พรีวิว : หงส์แดง ฟัด ตราหมี ชี้ชะตาเข้ารอบ แชมเปียนส์ลีก คืนนี้

พรีวิว : หงส์แดง ฟัด ตราหมี ชี้ชะตาเข้ารอบ แชมเปียนส์ลีก คืนนี้

พรีวิว : หงส์แดง ฟัด ตราหมี ชี้ชะตาเข้ารอบ แชมเปียนส์ลีก คืนนี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 2019/20
รอบ 16 ทีม เลกที่ 2
วันแข่งขัน    คืนวันพุธที่ 11 มีนาคม 2020
เวลา 03.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

 ลิเวอร์พูล  พบ  แอตเลติโก มาดริด

สนาม : แอนฟิลด์
ถ่ายทอดสด : Goal.com Thailand
Facebook : DAZN (TH)

a2ความพร้อมของทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล
แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน หายจากอาการบาดเจ็บกลับมาลงซ้อมร่วมกับทีมได้เรียบร้อยแต่ยังคงต้องรอเช็คสภาพความฟิตจนถึงนาทีสุดท้าย อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่า เยอร์เก้น คล็อปป์ จะเข็นคีย์แมนทั้ง 2 คนลงสนามในเกมที่พวกเขาต้องการชัยชนะอย่างยิ่งยวดหลังจากปราชัยมาก่อนในเลกแรก

มีความเป็นได้สูงที่ ฟาบินโญ จะถูกดร็อปจาก 11 ผู้เล่นตัวจริงหลังทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังในช่วงหลัง ขณะที่ อลิสซอน เบ็คเกอร์ น่าจะยังคงต้องพักในเกมนี้

คาดการณ์ 11 ตัวจริง : 4-3-3
ผู้รักษาประตู : อาเดรียน
กองหลัง :     อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โกเมซ, ฟาน ไดค์, โรเบิร์ตสัน
กองกลาง :  ไวนัลดุม, เฮนเดอร์สัน, เกอิต้า
กองหน้า :     ซาลาห์, ฟิร์มิโน, มาเน
a3​​แอตเลติโก มาดริด
มีเพียง โตมาส์ เลอมาร์ เท่านั้นที่ยังต้องเช็คสภาพร่างกายก่อนเกมที่ แอนฟิลด์ นอกจากนั้น ดิเอโก้ ซิเมโอเน สามารถจัดทัพเกือบจะเต็มรูปแบบในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เลกที่สองนี้

คาดการณ์ว่า เรนาน โลดี ที่ไม่ได้ลงเล่นในเกม ลา ลีกา เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาจะได้ออกสตาร์ทในตำแหน่งแบ็คซ๋ายอีกครั้ง ขณะที่แบ็คขวาจะเป็นการแย่งตำแหน่งตัวจริงระหว่าง คีแรน ทริปเปียร์ กับ ซิเม เวอร์ซัลย์โก้

คาดการณ์ 11 ตัวจริง : 4-4-2
ผู้รักษาประตู   :  โอบลัค
กองหลัง   :  ทริปเปียร์, ซาวิช, ฆิเมเนซ, โลดี
กองกลาง  :  คอร์เรอา, ปาร์เตย์, นิเกวซ, โกเก้
กองหน้า   :  เฟลิกซ์, โมราต้า
a5
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
ลิเวอร์พูล
(ชนะ 2 เสมอ 0 แพ้ 3)

7 มีนาคม    พรีเมียร์ลีก    ลิเวอร์พูล    2 : 1    บอร์นมัธ    ชนะ
4 มีนาคม    เอฟเอ คัพ    เชลซี    2 : 0    ลิเวอร์พูล    แพ้
1 มีนาคม    พรีเมียร์ลีก    วัตฟอร์ด    3 : 0    ลิเวอร์พูล    แพ้
25 กุมภาพันธ์    พรีเมียร์ลีก    ลิเวอร์พูล    3 : 2    เวสต์แฮม    ชนะ
19 กุมภาพันธ์    แชมเปี้ยนส์ลีก    แอต. มาดริด    1 : 0    ลิเวอร์พูล    แพ้

แอตเลติโก มาดริด
(ชนะ 2 เสมอ 3 แพ้ 0)

7 มีนาคม    ลา ลีกา    แอต. มาดริด    2 : 2    เซบียา   
1 มีนาคม    ลา ลีกา    เอสปันญอล    1 : 1    แอต. มาดริด    
24 กุมภาพันธ์    ลา ลีกา    แอต. มาดริด    3 : 1    บียาร์เรอัล    
19 กุมภาพันธ์    แชมเปี้ยนส์ลีก    แอต. มาดริด    1 : 0    ลิเวอร์พูล    
15 กุมภาพันธ์    ลา ลีกา    บาเลนเซีย    2 : 2    แอต. มาดริด    
a4
เฮดทูเฮด
(ลิเวอร์พูล ชนะ 1 เสมอ 0 แอตเลติโก มาดริด ชนะ 4)

