[FEATURE] 5 เรื่องน่าสนใจรอบรั้ว พรีเมียร์ลีก ในช่วง ลิเวอร์พูล ไร้พ่ายนาน 44 เกม
สิ้นสุดกันไปแล้วกับความหวังในการลุ้นแชมป์ไร้พ่ายของ ลิเวอร์พูล เพราะอยู่ดี ๆ พวกเขาก็บุกไปพ่ายให้กับทีมท้ายตารางอย่าง วัตฟอร์ด แบบที่ไม่มีใครอยากเชื่อ
แต่เชื่อว่าสาวกหงส์แดงหลาย ๆ คนก็ไม่ได้เป็นกังวลอะไรกับการปราชัยนัดแรกของฤดูกาลนี้หรอก เพราะไม่ว่ายังไงทีมรักของพวกเขาก็จะได้ชูถ้วยแชมป์ลีกที่รอคอยมานาน 30 ปีอยู่ดี
ทีนี้เรามาดูกันว่า ตลอดช่วงเวลา 44 นัดอันยาวนาน (ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2019 จนถึง 1 มีนาคม 2020) นั้นมีเหตุการณ์อะไรที่น่าสนใจเกิดขึ้นรอบรั้ว ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ บ้าง
1. ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ 3 รายการ พร้อมสถาปนาเป็นแชมป์ยุโรป 6 สมัย
ฤดูกาลที่แล้ว ลิเวอร์พูล ต้องพลาดการคว้าแชมป์ลีกไปอย่างเจ็บปวดเพราะขนาดมี 97 แต้มก็ยังไม่มากพอจะให้ทีมได้ประสบความสำเร็จ แต่เมื่อในร้ายยังมีดี พวกเขากลับก้าวขึ้นครองบัลลังก์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้อย่างยิ่งใหญ่สุด ๆ แทน
มันคือโทรฟีแรกของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ในฐานะผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ซึ่งต้องผ่านการก่อร่างสร้างตัวนานถึง 4 ปี กว่าจะมาเป็นแชมป์ยุโรป 6 สมัย
และหลังจากนั้นไม่นาน ก็มีโทรฟี่ที่ 2 และ 3 อย่าง ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ และ ศึกชิงแชมป์สโมสรโลก คลับเวิลด์คัพ มาประดับเพิ่มที่สโมสรอีก น่าเสียดายที่ถ้วย พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไม่มีโอกาสถูกนับรวมในช่วงไร้พ่ายไปเรียบร้อยแล้ว ไม่งั้นล่ะ โลก (ของเด็กผี) คงไม่มีวันสงบสุขไปอีกนานเลย
2. มีการเปลี่ยนผู้จัดการทีมสูงถึง 18 คนในลีกอังกฤษ
ในระหว่างที่สถานภาพของ เยอร์เกน คล็อปป์ ในถิ่นแอนฟิลด์นั้นปลอดภัยสุด ๆ เพราะผลงานและความสำเร็จต่าง ๆ ทำให้เขาไม่น่ามีวันถูกปลดจากตำแหน่งกุนซือแน่นอนแล้ว
แต่เมื่อเราสอดส่องสายตาไปรอบ ๆ วงการลูกหนังอังกฤษ ก็จะพบว่าระหว่างที่ ลิเวอร์พูล ไม่แพ้ใครนาน 44 นัด ทีมอื่น ๆ ในลีกได้ทำการเปลี่ยนกุนซือรวมกันทั้งถึง 18 ครั้งเลยทีเดียว
เริ่มตั้งแต่ เดวิด วากเนอร์ ของ ฮัดเดอร์สฟิลด์, มานูเอล เปเยกรินี กับ เวสต์แฮม, เมาริซิโอ ซาร์รี ของ เชลซี, อูไน เอเมรี จาก อาร์เซนอล, เมาริซิโอ โปเช็ตติโน กับ สเปอร์ส และอื่น ๆ อีกพอสมควร
แต่ที่น่าสนใจสุดก็คือ กุนซือไนเจล เพียร์สัน ที่นำทัพวัตฟอร์ดชนะ ลิเวอร์พูล จนเสียสถิติไร้พ่ายไปเมื่อวันก่อน ก็เพิ่งเข้ามารับงานแทนคนเก่าอย่าง กิเก้ ซานเชซ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วด้วยเช่นกัน
