คุยกับ "น้องแพร" เด็กสาวไทยผู้กระทบไหล่ "ฟาน ไดค์" ถึงลิเวอร์พูล
"และตอนนี้นะ เราอยู่ในสนามบอลในลิเวอร์พูล และเราจะได้มาเจอกับ…"
คำพูดของเด็กสาวไทยคนหนึ่ง ผ่านคลิปวีดีโอสั้นๆยาวเพียง 6 วินาที ที่ได้บุกไปกระทบไหล่กับ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ นักฟุตบอลระดับโลก ถึงเมืองลิเวอร์พูล จนกลายเป็นไวรัลที่โด่งดังอย่างรวดเร็ว
ผู้คนจำนวนไม่น้อย อยากรู้ว่าเธอคนนี้คือใคร ทำไมถึงได้มีโอกาสไปร่วมงานกับกองหลังที่ร้อนแรงที่สุดของโลกลูกหนัง ณ เวลานี้
สาวน้อยคนนั้นคือ พิมพ์อารยา อรรถวิภัชน์ หรือ แพร เด็กสาววัย 16 ปี ที่มากความสามารถ ทั้งตำแหน่งรองประธานนักเรียน ของโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน, มีผลงานในวงการบันเทิง และเป็นนักเทนนิสของโรงเรียนอีกด้วย
Main Stand จะมาพูดคุยกับเธอ ถึงมุมมองเกี่ยวกับเรื่องของกีฬา และการออกกำลังกาย ผ่านประสบการณ์ทั้งในฐานะนักกีฬา, ผู้ชม, นักแสดง และคนรุ่นใหม่คนหนึ่ง ว่ากีฬามีความหมายมากน้อยแค่ไหนกับชีวิตของเธอ
ตั้งแต่ตอนเด็ก คุณเล่นกีฬาชนิดใดบ้าง
กีฬาที่แพรเล่น แพรเล่นกีฬาเทนนิส เป็นกีฬาที่ชอบเล่น เล่นตั้งแต่ประมาณ 9-10 ขวบ คือตอนนั้นเป็นเหมือนวิชาพละที่โรงเรียน เขาสอนให้เล่นกีฬาเทนนิส แล้วก็มีสอนพิเศษช่วงเย็นที่โรงเรียนด้วย แพรก็เลยลองเล่นดู แล้วก็เริ่มชอบมาเรื่อยๆ
ทำไมคุณถึงชื่นชอบกีฬาเทนนิส
ไม่รู้นะ แพรว่ากีฬาเทนนิสมันได้วิ่งไปวิ่งมา (หัวเราะ) แพรมองว่าเสน่ห์กีฬาเทนนิส เราได้โฟกัสแค่กับตัวเราเองกับคู่ต่อสู้ ถ้าเราเล่นไม่ดี เราตีเสีย มันก็อยู่ที่ตัวเราเอง เราได้ใช้ความคิดอยู่กับตัวเอง
คุณใช้เวลากับกีฬาเทนนิสเยอะไหม
ถ้าช่วงเรียนอยู่ชั้นประถม แพรใช้เวลากับเทนนิสเยอะค่ะ แต่พอขึ้นมาในระดับมัธยม ก็ไม่ได้เล่นเท่าไหร่ มีช่วงเวลาที่ไม่ได้เล่นบ้าง เพราะหันมาตั้งใจกับเรื่องเรียนเป็นหลัก
อย่างช่วงนี้จนถึงเดือนกรกฎาคม แพรจะไม่ได้เล่นเทนนิสเลย เพราะโฟกัสไปที่เรื่องเรียนอย่างเดียว แต่ว่าหลังจากนั้น แพรจะว่างขึ้น ได้กลับมาซ้อมบ้าง เพราะว่าแพรเป็นนักกีฬาเทนนิสให้กับทางโรงเรียน
ตอนนี้รวมๆแล้ว จะเล่นเทนนิส ปีละประมาณ 2-3 เดือนค่ะ ลดลงจากสมัยเป็นเด็ก ที่มีเวลาเล่นกีฬาตลอด
นอกจากเทนนิส คุณได้เล่นกีฬาชนิดไหนอีกบ้าง
จริงๆ แพรเล่นได้หมดค่ะ ถ้านอกจากเทนนิส กีฬาที่ชอบเป็นพิเศษ คงเป็นบาสเกตบอล กับฟุตบอลค่ะ
