เคาท์ดาวน์สู่โมโตจีพี! "โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2020" ทุกฝ่ายพร้อม, อัดมาตรการเข้มรับมือ COVID-19
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย การกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน นับถอยหลังสู่การแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก โมโตจีพี สนามที่ 2 รายการ "โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2020" ระหว่างวันที่ 20-22 มีนาคม 2563 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ มั่นใจทุกฝ่ายพร้อมเต็มที่ ดูแลนักท่องเที่ยวตั้งแต่สนามบินจนถึงสถานที่จัดการแข่งขัน
ด้าน "อนุทิน-พิพัฒน์-เนวิน" ออกโรงแจงมาตรการดูแลผู้ร่วมงาน เพิ่มจุดคัดกรองเข้มป้องกันเชื้อโควิด-19 พร้อมแจกผ้าบัฟให้แฟนความเร็วที่มาร่วมงานกว่า 1 แสนผืน อัดแน่นด้วยกิจกรรมบันเทิงตลอด 3 วัน คาดหวังคนไทยแห่เที่ยวงานกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ และสร้างความเชื่อมั่นให้ต่างชาติได้เห็นศักยภาพของประเทศไทย
วันพฤหัสบดีที่ 27 ก.พ.ที่โรงแรมพูลแมน กรุงเทพ "กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา" ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย, จังหวัดบุรีรัมย์, บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์, บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยเครื่องดื่มตราช้าง, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, กรมการขนส่งทางบก, สายการบินแอร์ เอเชีย, บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด, บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด, ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน), บริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท แพลนบี มีเดีย จำกัด (มหาชน) แถลงข่าวนับถอยหลังการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการ โมโตจีพี สนามที่ 2 รายการ "โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2020" โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธี
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการจัดงานในครั้งนี้ว่า "ในนามของรัฐบาล ผมขอเรียกความมั่นใจจากทุกท่านว่า รัฐบาลมีความพร้อมรับมือกับสถานการณ์โรคระบาดที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ความพร้อมของกระทรวงสาธารณสุขจะสร้างความมั่นใจว่าเราจะดูแลทุกท่านเป็นอย่างดี และจะไม่มีการยกเลิกการจัดการแข่งขัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับต่างประเทศว่าเรามีศักยภาพพอที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้กลับมาที่ประเทศไทย ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาของการจัดการแข่งขัน นับเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของประเทศไทย เรายังคงรักษาแชมป์สนามที่มีผู้ชมสูงที่สุดของฤดูกาล 2 ปีซ้อน สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ รวม 2 ปี มูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท ปีนี้อาจจะมีรายได้ลดลงบ้าง ซึ่งเป็นไปตามสถานการณ์โลก เชื่อมั่นว่าเมื่อสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ การแข่งขัน MotoGP จะเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกกลับมาประเทศไทยมากกว่าเดิม เพราะการแข่งขันในบ้านเรา แฟนมอเตอร์สปอร์ตชื่นชมและยกย่องว่ามีความสนุกสนานมากที่สุดในสนามแข่งขันทั่วโลก และมีความประทับใจเมื่อได้ท่องเที่ยวในประเทศไทย เมื่อจบการแข่งขันในปีนี้แล้ว เราจะประกาศแผนการจัดการแข่งขันต่ออีก 5 ปี และจะสร้างสรรค์การแข่งขันรายการนี้ ให้เป็นแรงดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ เข้าประเทศไทยให้ได้มากที่สุด"
