เทพคนใหม่! เหตุผลที่ "ฮาคิมี" ควรบอกลาชุดขาวมาซบดอร์ทมุนด์ถาวร

เทพคนใหม่! เหตุผลที่ "ฮาคิมี" ควรบอกลาชุดขาวมาซบดอร์ทมุนด์ถาวร

เทพคนใหม่! เหตุผลที่ "ฮาคิมี" ควรบอกลาชุดขาวมาซบดอร์ทมุนด์ถาวร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อัชราฟ ฮาคิมี ย้ายมาค้าแข้งกับทีม "เสือเหลือง" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ด้วยสัญญายืมตัวจาก "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด เป็นเวลา 2 ปี ซึ่งเวลาของฟูลแบ็กชาวโมร็อคโคในถ้ำเสือเหลืองเริ่มนับถอยหลังลงไปทุกที แต่ก็ยังมีเหตุผลที่แข้งดาวรุ่งวัย 21 ปีรายนี้จะย้ายมาอยู่กับดอร์ทมุนด์เป็นการถาวร มาดูกันว่าเหตุผลคืออะไรบ้าง

เหลืออีกเพียงครึ่งฤดูกาลเท่านั้น เส้นทางเดินของฮาคิมีกับดอร์ทมุนด์ก็จะถึงทางแยกที่ต้องตัดสินใจ เขาได้กล่าวกับสื่อว่าตนเองมีความสุขดีมากกับดอร์ทมุนด์ ซึ่งน่าจะทำให้ฮาคิมีต้องคิดหนักเกี่ยวกับอนาคตหลังจบฤดูกาลนี้ โดยเฉพาะเมื่อเขากำลังจะกลายเป็นพ่อคนในช่วงซัมเมอร์ที่จะถึงนี้เนื่องจากแฟนสาวกำลังตั้งครรภ์

t

ฮาคิมีเกิดที่เมืองเคตาเฟ่ ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ทางใต้ของกรุงมาดริด หากไม่นับการลงเล่นให้ทีมท้องถิ่นเมื่ออายุ 8 ขวบ ฮาคิมีได้เล่นฟุตบอลกับทีมราชันชุดขาวมาตลอดก่อนที่จะย้ายมาเล่นในเยอรมนี และเขาก็ได้พัฒนาฝีเท้าของตนเองขึ้นมาเรื่อยๆ จนได้รับรางวัลนักเตะเยาวชนแอฟริกันยอดเยี่ยมแห่งปีถึงสองสมัย ทำให้เขาเริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะนักเตะดาวรุ่งที่เปี่ยมพรสวรรค์ที่สุดคนหนึ่งในวงการฟุตบอล

แล้วดอร์ทมุนด์ที่รู้ๆ กันว่าเป็นทีมแห่งดาวรุ่งที่น่าดึงดูดที่สุดทีมหนึ่งในยุโรปก็มาคว้าตัวเขาไปร่วมทีมด้วยสัญญายืมตัว ในเวลาเดียวกันกับที่ฮาคิมีกำลังเติบโตอยู่ที่ดอร์ทมุนด์ จาดอน ซานโช ก็เป็นอีกหนึ่งดาวรุ่งที่แจ้งเกิดได้จากสโมสรเดียวกันจนโด่งดังไปทั่วโลก รวมถึงเออร์ลิง ฮาแลนด์ ที่เลือกย้ายมาดอร์ทมุนด์แทนที่จะไปเล่นให้กับสโมสรระดับท็อปในลีกอื่นๆ

q

สมัยที่เล่นอยู่กับเรอัล มาดริด ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ฮาคิมีจะเบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงในทีมได้ ก่อนย้ายมาดอร์ทมุนด์เขาได้โอกาสลงเล่นในลีกเพียง 9 นัดและในศึกยูเอฟ่า แชมเปียนส์ลีก เพียง 2 นัดเท่านั้น ในตอนที่เสือเหลืองติดต่อเข้ามาเขารู้ดีว่าตนเองจะได้รับโอกาสที่นั่นอย่างแน่นอน

และแล้วสโมสรแห่งนี้ก็เปลี่ยนเขาไปเป็นคนละคน ฮาคิมีได้โอกาสลงสนามมากขึ้นสามเท่าและเริ่มเล็งเห็นความดีงามของการได้ลงฟาดแข้งอย่างสม่ำเสมอ ฝีเท้าของเขาพัฒนาไปเร็วมากซะจนเหมือนกลายเป็นอีกคนหนึ่งไปเลย