พูดถึงกีฬาฟุตบอล แพรมีความทรงจำที่แย่นิดนึงค่ะ เพราะเคยโดนฟุตบอลยิงอัดหน้า ตอนไปเล่นเป็นผู้รักษาประตู ถึงกับเลิกเล่นฟุตบอล กลัวลูกบอลไปพักหนึ่งเลยค่ะ แต่ว่าตอนนี้กลับมาเล่นได้ปกติแล้วค่ะ
อีกกีฬาก็คงเป็นวอลเลย์บอล ที่แพรชอบมาก เป็นกีฬาที่อยากเล่นให้เก่ง แต่ว่ามันยากมาก จริงๆ แพรมองว่าวอลเลย์บอล เป็นกีฬาที่ท้าทายสำหรับแพร ถ้าให้เลือกเล่นกีฬาเก่งๆได้สักอย่าง แพรจะเลือกวอลเลย์บอล
ชอบวอลเลย์บอลขนาดนี้ ติดตามการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยบ้างไหม
ติดตามมาก ติดตามมาตลอด เชียร์พี่ๆนักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยมาก แพรดูถ่ายทอดสดวอลเลย์บอลบ่อยค่ะ เพราะว่าการแข่งขันไม่ได้ดึกจนเกินไป ประมาณช่วงเย็น ช่วงค่ำ แพรสามารถดูได้
แพรชอบเพราะมันดูสนุก ดูเพลิน แพรอินมาก ขนาดว่าบางทีเวลาทีมได้แต้ม แพรกระโดดดีใจอยู่หน้าโทรทัศน์เลยค่ะ
จริงๆแล้วที่แพรชอบวอลเลย์บอลเพราะว่า แพรรู้สึกว่ามันไม่ใช่กีฬาที่ใครก็เล่นได้ ถึงจะดูเป็นกีฬาสำหรับผู้หญิง แต่แพรก็เล่นไม่ค่อยได้เล่นบ่อยนัก เวลาเล่นแพรจะเจ็บมากตรงช่วงมือ ช่วงแขน มันยากมาก แพรรู้ว่าถ้าจะเล่นให้เก่งแบบพี่ๆทีมชาติ ไม่ใช่เรื่องง่าย แพรก็รู้สึกชื่นชม อยากให้กำลังใจพี่ๆนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย
อย่างกีฬาฟุตบอล ได้ติดตามบ้างไหม
ฟุตบอล แพรชอบดูพวกทัวร์นาเมนต์อย่างฟุตบอลโลก ถ้าเอาตรงๆคือฟุตบอลจะมีพวกเพลง แพรมองว่าเพลงพวกนี้คือสิ่งที่แพรดึงดูดเข้าไป ได้เห็นศิลปินระดับโลก เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งกับการแข่งขัน
แพรมองว่ามันมีความบันเทิงอื่นเข้าไปด้วย ทั้งเพลง ทั้งโฆษณา ไม่ได้มีแค่เรื่องการแข่งขันฟุตบอลอย่างเดียว
แล้วก็แพรชอบที่ฟุตบอลโลกคือการแข่งขันระหว่างประเทศ แฟนบอลแต่ละประเทศให้กำลังใจทีมจากประเทศตัวเอง แพรก็รู้สึกว่าโอเค น่าสนใจ กว่าฟุตบอลสโมสรภายในของแต่ละประเทศ
พูดถึงกีฬาฟุตบอล อย่างที่หลายคนรู้กันว่า คุณได้มีโอกาสไปถ่ายโฆษณา ร่วมกับเวอร์จิล ฟาน ไดค์ คุณได้มีโอกาสเข้ามาร่วมงานครั้งนี้ได้อย่างไร
จริงๆ แพรก็ไปแคสงานตามปกติค่ะ แพรแค่ได้รับเลือกให้ไปถ่ายโฆษณา แค่นั้นเลยค่ะ คิดว่าเป็นเรื่องดวงมากกว่า (หัวเราะ)
