ท่าข้ามพิทฯ ฟัด สวนกุหลาบฯ จับสลากศึกลูกหนัง "คิง เพาเวอร์ คัพ" รอบชิงแชมป์ประเทศไทย
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ร่วมกับพันธมิตรชั้นนำเมืองไทย จัดการแข่งขันฟุตบอลเยาวชน รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี รายการ “คิง เพาเวอร์ คัพ 2019/20” ภายใต้แนวคิด THE BEST U-15 TOURNAMENT ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ยังคงเน้นมอบโอกาสให้กับเยาวชนไทยได้มีเวทีแสดงความสามารถในด้านฟุตบอลเพื่อก้าวไปสู่เยาวชน FOX HUNT ซึ่งปีนี้มีโรงเรียน ให้ความสนใจเข้าร่วมการแข่งขันจำนวนมากถึง 326 ทีม และได้ทำการแข่งขันกันไปแล้วในรอบเพลย์ออฟ และรอบภูมิภาคจนเหลือเพียงแค่ 16 ทีม เพื่อเล่นในรอบชิงแชมป์ประเทศไทยต่อไป
เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2563 ณ ห้องปาริชาต โรงแรมโกลเด้นทิวลิป ซอฟเฟอรีน พระราม 9 ได้จัดงานแถลงข่าวจับสลากประกบคู่การแข่งขันฟุตบอลรายการคิง เพาเวอร์ คัพ 2019/20 ในรอบชิงแชมป์ประเทศไทย เพื่อหาทีมชนะเลิศ จะได้รับเงินรางวัล 1,000,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลอันทรงเกียรติ King Power Cup และเหรียญรางวัลไปครอง โดยภายในงานได้รับเกียรติจาก คุณกันธร เพิ่มทรัพย์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดด้านกีฬา กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์, ดร.ประพันธ์ ไพรอังกูร รองอธิบดีกรมพลศึกษา เข้าร่วมงานในครั้งนี้
คุณกันธร เพิ่มทรัพย์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดด้านกีฬา กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า "กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ยังคงสานต่อเจตนารมณ์ของคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา อดีตประธานกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ที่เน้นให้ความสำคัญและโอกาสด้านฟุตบอลกับเยาวชนทุกคนที่มีความสามารถพร้อมให้โอกาสรับทุนการศึกษาเข้าไปฝึกทักษะฟุตบอลอาชีพที่สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ประเทศอังกฤษ เป็นเวลา 2 ปีครึ่ง"
"ถือว่าเยาวชนที่เข้าร่วมการแข่งขันในรายการนี้ จะได้รับโอกาสสำคัญที่ทีมแมวมองจากเลสเตอร์ ซิตี้ จะเดินทางมาชมการแข่งขันและคัดเลือกเยาวชนที่มีความสามารถทุกเกม การแข่งขัน และอีกหนึ่งความพิเศษของรายการนี้ เรามีรางวัลทุนการศึกษามอบให้แก่ทีมที่เป็นแชมป์รายการนี้ มูลค่า 1 ล้านบาท และรางวัลบำรุงทีมอื่นๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะ 2 รางวัลสำคัญอย่าง รางวัลผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยมและรางวัลนักกีฬายอดเยี่ยม จะได้มีโอกาสเยี่ยมชมสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้แบบเอ็กซ์คลูซีพ อีกด้วย รวมมูลรางวัลกว่า 3 ล้านบาท”รายการ “KING POWER CUP 2019/20” ในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรชั้นนำอย่างกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์, บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน), เครื่องดื่มตราช้าง, บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน), บริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน), อาริ, โรงพยาบาลบางปะกอก, นม 137 ดีกรี
กลุ่ม A
รร.สุรศักดิ์มนตรี กรุงเทพฯ
รร.มัธยมเทศบาล 6 นครอุดรธานี จ.อุดรธานี
รร.หนองทะเลวิทยา จ.กระบี่
รร.วชิราลัย จ.เชียงใหม่
กลุ่ม B
รร.สวนกุหลาบวิทยาลัย กรุงเทพฯ
รร.บ้านปุน จ.ศรีสะเกษ
รร.ท่าข้ามพิทยาคม จ.ชลบุรี
รร.บรรหารแจ่มใสวิทยา 1 จ.สุพรรณบุรี
กลุ่ม C
รร.ปทุมคงคา กรุงเทพฯ
รร.กันทรารมณ์ จ.ศรีสะเกษ
รร.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
รร.กีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี
กลุ่ม D
รร.พรตพิทยพยัต กรุงเทพฯ
รร.สารคามพิทยาคม จ.มหาสารคาม
รร.ท่าข้ามวิทยาคม จ.แพร่
รร.สวนป่าเขาชะอางค์ จ.ชลบุรี
สำหรับการแข่งขันในรอบชิงแชมป์ประเทศไทย จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 12 – 19 มกราคม 2563
· รอบ 16 ทีมสุดท้าย แข่งขันในวันที่ 12-14 มกราคม 2563 (จะแบ่งเป็นสาย สายละ 4 ทีม แข่งแบบพบกันหมด อันดับที่ 1 และ 2 ของสาย จะได้เข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีม) ณ สนามซ้อมเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด
· รอบ 8 ทีมสุดท้าย แข่งขันในวันที่ 15 มกราคม 2563 ณ สนามซ้อมเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด
· รอบ 4 ทีมสุดท้าย แข่งขันในวันที่ 17 มกราคม 2563 ณ สนามซ้อมเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด
· รอบชิงชนะเลิศ แข่งขันในวันที่ 19 มกราคม 2563 ณ สนามศุภชลาศัย
ทั้งนี้ ในรอบชิงแชมป์ประเทศไทย จะมีการถ่ายทอดสดผ่านทาง เฟซบุ๊คแฟนเพจ King Power Cup และในรอบชิงชนะเลิศจะมีถ่ายทอดสดผ่านทางช่อง 9 Mcot HD หมายเลข 30 เริ่มตั้งแต่เวลา 16.00 น.