19 กุมภาพันธ์ 2020    แชมเปี้ยนส์ลีก    แอต. มาดริด    1 : 0    ลิเวอร์พูล
3 สิงหาคม 2017    ออดี้ คัพ    ลิเวอร์พูล    1 : 2(1 : 1)    แอต. มาดริด
30 เมษายน 2010    ยูโรปาลีก    ลิเวอร์พูล    2 : 1(1 : 0)    แอต. มาดริด
23 กุมภาพันธ์ 2010    ยูโรปาลีก    แอต. มาดริด    1 : 0    ลิเวอร์พูล
8 สิงหาคม 2009    กระชับมิตร    ลิเวอร์พูล    1 : 2    แอต. มาดริด

สถิติที่น่าสนใจ

- ลิเวอร์พูล ไม่เคยปราชัยในการพบกับ แอตเลติโก มาดริด ที่ แอนฟิลด์ ในการพบกันรายการยุโรป 2 นัดก่อนหน้านี้ (1-1 ในรอบแบ่งกลุ่ม ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 2008/09 และ 2-1 ใน ยูโรปาลีก รอบรองชนะเลิศ 2009/10)

 - แอต. มาดริด เสมอในเกมเยือนเมื่อเล่นใน อังกฤษ 7 จาก 13 นัดหลังสุดในรายการ ยุโรป (ชนะ 2 แพ้ 4) พวกเขายังไร้พ่าย 4 เกมดังกล่าวหลังสุด (ชนะ 1 เสมอ 3) นับตั้งแต่ปราชัยต่อ หงส์ฉดง 1-2 เมื่อเดือนเมษายน 2010

-  2 ครั้งสุดท้ายที่ ลิเวอร์พูล ปราชัยในเกมเยือนของเลกแรกศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบน็อคเอาท์ ทัพ เร้ดแมชีน สามารถพลิกสถานการณ์ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้ทั้ง 2 ครั้งดังกล่าว (เชลซี กับ บาร์เซโลนา ในรอบรองชนะเลิศของซีซํน 2006/07 และ 2018/19)

 - พลพรรค โลส โคลเชเนรอส สามารถผ่านเข้าไปสู่รอบต่อไปของศึก แชมเปียนส์ลีก รอบน็อคเอาท์หลังจากที่พวกเขาสามารถเก็บชัยชนะได้ในเลกแรกทั้งหมด 4 ครั้งจาก 5 ครั้งหลังสุด ครั้งเดียวที่พวกเขาตกรอบเกิดขึ้นเมื่อซีซันก่อน กับ ยูเวนตุส (2-0 ในเลกแรก และ 0-3 เลกที่สอง)
liv
- เยอร์เก้น คล็อปป์ ยังไม่เคยคุม หงส์แดง ปราชัยในเกมเหย้า ยูซีแอล (ชนะ 11 เสมอ 4) โดย 2 ครั้งล่าสุดที่เขาพาทีมพ่ายแพ้ในเกมเหย้ารายการนี้รอบน็อคเอาท์เกิดขึ้นเมื่อครั้งที่เจ้าตัวยังคุม โบรุสเซีย ดอร์ทมุดน์ ในฤดูกาล 2013/14 ต่อ เซนิต 1-2 และซีซัน 2014/15 ต่อ ยูเวนตุส 0-3

- แอต. มาดริด สามารถเก็บชัยชนะในเกมเยือนทัวร์นาเมนต์นี้รอบน็อคเอาท์ได้เพียง 1 นัดจาก 9 เกมหลังสุด (ชนะ 1 เสมอ 2 แพ้ 6) โดยเกิดขึ้นเมื่อครั้งที่พวกเขาเข่น ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน 4-2 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2017

- หากลูกทีมของ คล็อปป์ ถูก แอตเลติโก มาดริด เขี่ยตกรอบ จะนับเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ฤดูกาลที่แชมป์เก่าไม่สามารถกรุยทางผ่านด่าน 16 ทีมสุดท้ายเข้าไปได้ โดยครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในฤดูกาลก่อนเมื่อ เรอัล มาดริด ถูก อาแจ็กซ์ เขี่ยตกรอบ

 - ในเกมเลกแรกที่ หงส์แดง ปราชัยต่อ แอตเลติโก 1-0 พวกเขาไม่สามารถจบสกอร์ตรงกรอบเลยในเกมดังกล่าว นับเป็นครั้งที่ 2 ที่ เร้ดแมชีน ภายใต้การคุมทัพของ คล็อปป์ ทำได้ย่ำแย่ถึงขนาดนั้นในรายการนี้ ซึ่งครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในแมตช์ที่พวกเขาพบกับ นาโปลี เมื่อปี 2018

-  โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน มีส่วนเกี่ยวข้องกับประตูใน แชมเปียนส์ลีก 7 ลูกจาก 5 เกมรอบน็อคเอาทืหลังสุดที่ แอนฟิลด์ (3 ประตู 4 แอสซิสต์) คิดเป็นเฉลี่ย 1 ประตูหรือ 1 แอสซิสต์ทุกๆ 54 นาที

-  แยน โอบลัค เสียประตูใน แชมเปียนส์ลีก เพียง 37 ลูกจากการลงเล่นทั้งหมด 49 เกม นับเป็นสถิติที่ โดยสถิติการเสียประตูน้อยที่สุดเมื่อลงเล่นแตะหลัก 50 นัดแรกเป็นของ ดิด้า (35 ประตู) และ บิคตอร์ บัลเดส (38 ประตู)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook