ทำไม "มุลเลอร์" จึงเหมาะนำทัพ "อินทรีเหล็ก" ลุยศึกโอลิมปิก 2020 ?!?
มีเหตุผลมากมายที่ทีมชาติเยอรมนีควรพกสตาร์กองหน้าจากบาเยิร์น มิวนิค ไปลุยศึกโอลิมปิก 2020 ที่กรุงโตเกียวด้วย ล่าสุดว่าที่ตำนานทีม "เสือใต้" เพิ่งจะถูกเฮดโค้ชทีม "อินทรีเหล็ก" ชุดใหญ่ โยอาคิม เลิฟ และโอลิเวอร์ เบียร์โฮฟฟ์ ผู้จัดการทีมชาติเยอรมนีออกมากล่าวหนุนหลังว่าเขาสมควรติดทีมชาติชุดไปลุยศึกโตเกียว โอลิมปิก ด้วย
เลิฟกล่าวว่ามีความเป็นไปได้ที่ชเตฟาน คุนซ์ โค้ชทีมชาติเยอรมนีชุดยู 21 จะเรียกตัวโทมัส มุลเลอร์ บินไปลุยศึกโอลิมปิกด้วย "ผมเจอชเตฟาน คุนซ์ ช่วงก่อนคริสต์มาส และเราได้หารืออะไรกันบางเรื่อง ศึกฟุตบอลยูโรและโอลิมปิกนั้นใกล้เข้ามาแล้ว เป็นสองรายการใหญ่ เขาบอกชื่อนักเตะมาสองสามคนที่อาจเป็นตัวเลือกสำหรับเขา มันเป็นการตัดสินใจของเขาเอง"
"ยังพอมีเวลาอยู่ และทุกไอเดียที่เขาเล่านั้นน่าสนใจมาก มุลเลอร์เองก็อยู่ในลิสต์ที่ต้องยื่นเสนอไว้ล่วงหน้า"
เชโรม บัวเต็ง และ มัทส์ ฮุมเมิลส์ ดูจะปิดฉากการลงเล่นให้กับทีมชาติไปตั้งแต่ปีก่อนภายใต้การคุมทีมของโยอาคิม เลิฟ แต่กรณีของมุลเลอร์นั้นต่างกัน เขายังคงเป็นนักเตะกองหน้าที่ยังสามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม
ในระดับสโมสรการมาของนิคลาส ซือเลอ และ ลูคัส แอร์กน็องเดซ ทำให้บัวเต็งต้องตกไปนั่งสำรอง ส่วนฮุมเมิลส์ก็ต้องย้ายสโมสรกลับไปเล่นให้กับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แต่สำหรับมุลเลอร์ แม้ในทีมจะมีนักเตะที่ฝีเท้าดีวันดีคืนอย่างแซร์จ นาบรี และ คิงสลีย์ โกม็อง ในแผงรุก แถมบาเยิร์นยังไปยืมตัวนักเตะตัวเก่งอย่างฟิลิปเป คูตินโญ และ อิวาน เปริซิช มาร่วมทีมอีก แต่ก็ไม่อาจทำให้มุลเลอร์หลุดโผนักเตะตัวหลักของทีมไปได้
ยิ่งไปกว่านั้นผลงานของมุลเลอร์ในซีซั่นนี้ยังถือเป็นผลงานที่ดีที่สุดของเขาในการค้าแข้งอาชีพตลอด 12 ฤดูกาลที่ลงเล่นให้กับบาเยิร์น มิวนิค เขาจ่ายแอสซิสต์ในซีซั่นนี้ไปแล้วถึง 12 ครั้ง นับเป็นสถิติสูงสุดของบุนเดสลีกาหลังผ่านไปครึ่งฤดูกาลแรก บวกกับยิง 2 จ่าย 2 ในยูเอฟ่า แชมเปียนส์ลีก ช่วยให้บาเยิร์นกลายเป็นทีมที่ 7 ในประวัติศาสตร์ที่เอาชนะได้ตลอด 6 เกมในศึกยูซีแอลรอบแบ่งกลุ่ม
ฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมเช่นนี้ไม่เพียงแต่จะไปเข้าตาคุนซ์เท่านั้น แต่ตำนานแข้งอินทรีเหล็กอย่างเบียร์โฮฟฟ์ก็ยังออกมาหนุนหลังมุลเลอร์เช่นกัน เขากล่าวว่า "แน่นอนล่ะ มันน่าสนใจที่จะหนีบนักเตะรุ่นเก๋าไปด้วย ข้อแรกเลยก็เพราะคุณภาพเขา และข้อสองก็คือประสบการณ์ของเขา ผมเคยบอกชเตฟานว่าเขาสามารถเลือกใช้นักเตะได้ตามสบาย และโทมัส มุลเลอร์ ก็เป็นหนึ่งในนั้น เราไม่ควรตัดชื่ออดีตนักเตะทีมชาติ โทมัส มุลเลอร์เป็นชื่อที่โด่งดังไปทั่วโลก ชเตฟานต้องเอาเรื่องนี้ไปคิด"
กุนซือวัย 57 ปีมีโควต้าให้นำนักเตะที่อายุเกิน 23 ปีไปร่วมทัพในศึกครั้งนี้ด้วยได้ทั้งหมด 3 คนจากรายชื่อนักเตะทั้งหมด 18 คน นั่นหมายความว่าเขาต้องคิดให้ดีภายใต้ตัวเลือกที่จำกัด เนื่องจากทีมชาติเยอรมนีชุดใหญ่มีคิวลุยศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปหรือยูโร 2020 ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคมนี้ ส่วนศึกฟุตบอลโอลิมปิกจะเริ่มฟาดแข้งกันหลังจบนัดชิงชนะเลิศยูโรสิบวัน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีนักเตะที่จะได้ลงเล่นทั้งสองรายการ
โทมัส มุลเลอร์จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับทีมชุดลุยโอลิมปิก เขาติดทีมชาติชุดใหญ่มาแล้ว 100 นัด ยิงได้ 38 ประตู เคยคว้าแชมป์โลกในปี 2014 และยิงประตูในฟุตบอลโลกได้มากที่สุดในบรรดานักเตะที่ยังค้าแข้งอยู่ในปัจจุบัน (10 ประตู)
ส่วนเรื่องสถิติในระดับสโมสร เขายิงได้ถึง 112 ประตูจาก 335 เกมบุนเดสลีกา คว้าแชมป์บุนเดสลีกาไปแล้ว 8 สมัย, แชมป์เดเอฟเบ คัพ 5 สมัย รวมถึงแชมป์ยูเอฟ่า แชมเปียนส์ลีก, ยูเอฟ่า ซูเปอร์คัพ และแชมป์สโมสรโลก มีนักเตะในโลกเพียงไม่กี่คนที่ประสบความสำเร็จได้มากเท่ามุลเลอร์ซึ่งทำได้ด้วยวัยเพียง 30 ปีเท่านั้น
หากมุลเลอร์สามารถพาทีมคว้าเหรียญทองโอลิมปิกสำเร็จ ก็จะเป็นอีกหนึ่งเกียรติประวัติที่เพิ่มเข้ามาในชีวิตของเขา แถมยังจะได้ร่วมแข่งขันโอลิมปิกพร้อมๆ กับลิซ่า ศรีภรรยาที่ทำลังลุ้นติดทีมชาติไปแข่งขันศิลปะการบังคับม้าอีกด้วย
ฟุตบอลในกีฬาโอลิมปิกอาจเป็นโอกาสให้มุลเลอร์ได้พิสูจน์ตัวเองว่าเขายังคงเป็นนักเตะที่พร้อมสำหรับการแข่งขันในเวทีระดับโลกเสมอ และน่าจะดึงดูดให้นักเตะที่กระหายในความสำเร็จอย่างมุลเลอร์เข้าร่วมทีมเพื่อตามล่าเกียรติยศอีกหนึ่งขั้นให้กับตัวเอง
และนี่แหละคือสิ่งที่ชเตฟาน คุนซ์ ต้องการจากมุลเลอร์เพื่อมาเติมเต็มฝันการคว้าเหรียญทองโอลิมปิกหนแรกของทีมฟุตบอลอินทรีเหล็กนับตั้งแต่ประเทศเยอรมนีตะวันออกทำได้เมื่อปี 1976