3. วาร์ดี้ ยิงได้ 28 ลูกในลีก สูงจนไม่มีใครเทียบได้
สำหรับ เจมี วาร์ดี นั้นถือเป็นกองหน้าที่ได้รับการยอมรับในเรื่องทักษะการพังประตูมานานหลายปีแล้ว เพราะนี่คือคนที่ยิงรัว ๆ จนช่วยให้ เลสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ลีกมาครองได้เมื่อปี 2016 นั่นเอง
และหากนับเฉพาะตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2016 ที่ ลิเวอร์พูล เริ่มจดบันทึกสถิติไร้พ่าย 44 นัดมาจนถึงวันที่ 1 มีนาคม 2020 สไตรเกอร์ชาวอังกฤษ ยิงในเกมพรีเมียร์ลีกได้ถึง 28 ประตู
ซึ่งเหนือกว่าเจ้าของรางวัลดาวซัลโวทั้ง 3 คนจากเมื่อฤดูกาลก่อนทั้งหมด (เซร์คิโอ อเกวโร 27 ลูก, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ 25 ลูก และ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง 25 ลูก)
4. แมนฯ ซิตี้ แพ้เกมลีกมากถึง 7 นัด
แน่นอนว่าความพ่ายแพ้ในเกมกีฬาถือเป็นเรื่องธรรมดา โดยเฉพาะสำหรับฟุตบอล แต่มันจะไม่รู้สึกธรรมดาเลยเมื่อ ทีมแกร่งอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แพ้ในลีกสูงถึง 7 นัดตลอดช่วงเวลาที่ ลิเวอร์พูล ไม่แพ้แม้แต่เกมเดียว
สำคัญกว่านั้นคือมี 6 จากทั้งหมด 7 นัดเกิดขึ้นในฤดูกาล 2019-20 และนั่นก็เป็นสาเหตุว่าทำไม ลิเวอร์พูล ถึงได้มีแต้มนำห่างคู่อริจากเมื่อปีที่แล้วมากขนาดนี้
โดยทั้ง 6 นัดที่ แมนฯ ซิตี้ แพ้ในฤดูกาลนี้ ถือว่าสำคัญทั้งสิ้น เพราะทีมที่จมเรือใบสีฟ้าลงสู่ก้นทะเลได้ก็มีทั้ง ลิเวอร์พูล, แมนฯ ยูไนเต็ด, สเปอร์ส, นอริช และ วูล์ฟแฮมป์ตัน แบบไป-กลับ
5. เจสซี ลินการ์ด สร้างสถิติยิง+แอสซิสต์ไม่ได้นานเกิน 1 ปี
"เจ้าบีนบีน" คือหนึ่งในผู้เล่นระดับขวัญใจของเหล่าแฟนผี เพราะเขาค้าแข้งอยู่กับสโมสรมายาวนาน และเป็นที่รักของผู้จัดการทีมทุกคนมาตั้งแต่เป็นดาวรุ่งแล้ว
แต่ระยะหลัง ๆ มาฟอร์มของ เจสซี่ ลินการ์ด กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มักจะเอาแน่เอานอนไม่ได้ เพราะบางวันก็มีประโยชน์ต่อทีมจนเหลือเชื่อ ขณะที่บางวันเหมือนเป็นแค่ส่วนเกินที่ลงสนามมาให้ครบ ๆ เท่านั้น
อย่างไรก็ตามในช่วงที่ ลิเวอร์พูล กำลังเดินหน้าสร้างสถิติไม่แพ้ใครนาน 44 นัดอยู่นั้น ลินการ์ด เองก็ไม่น้อยหน้า ทุบสถิติอันน่าเหลือเชื่อสำหรับผู้เล่นตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุกด้วยการไม่ยิง-ไม่แอสซิสต์ติดต่อกันนานเกิน 1 ปี หรือ 12 เดือน !!
จนกระทั่งวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา ลินการ์ด ก็ตัดสินใจหยุดตำนานของตัวเองเอาไว้ในเกมเสมอ เบิร์นลีย์ 2-2 เพราะเขาจ่ายให้เพื่อนยิงได้สำเร็จนั่นเอง