"ผมถีบตัวเองไปข้างหน้าเสมอซึ่งเป็นสิ่งที่ผมจำเป็นต้องทำ และผมก็กลายเป็นนักเตะที่ดีกว่าเดิมและได้เล่นฟุตบอลสม่ำเสมอ ได้ลงเล่นอาทิตย์ต่ออาทิตย์และสนุกกับมันมากจริงๆ" ฮาคิมีกล่าว

n

ฮาคิมีเป็นนักเตะที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์บุนเดสลีกานับตั้งแต่มีการเก็บสถิติโดยละเอียดเมื่อฤดูกาล 2011/12 แถมยังเป็นฟูลแบ็กในฟุตบอลยุคใหม่ที่พยายามสร้างผลงานอย่างโดดเด่นตั้งแต่เส้นเขตแดนตนเองไปจนสุดแดนคู่แข่ง

สำหรับในฤดูกาลนี้ ฮาคิมีทำผลงานได้ดีกว่าในซีซั่นก่อนมาก หลังผ่านไปเพียงครึ่งฤดูกาลเขากลับยิงประตูได้เท่ากับในฤดูกาลที่แล้วตลอดทั้งซีซั่น (2 ประตู) จ่ายแอสซิสต์มากกว่าฤดูกาลก่อนไปแล้ว 2 ครั้งรวมอยู่ที่ 6 แอสซิสต์ และยิงในศึกยูเอฟ่า แชมเปียนส์ลีกไปแล้ว 4 ประตูจาก 6 นัดช่วยให้ดอร์ทมุนด์เข้ารอบต่อไปทั้งที่ต้องอยู่ร่วมกลุ่มกับคู่แข่งโหดๆ อย่าง บาร์เซโลน่า และอินเตอร์ มิลาน

โชว์ฟอร์มรุกได้สะเด่าเช่นนี้ เราจึงได้เห็นลูเซียง ฟาฟร์ จับเขาขึ้นไปเล่นเกมรุกอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะในเกมที่ดอร์ทมุนด์คัมแบ็คกลับมาเอาชนะอินเตอร์ มิลานได้ 3-2 ประตูเพราะฟาฟร์จับฮาคิมีขึ้นไปเล่นเป็นปีกขวานั่นเอง หมายความว่าฮาคิมีกลายเป็นนักเตะที่สร้างประโยชน์ให้ทีมได้ทั้งรุกและรับ สารพัดประโยชน์สุดๆ

qq

แล้วอนาคตของฮาคิมีจะเป็นเช่นไร?

"ผมไม่สามารถตอบได้ว่ารู้สึกโอเคกับทีมไหนมากกว่ากัน" ฮาคิมีกล่าว "ผมได้เรียนรู้มากมายจากการเล่นริมเส้นทั้งสองฝั่ง และจะพยายามแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ผมคิดว่ามันคือทีเด็ดของผมจริงๆ โค้ชที่มีนักเตะที่เล่นปีกได้ทั้งสองฝั่งหรือนักเตะที่เล่นได้หลากหลายก็จะรู้ว่ามันส่งผลดีต่อทีม"

สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับสโมสรดอร์ทมุนด์ก็คือ วูกัส ปิชต์แชก แบ็กขวาจอมเก๋าวัย 34 ปีกำลังจะแขวนสตั๊ดไปเป็นตำนานของสโมสรในเร็ววันนี้ ไม่ช้าก็เร็ว ดอร์ทมุนด์นั้นจำต้องมีแบ็กตัวเก่งคนใหม่เข้ามาสืบทายาทต่อไป ในนาทีนี้คงไม่มีใครที่จะเหมาะเข้ามารับภาระอันหนักอึ้งต่อจากปิชต์แชกไปมากกว่าฮาคิมีอีกแล้ว

w

สิ่งที่น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ฮาคิมีตัดสินใจอยู่กับดอร์ทมุนด์ต่อไปก็คงจะเป็นสายใยสายสัมพันธ์ที่มีต่อเพื่อนร่วมทีมเสือเหลือง ทั้ง อักเซล วิตเซล, แซร์คิโอ โกเมซ, ปาโก อัลกาเซร์ และ จาดอน ซานโช ที่ฮาคิมีบอกว่าพวกเขาทำอะไรๆ ให้เป็นเรื่องง่ายไปหมด นอกจากนี้ยังรวมถึง ฟาฟร์ กุนซือใหญ่ที่มีส่วนสำคัญในการพัฒนาฝีเท้าของเขา

"ฟาฟร์กับผมมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมาก เขาพยายามที่จะช่วยเหลือผมเสมอ… เขารู้ว่าผมยังหนุ่มและกระหายที่จะเรียนรู้ และผมก็พยายามที่จะฟังเขาเพราะทุกอย่างที่เขาบอกกับผมคือเรื่องจริงทั้งนั้น"

ครอบครัวเสือเหลืองอ้าแขนเปิดรับฮาคิมีมาเป็นเวลาเกือบสองปีแล้ว ถึงตอนนี้ฮาคิมีต้องตัดสินใจว่าจะพาครอบครัวและเจ้าฮาคิมีตัวน้อยมาลงหลักปักฐานในแคว้นนอร์ทไรน์เวสฟาเลินหรือไม่...

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook