PEOPLE'S ELBOW : ท่าไม้ตายสุดเบาของ "เดอะ ร็อค" ที่มหาชนทั่วโลกตั้งตารอ
“ถอดสนับศอก เด้งหนึ่ง เด้งสอง ยึกๆ ยักๆ ศอกมหาชน จับกด 1 2 3 เดอะ ร็อค เป็นฝ่ายชนะ”
หากพูดถึงท่าไม้ตายที่อยู่ในใจแฟนมวยปล้ำ “ศอกมหาชน” หรือ People's Elbow ท่าไม้ตายสุดเท่ของ เดอะ ร็อค (The Rock) ที่เด้งเชือกไปมาแล้วทิ้งศอก จนต้องแอบจดจำไปเล่นกับเพื่อนหรือพี่น้องบนที่นอน ยังคงอยู่ในความทรงจำอย่างไม่เสื่อมคลาย
แต่ไม่ว่าเราจะลองใช้ท่านี้สักกี่ครั้ง หรือโดนเพื่อนทิ้งศอกใส่สักกี่คน เราก็คงจะไม่รู้สึกเจ็บ หรือยอมโดนกดนับสามสักครั้ง จนทำให้เกิดความสงสัยเล็กๆ ติดอยู่ในใจว่า ท่าศอกมหาชนมันรุนแรงจนเป็นท่าไม้ตายได้อย่างไร?
เราจะพาคุณไปดูเรื่องราวของท่าศอกมหาชน ตั้งแต่วันที่เป็นท่าทิ้งศอกธรรมดาที่คิดขึ้นเพื่อใช้อำเพื่อนนักมวยปล้ำ จนกระทั่งกลายเป็นท่าไม้ตายที่น่าจดจำมากที่สุดในวงการ และครองใจมหาชนทั่วโลกได้อย่างทุกวันนี้
ท่าหักไหล่ในตำนาน
ก่อนที่ เดอะ ร็อค จะเป็นหนึ่งในนักมวยปล้ำที่โด่งดังที่สุดจากท่าศอกมหาชน คุณรู้หรือไม่ว่า เดอะ ร็อค เคยเป็นนักมวยปล้ำที่ถูกโห่มากที่สุดใน WWE
Photo : www.givemesport.com
ย้อนกลับไปวันที่ 17 พฤศจิกายน 1997 แฟนมวยปล้ำทั่วโลกได้รู้จักกับ ร็อคกี มายเวีย (Rocky Maivia) นักมวยปล้ำสายเลือดซามัว ลูกชายของสุดยอดนักมวยปล้ำ ร็อคกี จอห์นสัน (Rocky Johnson) และหลานชายของสุดยอดนักมวยปล้ำ ปีเตอร์ มายเวีย (Peter Maivia) ผู้เป็นปู่ของเขา
เขาเปิดตัวด้วยใบหน้ายิ้มแฉ่ง ดูมีความสุขเกินมนุษย์ธรรมดา ผมสีดำน้ำมันเยิ้มโค้งเป็นลอน และแต่งตัวประหลาดที่จะบอกว่าเป็นซามัวก็ไม่ใช่ มาจากหมู่เกาะไหนก็ไม่สามารถระบุได้
ร็อคกี มายเวีย เปิดตัวในฐานะนักมวยปล้ำฝ่ายธรรมะ ที่ลงปล้ำในแมตช์แท็กทีมประเพณีของศึก Survivor Series 1996
ถึงหน้าตาและท่าทางจะตลก แต่ความแข็งแกร่งบนเวที (ตามบท) ของ ร็อคกี มายเวีย ไม่ใช่เรื่องเล่น คาแรกเตอร์ของเขาคือนักมวยปล้ำเชื้อสายซามัว ที่มีความแข็งแกร่งเท่ากับปู่และพ่อรวมกัน กลายเป็นผู้อยู่รอดเพียงคนเดียวของแมตช์แท็กทีมประเพณี หลังจบกดคู่ต่อสู้คนสุดท้ายอย่าง โกลดัสท์ (Goldust) ด้วยท่า Running Shoulder Breaker (รันนิง โชลเดอร์ เบรคเกอร์)
ไม่ถึง 3 เดือนต่อมา ร็อคกี มายเวีย ถูกผลักดันขึ้นสู่ระดับสูงของสมาคม เขาคว้าแชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัล มาครองได้สำเร็จ มันควรจะเป็นจุดเริ่มต้นสู่ความสำเร็จ แต่แท้จริงแล้วมันคือจุดต่ำสุดในชีวิตของเขา
Photo : www.givemesport.com
แฟนมวยปล้ำไม่ยอมรับการผลักดันนี้ และเริ่มจะส่งเสียงโห่ทุกครั้งที่ร็อคกีปรากฏตัวบนเวที
“ไปตายซะ ร็อคกี” หรือ “ร็อคกีห่วย” คือคำด่าที่แฟนมวยปล้ำมอบให้กับร็อคกีในช่วงเวลานั้น ผลสุดท้าย WWE ทนแรงกดดันจากแฟนมวยปล้ำไม่ไหว ตัดสินใจเขียนบทให้ ร็อคกี มายเวีย เสียแชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัล ทั้งที่ถือครองแชมป์ไม่ถึง 2 เดือน และสั่งยุติแผนผลักดันนักมวยปล้ำรายนี้ชั่วคราว
หนึ่งในปัญหาหลักที่ทำให้ ร็อคกี มายเวีย ไม่สามารถครองใจแฟนมวยปล้ำได้ในช่วงเวลานั้น คือท่าไม้ตาย Running Shoulder Breaker หรือ “ท่าหักไหล่” อันเป็นท่าไม้ตายของมวยปล้ำยุคโบราณ ที่เคยได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงทศวรรษ 1970’s
วิธีการใช้ท่า Running Shoulder Breaker ไม่ยุ่งยากหรือต้องใช้ทักษะอะไรมากมาย เพียงแค่จับคู่ต่อสู้แบกขึ้นไหล่ เดินจนพอได้ที่ หลังจากนั้นค่อยทิ้งไหล่คู่ต่อสู้มากระแทกกับเข่า เปรี้ยง!! หลังจากนั้นจึงจับกดนับสาม คว้าชัยชนะไป
ชมคลิปท่า Running Shoulder Breaker ด้านล่าง
หลายคนที่ได้ดูคลิปด้านบนน่าจะคิดเหมือนกันว่า ท่านี้มันเจ็บตรงไหน แต่ความจริงแล้ว ท่า Running Shoulder Breaker เคยเป็นท่ามวยปล้ำที่อันตรายที่สุดในยุค Old School เนื่องจากท่านี้เล่นงานตรงที่ไหล่คู่ต่อสู้ เพื่อทำให้ไม่สามารถยกไหล่ได้ในจังหวะจับกดนับสาม
อย่างไรก็ตาม เมื่อกาลเวลาล่วงเลยมาถึงปี 1997 ที่แฟนมวยปล้ำได้เห็นท่าไม้ตายอย่าง Sweet Chin Music หรือ Stunner ท่ามวยปล้ำโบราณอย่าง Running Shoulder Breaker จึงไม่ถูกยอมรับจากแฟนมวยปล้ำอีกต่อไป
ร็อคกี มายเวีย หายไปจากหน้าจอโทรทัศน์หลังเสียแชมป์ไม่นาน ก่อนปรากฏตัวต่อหน้าแฟนมวยปล้ำอีกครั้ง ด้วยบทบาทใหม่ ชื่อใหม่ และท่าไม้ตายใหม่ ที่จะเปลี่ยนแปลงเส้นทางชีวิตของเขาไปตลอดกาล
กำเนิดศอกมหาชน
เดือนสิงหาคม ปี 1997 ร็อคกี มายเวีย กลับคืนสู่สังเวียนอีกครั้ง แต่ไม่ใช่ในฐานะนักมวยปล้ำธรรมะอีกต้องไป ร็อคกี เข้าร่วมกลุ่มมวยปล้ำฝั่งอธรรม The Nation Of Domination (เดอะ เนชัน ออฟ ดอมิเนชัน) กลุ่มมวยปล้ำที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกลุ่มเคลื่อนไหวอิสลามในสหรัฐอเมริกา
Photo : www.sportskeeda.com
ในช่วงเวลานี้เอง ร็อคกี ได้โอกาสจับไมค์พูดด่าคนดูตามประสานักมวยปล้ำอธรรม และเริ่มเรียกตัวเองด้วยความยโสโอหังว่า “เดอะ ร็อค” แน่นอนว่า ร็อคกี หรือ เดอะ ร็อค ยังคงได้รับเสียงโห่จากคนดูเหมือนเดิมไม่มีผิดเพี้ยน แต่ในฐานะนักมวยปล้ำอธรรม มันคือสิ่งที่เขาควรได้รับ อันเป็นเครื่องยืนยันว่าคาแรกเตอร์นี้ กำลังไปได้สวย
สิ่งเดียวที่ เดอะ ร็อค ยังขาด คือท่าไม้ตายชั้นดีสักท่าที่จะพาเขาขึ้นสู่ระดับสูงสุดของสมาคม เพราะถึงตอนนั้น เดอะ ร็อค จะเลิกใช้ Running Shoulder Breaker แต่เขาก็ยังไม่มีท่าไม้ตายใหม่มาทดแทน และต้องเอาชนะด้วยการใช้สนับมือต่อยคู่ต่อสู้ หรือการรวบกดแบบผิดกติกา
ผลสุดท้าย ท่าไม้ตายที่เขามาตอบโจทย์คือท่า ... Rock Bottom (ร็อค บอททอม) ท่าจับฟาดคู่ต่อสู้ยกก่อนฟาดลงไปเบื้องหน้า อันเป็นท่าที่ดูรุนแรง และ เดอะ ร็อค ก็ใส่ได้สวยงาม ท่านี้กลายเป็นท่าไม้ตายหลักของ เดอะ ร็อค ตั้งแต่ปี 1997 จนกระทั่งปัจจุบัน
Photo : wwe
ท่ามวยปล้ำอีกหนึ่งท่าที่ เดอะ ร็อค เริ่มต้นในใช้งานในช่วงเวลาเดียวกันกับ Rock Bottom คือท่าศอกมหาชนที่เรารู้จักกันดี แต่ในช่วงเวลานั้น มันยังไม่ได้ชื่อท่าศอกมหาชน และไม่ได้เป็นท่าไม้ตาย ที่มีความรุนแรงมากพอจะกดใครนับสามด้วยซ้ำ
ทริปเปิล เอช (Triple H) หนึ่งในคู่ปรับที่ร้ายกาจที่สุดของ เดอะ ร็อค เปิดเผยในภายหลังว่า ท่าศอกมหาชน ไม่เคยตั้งใจสร้างขึ้นเพื่อเป็นท่าไม้ตาย เพราะมันเป็นท่าที่สร้างขึ้นขึ้นเพื่อทำให้ ดิ อันเดอร์เทคเกอร์ (The Undertaker) นักมวยปล้ำสัปเหร่อ หลุดคาแรกเตอร์ขำก๊ากกลางเวทีเท่านั้น
“ผมจำมันได้แม่นเลยละ ในแมตช์ที่ไม่ได้ถ่ายออกทีวี เมื่อคุณอยู่ในจุดที่ทำงานร่วมกัน และเดินทางไปตามที่ต่างๆ มากกว่า 300 วัน เราก็ตกลงกันว่า มาทำให้ อันเดอร์เทคเกอร์ หัวเราะกันเถอะ” ทริปเปิล เอช กล่าว
“คืนหนึ่ง เดอะร็อคใช้ท่าศอกมหาชน แต่ตอนนั้นมันยังไม่ใช่ชื่อศอกมหาชนนะ มันชื่อท่าว่า ‘ดูท่านี้ให้ดี เพราะมันจะทำให้แกขำก๊ากอยู่ข้างเวที’”
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ อันเดอร์เทคเกอร์ ไม่หลุดขำ แต่คนดูชอบมันมาก จากท่าที่ถูกใช้ในโชว์ไม่ออกทีวี เดอะ ร็อค หยิบจับมันมาใช้ในแทบทุกแมตช์ที่เขาปล้ำ ก่อนจะเป็นเอกลักษณ์ที่ขาดไม่ได้ในเวลาต่อมา
ศอกมหาชนที่ทุกคนรัก
ท่าศอกมหาชน ก้าวขึ้นมาเป็นท่าไม้ตายเต็มตัวในช่วงที่ เดอะ ร็อค พลิกกลับเป็นฝ่ายธรรมะ และตั้งชื่อท่านี้อย่างเป็นทางการว่า ศอกมหาชน หรือ People’s Elbow เพื่อให้สอดคล้องกับฉายาของเขาในช่วงเวลานั้นอย่าง แชมป์มหาชน (People’s Champion)
Photo : stillrealtous.com
ทันทีที่ ศอกมหาชน ถูกเลื่อนระดับเป็นท่าไม้ตาย ท่านี้ก็ทวีความรุนแรง นักมวยปล้ำคนไหนที่โดนจะต้องชักดิ้นชักงอ ถูกจับกดนับสามกันแทบทุกราย จนเกิดคำถามที่แฟนมวยปล้ำทั่วโลกยังคาใจ ว่าสรุปแล้วท่าศอกมหาชน มันแรงขนาดนี้ได้อย่างไร?
หลายคนกล่าวว่า ศอกมหาชนจะมีความรุนแรงระดับท่าไม้ตาย ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด เพราะในอดีตมีนักมวยปล้ำระดับตำนาน เคยใช้ท่ารูปแบบคล้ายกันนี้ เป็นท่าไม้ตายมาแล้ว นั่นคือท่า Bionic Elbow (ไบโอนิค เอลโบว์) ของ ดัสตี โรดส์ (Dusty Rhodes)
ชมคลิปท่า Bionic Elbow ด้านล่าง
ท่า Bionic Elbow คือท่าไม้ตายระดับตำนาน ที่ถูกนักมวยปล้ำรุ่นหลังมากมายนำมาใช้จนถึงปัจจุบัน ดังนั้นมันก็คงจะไม่แปลกที่ ท่าศอกมหาชน จะได้รับการยอมรับจากแฟนมวยปล้ำ ตามรอยความสำเร็จของ Bionic Elbow
คำอธิบายดังกล่าวก็มีความเป็นไปได้ แต่อย่าลืมว่า เดอะ ร็อค เคยใช้ท่ามวยปล้ำจากยุค Old School อย่าง Running Shoulder Breaker มาแล้ว แต่กลับไม่ได้รับการยอมรับ แล้วเหตุใด ท่าศอกมหาชน ที่ดู “ตลก” ยิ่งกว่า และต้องใช้ตรรกะการดูมวยปล้ำแบบโบราณเข้ามา ถึงได้รับความนิยมมากมายขนาดนี้?
เหตุผลแท้จริงที่ศอกมหาชน ดูสมเหตุสมผลด้านความรุนแรง และได้รับความนิยมไปทั่วโลก คือ ความสัมพันธ์ของตัวท่าศอกมหาชน กับตัวของ เดอะ ร็อค เอง กล่าวคือ หากเราตั้งสมมติฐานว่า ท่าศอกมหาชนเป็นท่าที่มีความรุนแรงแบบ “ขี้โม้” และ นักมวยปล้ำแบบเดอะ ร็อค ก็เป็นนักมวยปล้ำประเภท “จอมโว" ด้วยเช่นเดียวกัน
ด้วยสกิลปากที่ไม่มีนักมวยปล้ำรายใดตามทัน จนกระทั่งทุกวันนี้ ความเป็นนักมวยจอมโวของ เดอะ ร็อค คือส่วนหนึ่งที่พัฒนาให้คาแรกเตอร์ของเขา ก้าวขึ้นสู่ระดับสูงสุดของ WWE ดังนั้นการจะใส่ท่ามวยปล้้ำที่ดูปลอมลงไป นอกจากจะเพิ่มรสชาติของแมตช์การปล้ำแล้ว ยังเพิ่มสีสันคาแรกเตอร์ เดอะ ร็อค ให้เด่นชัดขึ้นด้วย
ไม่ว่าจะเป็นท่าศอกมหาชน หรือ ถุยน้ำลายลงฝ่ามือแล้วตบ หากตัดท่าทางเกินจริงของ เดอะ ร็อค ออกไป มันก็ไม่ใช่ท่าที่รุนแรงอะไรขนาดนั้น แต่เพราะทักษะการแสดงของ เดอะ ร็อค ที่สามารถรับมือกับคนดูได้อยู่หมัด มันก็ช่วยเพิ่มพลังให้กับท่ามวยปล้ำของเขาได้อย่างน่าประหลาด
ในทางกลับกัน หากนักมวยปล้ำรายอื่นขอหยิบยืม ท่าศอกมหาชน ไปใช้งาน และต่อให้ลอกเลียนท่วงท่าการเคลื่อนไหวมาทุกกระเบียดนิ้ว คนดูจะไม่รู้สึกว่าท่านี้มีความรุนแรงอะไรเลย เพราะคนใช้งานท่าศอกมหาชนไม่ใช่ เดอะ ร็อค ผู้ที่สามารถมอบพลังแก่ท่าศอกมหาชนได้อย่างน่าประหลาด
“ท่ามวยปล้ำที่น่าตื่นเต้นที่สุด” (The Most Electrifying Move) คือฉายาของศอกมหาชน และมันไม่ได้เกินความจริงแม้แต่น้อย แต่ท่านี้คงได้รับฉายาดังกล่าวไม่ได้ หากผู้ใช้ไม่ใช่ เดอะ ร็อค เจ้าของฉายา “มนุษย์ที่น่าตื่นเต้นที่สุดในวงการมวยปล้ำ” (The Most Electrifying Man in Sport Entertainment)
เดอะ ร็อค และ ศอกมหาชน จึงเป็นของคู่กันเหมือนกับ คริสต์มาส และ ซานตาคลอส และต่อให้ เดอะ ร็อค ประกาศอำลาเวทีมวยเป็นการถาวรในอนาคตข้างหน้า
ท่าศอกมหาชน จะพาเรากลับสู่อดีตอีกครั้ง เพื่อย้ำเตือนว่ามวยปล้ำเคยสนุกมากแค่ไหน ในช่วงเวลาที่เป็นยุคทองของใครหลายคนในบ้านเรา