้ตัวอีกทีเธอก็หลงรักศิลปะการต่อสู้ไปแล้ว และพยายามฝึกมันตั้งแต่อายุ 14 ปี จนถึงทุกวันนี้อย่างต่อเนื่อง เป้าหมายของเธอไม่ใช่แค่ชกกระสอบทรายและดวลกับโค้ชที่ล่อเป้าแล้ว เธออยากจะขึ้นเวทีไปชกกับใครจริงๆ ... มันเป็นการล้างแค้น แต่การล้างแค้นในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการตามล่าคนที่เคยทำให้เธอต้องย่ำแย่ ทว่ามันคือการล้างแค้นที่คงเหลือจากอดีตไปให้หมด และเหลือแต่อนาคตเท่านั้น
"ฉันไม่เคยฝันถึงการเป็นนักสู้อาชีพมาก่อน ฉันแค่ฝึกมันเพื่อยกระดับตัวเองเท่านั้น ตอนแรกฉันเอาแต่เก็บตัวเงียบและขี้อาย ทว่าเมื่อได้เหยียบเข้ามาในโลกยิม มันเป็นเหมือนความรู้สึกที่ได้ก้าวเข้ามาหาอ้อมกอดของครอบครัว ฉันรู้สึกแบบนี้ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาทำความรู้จักกับทุกๆ คน" เพจ ยืนยันถึงจุดเปลี่ยน ความเหนื่อยช่วยเธอได้จริง
Photo : www.rgj.com
ครั้งแรกที่เธอขึ้นชกในระดับสมัครเล่น ความรู้สึกเหมือนกับหมอกครอบคลุมสมองเกิดขึ้นอีกครั้ง เธอไม่มีความมั่นใจ กลัวเหตุร้าย แต่ทันทีที่เธอได้ต่อยคู่ชกดังเปรี้ยงและจับล็อกลงพื้นและคว้าชัยชนะ เธอรู้แล้วว่า ไม่มีวันที่เธอจะหยุดเสพการต่อสู้ได้
"เมื่อฉันชนะฉันรู้สึกว่าฉันกลายเป็นคนสำคัญ มันเปลี่ยนไปเลย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ฉันคิดว่าตัวเองเป็นเหยื่อมาตลอด การต่อสู้ทำให้โลกรับรู้ว่าฉันยังยืนอยู่ตรงนี้"
ชีวิตใหม่ในกรง 8 เหลี่ยม
ช่วงปลายปี 2013 เพจ ฝึกหนัก เช่นเดียวกับโชว์ฟอร์มน่าประทับใจในหลายเวที จนได้รับเลือกให้เซ็นสัญญากับ UFC โดยเริ่มชกในรุ่นสตรอว์เวต กับฉายา "12 Gauge" อันมาจากกระสุนของปืนลูกซอง ที่สะท้อนตัวตนแห่งการเป็นนักล่าเมื่อครั้งยังเด็ก และหลังจากนั้นอีกไม่กี่เดือนเธอก็ได้เป็นนักชกขาประจำของ UFC ขึ้นสู้หลายศึกหลายสังเวียน
Photo : www.mmamania.com
ไฟต์แรกใน UFC ของเพจ เกิดขึ้นในศึก UFC Fight Night: Edgar vs. Swanson เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2014 ที่แม้เธอจะได้สู้เป็นเพียงคู่ประกอบรายการ แถมยังเป็นคู่ที่ไม่มีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ แต่ก็ยังสามารถเอาชนะ TKO ไคลิน เคอร์ราน พร้อมคว้ารางวัล Fight of the Night มาครอง ... นอกจากเงินค่าตัวและโบนัสจากชัยชนะแล้ว รางวัลดังกล่าวยังทำให้เธอคว้าโบนัสเพิ่มอีก 50,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ อีกด้วย