"ส่วนมาตรการป้องกันและควบคุมโรค COVID19 สำหรับแฟนมอเตอร์สปอร์ต ผู้จัดการแข่งขัน ทีมแข่งขัน นักแข่งจากต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่สนาม รวมไปถึงโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร สถานบริการต่างๆในจังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดใกล้เคียง มั่นใจว่า กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ กระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา และ จังหวัดบุรีรัมย์ รวมถึงทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถดูแลให้มีความปลอดภัยมากที่สุด และช่วยกันทำให้ การแข่งขัน MotoGP หรือ OR Thailand Grand Prix 2020 เป็นการแข่งขัน ที่ปลอดจาก COVID19 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประเทศไทย และ ระบบสาธารณสุขไทย ที่จะได้รับการยอมรับไปทั่วโลก เพื่อสร้างรายได้เข้าประเทศ สร้างรายได้ให้แก่ประชาชน"
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า "การจัดแข่งขันปีที่ 3 ต้องดีกว่าปีที่ 2 อย่างแน่นอน สิ่งที่เป็นกังวลในการแข่งขันครั้งนี้ ผมมั่นใจว่าทางจ.บุรีรัมย์ และทางสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิตได้เตรียมการมาเป็นอย่างดี ไม่มีปัญหา แม้ว่าสภาวะการณ์ปัจจุบันจะทำให้การเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศซบเซาลงบ้าง การท่องเที่ยวภายในประเทศยังคงดำเนินการได้ตามปกติ ประเทศไทยยังอยู่ในภาวะที่มีความปลอดภัย ซึ่งตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา จังหวัดบุรีรัมย์ นับเป็นเป้าหมายอันดับต้นๆที่สร้างรายได้ทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยอย่างมหาศาล จากการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงกีฬาที่สำคัญที่สุดของประเทศ และในปีนี้ ทางกระทรวงก็ยังคงมั่นใจว่า เราจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศด้วยการ จัดอีเว้นท์ระดับโลกอย่างโมโตจีพี"
"ในปีนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้จัดทำพาวิลเลี่ยนอย่างยิ่งใหญ่กว่าทุกปี ภายใต้แนวคิด Amazing Thailand Festival @MotoGP ณ จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อนำเสนอเทศกาลและประเพณีไทยที่เป็นเอกลักษณ์ที่รู้จักระดับนานาชาติ นำมาเรียงร้อยและเล่าเรื่องราวผ่านกิจกรรมในรูปแบบ Interactive ตอกย้ำการเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลกของประเทศ มีนิทรรศการการท่องเที่ยว 4 ภาค การแสดงโชว์ศิลปวัฒนธรรม และมุมสาธิตการทำของว่างและขนมไทยโบราณ เพื่อให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้สัมผัสมุมที่แปลกใหม่ของประเทศไทย ผมอยากจะเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนชาวไทย แฟนโมโตจีพี มาเที่ยวชมการแข่งขันในครั้งนี้ ท่านที่ยกเลิกการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศก็สามารถเปลี่ยนแผนมาเที่ยวงานนี้ได้ ขอฝากไปถึงชาวต่างชาติทุกท่านว่า ให้สบายใจได้ การมาเที่ยวในประเทศไทยท่านจะปลอดภัยอย่างแน่นอน"
นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า "การจัดการแข่งขันในครั้งนี้ แม้เราจะไม่มีเวลาเตรียมงานมากนักเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่เรามีประสบการณ์จากการจัดการแข่งขันมาแล้วถึง 2 ปี มีหน่วยงานและเจ้าหน้าที่โดยตรงที่รับผิดชอบในทุกจุดทุกด้านอยู่แล้ว ซึ่งบุคคลเหล่านี้มีประสบการณ์ และความเข้าใจในหน้าที่ต่างๆ เป็นอย่างดี อาทิ จัดการแสดงต้อนรับตั้งแต่สนามบินบุรีรัมย์, ตรวจสอบเรื่องราคาการจองห้องพักไม่ให้เอาเปรียบผู้บริโภค, จัดเตรียมเส้นทางรถรับส่ง พร้อมเจ้าหน้า 'Ask me' ให้ข้อมูลกับนักท่องเที่ยวกว่า 250 คน และเจ้าหน้าที่ 'GU เก็บ' กว่า 500 คน ดูแลพื้นที่บริเวณภายในสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต และบุรีรัมย์คาสเซิล พร้อมร่วมมือกับฝ่ายการแพทย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจะกำหนดมาตรการการป้องกัน COVID-19 มีรถ Mobile Checklist สำหรับติดตามอาการนักท่องเที่ยวตามที่พัก"
"ทางด้านสาธารณูปโภคที่หลายฝ่ายกังวลเรื่องปริมาณน้ำจะเพียงพอถึงวันจัดงานไม่นั้น เราให้ความมั่นใจได้ว่าทางจังหวัดจะมีปริมาณน้ำเพียงพอถึงเดือนพ.ค. และมีแผนบริหารจัดการให้น้ำใจในระยะยาวกว่านั้น จึงกล่าวได้ว่าในส่วนของจังหวัดบุรีรัมย์ เรามีความพร้อมเกิน 100 เปอร์เซ็นต์ จึงอยากให้นักท่องเที่ยว และแฟนกีฬามีความมั่นใจ และเดินทางมาร่วมสร้างประวัติศาสตร์ร่วมกันอีกครั้งที่จ.บุรีรัมย์"
นายบุญมา พนธนกรกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ ในฐานะไตเติ้ลสปอนเซอร์กล่าวว่า "รู้สึกยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลก MotoGP ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยปีนี้ OR ได้สนับสนุนการจัดงานอย่างเต็มรูปแบบภายใต้ชื่อรายการ OR Thailand Grand Prix 2020 สําหรับการจัดงานปีนี้ เราจัดงานภายได้แนวคิดที่ว่า 'พลังคนไทย สร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้เสมอ' หรือ Power of Thailand, The Power of Great Possibility ดังนั้น OR ยังคงใช้ยักษ์ เป็นสัญลักษณ์เพื่อนําเสนอความภาคภูมิใจ ความเป็นไทย และภาพลักษณ์ที่ทันสมัย ไปสู่สายตาชาวไทยและชาวโลก"
"เราได้เตรียมกิจกรรมสุดพิเศษและสิทธิพิเศษมากมายสำหรับแฟนๆมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยและต่างชาติตลอดการจัดงานทั้ง 3 วัน เริ่มจาก Welcome Zone ซึ่งจะมีจุดจำหน่ายของที่ระลึก OR Thailand Grand Prix 2020 Limited Edition ที่ไม่สามารถหาซื้อได้จากที่อื่น ให้แฟนๆได้สะสมกัน และที่ OR Pavilion ยังมีจุดจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นราคาพิเศษ พร้อมของสมนาคุณพิเศษมากมาย รวมทั้งกิจกรรมและเกมส์ให้ร่วมสนุก เพื่อสร้างความสนุกสนานตลอดทั้งวัน พร้อมรับของที่ระลึกอีกมากมาย พิเศษ สําหรับสมาชิกบัตร Blue Card เรายังได้จัดเตรียม OR VIP Lounge ให้เข้ามาชมการแข่งขันแบบติดขอบสนาม พร้อมพักผ่อนและรับอาหารว่าง เครื่องดื่มฟรี"
"ขอเชิญชวนให้ทุกท่านได้มาลองสัมผัสบรรยากาศ มาร่วมสนุกไปด้วยกัน ซึ่งเป็นความโชคดีที่เรามีกีฬาระดับโลกที่คนทั่วโลกให้ความสนใจมาจัดถึงถิ่นไทย ให้คนไทยได้รับชมอย่างใกล้ชิด เรามาช่วยกันแสดงพลังของคนไทย มาช่วยกันเชียร์ OR หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ต้อนรับทุกท่าน เพื่อมาร่วมกันสร้างความภาคภูมิใจ และร่วมสร้างประวัติศาสตร์อีกหน้าให้กับประเทศไทยด้วยกัน"
นายสุรพล อุทินทุ ผู้อำนวยการสำนักประสานงานภายนอก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "การจัดการแข่งขันครั้งนี้เราได้ใช้ประสบการณ์ในการจัด 2 ครั้งที่ผ่านมาหากิจกรรมและรูปแบบงานที่จะทำให้ทุกคนมีความสุขที่สุดแม้จะอยู่ในสภาพอากาศที่ร้อนจัด เราจะทำให้อย่างไรให้นักท่องเที่ยวรู้สึกสบายและสนุกไปกับกิจกรรมของเรา"
นอกจากนี้ ทางบริษัท ไทยเบฟ ได้เตรียมความบันเทิงสำหรับแฟนโมโตจีพีอย่างยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน ทั้งศิลปินชื่อดังและกิจกรรมมากมายตลอด 3 วันเต็ม ประเดิมด้วย ช้าง มิวสิค คอนเน็กชั่น กับคอนเสิร์ตศิลปินระดับตำนาน 'คาราบาว' วงร็อกระดับแถวหน้าของวงการ 'สล็อต แมชชีน' และปิดท้ายด้วยคอนเสิร์ตของ 'แจ๊ส สปุ๊กนิค ปาปิยอง กุ๊กกุ๊ก (แจ๊ส ชวนชื่น)' เพื่อสร้างสีสันให้กับงานแข่งทั้งในและนอกสนามอีกด้วย"
อัลบั้มภาพ 16 ภาพ