ชัยชนะครั้งนั้นทำให้เธอโด่งดังขึ้นมาทันที เธอได้สัญญาจากแบรนด์กีฬาอย่าง รีบ็อก และได้ขึ้นสู้ในรายการระดับที่สำคัญกว่าที่เคย จนกระทั่ง UFC ต้องต่อสัญญาในช่วงปี 2015 และเป็นหนึ่งในนักสู้ผู้หญิงแถวหน้าของวงการในทุกวันนี้ แม้ผลจากไฟต์ที่เธอสู้กับคลาร์กต่อทั้งๆ ที่แขนหัก จะทำให้เธอได้ขึ้นสังเวียนหลังจากนั้นเพียงแค่ไฟต์เดียว จากปัญหากระดูกแขนที่ยังไม่สมานดีเสียทีก็ตาม
สิ่งที่เปลี่ยนไปในตัวเธอนอกจากเรื่องศิลปะการต่อสู้แล้ว เธอยังกลายเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองมาก ทุกครั้งที่เธอเจอเรื่องดราม่า เธอพร้อมจะวิ่งชนมันเสมอ มีหลายสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอในช่วงเวลาของการเป็นนักสู้ และทุกคนภูมิใจที่เธอมาได้ไกลขนาดนี้ รวมถึงตัวเธอเองด้วยแม้ว่าบางครั้งจะต้องพบกับความพ่ายแพ้ก็ตาม
"การแพ้ทำให้ฉันกลับมาถามตัวเองเสมอว่า ทำไมเราสู้เขาไม่ได้ ทำไมเราไม่เสริมทักษะที่ขาดไปล่ะ? นี่คือกีฬาที่ทรงพลัง คุณทุ่มเทตัวเองด้วยเลือดและเหงื่อทุกหยด คุณเสียสละพลังของตัวเองเป็นอย่างมากเพื่อชัยชนะ สิ่งนี้จะปลดปล่อยทั้งชีวิตของคุณออกมา และต่อให้แพ้อย่างน้อยๆ คนเป็นล้านๆ ก็ยังพูดถึงคุณอยู่ดี"
Photo : Dancing with the Stars
ถามว่าการรู้จักกับศิลปะการต่อสู้ทำให้เธอมั่นใจขึ้นขนาดไหน? ... ช่วงต้นปี 2016 เธอขอกับทาง UFC ว่าจะไม่ขึ้นสู้ระยะหนึ่ง เพื่อไปร่วมแข่งขันในรายการ Dancing with the Stars รายการเต้นที่จะนำคนดังจากวงการต่างๆ มาให้นักเต้นอาชีพฝึกสอน แล้วจับคู่กับนักเต้นอาชีพประชันกับคนดังรายอื่นๆ บนฟลอร์ แถมเธอยังทำผลงานได้ดีเกินคาด ด้วยการเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศ ก่อนเข้าป้ายอันดับ 2 ในซีซั่น 22
ปัจจุบัน เพจ ยังเป็นยูทูบเบอร์ทำรายการต่างๆ กับ ออสติน แวนเดอร์ฟอร์ด แฟนหนุ่มของเธอ ซึ่งก็เป็นช่องที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนดูกีฬาต่อสู้ โดยเรื่องราวในแชนแนลของเธอนั้นจะเป็นคอนเทนต์ที่เล่าถึงชีวิตต่างๆ การไปเที่ยวโน่นนั่นนี่ หรือพูดง่ายๆ ก็คือศูนย์เก็บรวมความสุขและความรู้สึกดีๆ ของเธอเอาไว้นั่นเอง
ขอให้ฉันเป็นคนสุดท้าย
ปี 2017 มีเรื่องใหญ่อยู่เรื่องหนึ่งเกิดสำหรับคนวงการบันเทิง เมื่อดาราสาวอย่าง แอชลี่ย์ จัดด์ ออกมาเปิดโปงความจริงว่า ครั้งหนึ่งเธอเคยถูก ฮาร์วี่ย์ ไวน์สตีน หนึ่งในบุคคลผู้ทรงอิทธิพลในฮอลลีวูดล่วงละเมิดทางเพศในช่วงที่เธอยังไม่มีชื่อเสียง ซึ่งจากการเผยความจริงครั้งนั้นเกิดเป็น "ไวน์สตีน เอฟเฟ็กต์" ที่ทำให้ดาราในวงการหลายคนออกมาร่วมพูดความจริงว่า พวกเธอเคยถูกกระทำไม่ว่าจะคุกคามหรือล่วงละเมิดทางเพศอย่างไรบ้างผ่านแฮชแท็ก #MeToo
Photo : www.mmamania.com
ตัวของ เพจ เองก็ได้ใช้โอกาสนี้บอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตั้งแต่วันที่เป็นนรกในใจสู่วันที่กลายเป็นแรงผลักดันในการต่อสู้ ที่สำคัญคือเธออยากจะให้เด็กสาวทุกคนรู้ว่า "ทุกคนสามารถเอาตัวเองออกจากความเสี่ยงได้"
เธอเชื่อว่ายังมีเด็กอีกหลายคนที่อยากได้การยอมรับจากเพื่อน อยากจะมีแฟนในวัยเรียน จนบางครั้งก็มองโลกในแง่ดีเกินไปเหมือนกับเธอ เธอเล่าย้อนกลับไปในวันนั้นและบอกว่าอันที่จริง ทันทีที่เธอไปถึงงานปาร์ตี้ และพบว่าเธอเป็นผู้หญิงคนเดียว เธอก็รู้แล้วว่ามันอันตราย แต่สุดท้ายเธอก็ยังจะเดินเข้าไปหามันเพียงเพราะว่า "ไม่อยากทำร้ายหัวใจใคร"
"ปัญหาใหญ่สำหรับผู้หญิงคือ เราถูกสอนไม่ให้ทำร้ายความรู้สึกของผู้ชาย ตอนนี้เราต้องสอนให้ผู้หญิงลุกขึ้นยืนด้วยตัวเองให้ได้ เมื่อคุณได้ยินเสียงข้างในร้องให้หยุด คุณจงเชื่อมันและหยุดซะ อย่าไปกังวลว่าสิ่งที่คุณทำจะทำให้ใครเสียความรู้สึก"
"ตอนนั้นฉันเองรู้ทุกอย่างว่าถ้าก้าวผ่านประตูนั้นไปจะต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น แต่ฉันก็ไม่ปฎิเสธ ซึ่งถ้าฉันฟังและตัดสินใจด้วยความมั่นใจ ฉันก็คงจะแค่หันหลังและเดินกลับบ้านโดยไม่รู้สึกเสียใจอะไรเลย"
Photo : www.cnbc.com
เรื่องราวของ เพจ วานแซนต์ สอนให้เรารู้ว่าทุกสิ่งในโลกล้วนมีค่าและมีคนที่ต้องการมัน ตัวของเธออาจจะเคยสูญเสียตัวตนไปแล้ว แต่เมื่อวันหนึ่งได้มาอยู่ในที่ที่เป็นของเธอ ที่ที่อดีตไม่มีความหมายอีกต่อไป เมื่อนั้นต่อให้สิ่งที่เจอมาเลวร้ายแค่ไหนก็ไม่อาจขวางอนาคตที่เธอเลือกเองได้
หนังสือเรื่อง Rise: Surviving the Fight of My Life นอกจากจะบอกเล่าให้คนอื่นรู้ว่าเธอเคยผ่านอะไรมาบ้าง มันยังทำให้เธอส่งความมั่นใจถึงเด็กผู้หญิงทุกคนบนโลกนี้ว่าจงอย่ากลัวที่จะทำตามสิ่งที่หัวใจเรียกร้องเด็ดขาด ... และขอให้สิ่งที่เกิดขึ้นกับของเธอเป็นกรณีสุดท้าย
อัลบั้มภาพ 26 ภาพ