ก่อนหน้านี้เคยมีโอกาสถ่ายงานโฆษณา เกี่ยวกับกีฬามาก่อนไหม
ไม่เคยเลยค่ะ งานนี้เป็นงานแรกเลย
คุณมีการเตรียมตัวหรือหาข้อมูลก่อนไปถ่ายทำอย่างไรบ้าง
แพรก็หาข้อมูลหมดเลยค่ะ หลังจากที่รู้ว่าต้องไปถ่ายทำที่เมืองลิเวอร์พูล กับนักเตะของลิเวอร์พูล หาข้อมูลเกี่ยวกับสโมสร หาข้อมูลเกี่ยวกับสนามแข่ง
แต่หลักๆที่หาข้อมูลคือ ข้อมูลเกี่ยวกับ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ เพราะว่าเราต้องร่วมงานกับเขาโดยตรง ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องศึกษานิสัยของคนที่เราทำงานด้วย เพราะถ้าเรารู้ว่าเขาเป็นคนแบบไหน เราจะได้วางตัวถูกว่าเราจะทำตัวอย่างไร
แพรไล่ดูพวกคลิปสัมภาษณ์ หรือรายการที่เขาเคยไปออก แพรรู้สึกว่าเขาเป็นคนอารมณ์ดี พูดง่าย คุยง่าย
มีรายการหนึ่ง ที่เอาฟาน ไดค์ ไปจับโกหก แล้วเขาถูกถามว่า คุณกันคิ้วไหม เขาก็ตอบว่า เขาไม่ได้กันคิ้ว แต่สัญญาณก็ขึ้นว่า ฟาน ไดค์ โกหก แล้วเขาก็หัวเราะดังมาก แล้วพูดว่า เขาก็รู้ว่า นี่เป็นรายการจับโกหก แต่เขาก็ยังโกหก แพรดูแล้วแพรก็รู้สึกว่า เขาน่าจะทำงานด้วยง่าย เป็นคนอารมณ์ดี
ก่อนจะหาข้อมูล รู้จักฟาน ไดค์ มาก่อนไหมครับ
รู้จักอยู่แล้วค่ะ เพราะว่าพอลิเวอร์พูลชนะบ่อยๆ เราก็ได้ยินชื่อทีม ชื่อของเขาบ่อยขึ้น และแพรมีเพื่อนที่เขาเป็นแบบแฟนพันธ์ุแท้ของลิเวอร์พูล เขาจะชอบมาพูดให้ฟังว่าใครเล่นดี ใครยิงประตูได้ ซึ่งแพรก็ได้ยินชื่อของฟาน ไดค์ อยู่บ่อยๆ
มีความรู้สีกอย่างไรบ้าง ก่อนไปถ่ายงานชิ้นนี้
ทั้งตื่นเต้นและกดดันค่ะ ตื่นเต้นเพราะว่า จะได้ไปถ่ายงานที่ต่างประเทศ ส่วนที่กดดันเพราะว่า เราต้องทำงานร่วมกับเวอร์จิล ฟาน ไดค์ ที่เป็นนักฟุตบอลชื่อดังระดับโลก เรากลัวว่า เราจะไปทำงานเขาพังหรือเปล่า เราจะทำได้ดีไหม
พอได้ร่วมงานกับเวอร์จิล ฟาน ไดค์ เป็นอย่างไรบ้าง
เขาเป็นคนน่ารักค่ะ เขาเข้ามาทักทาย มาคุยด้วย พยายามสร้างความประทับใจแรกที่ดีต่อกัน เวลาทำงานจะได้ไม่เกร็ง สบายๆ
จริงๆเขาเป็นคนทำงานง่ายมาก เวลาแพรทำผิดพลาด เขาก็ไม่ได้อารมณ์เสียหรืออะไร หรือเวลาแพรทำพลาด เขาจะมาพูดว่า ไม่ต้องคิดมาก ตัวเขายังมีพลาดเลย ไม่มีทางที่เราจะทำงานอย่างเพอร์เฟ็คต์ ถ่ายเทกเดียวผ่านได้ทุกรอบ
ในการถ่ายทำ คุณต้องเล่นกับลูกฟุตบอลเยอะ ทั้งเลี้ยง ทั้งยิง ตรงนี้เป็นงานที่ยากไหม
ความจริงก่อนไปได้มีการซ้อมมาแล้วบ้าง แต่ว่าเราก็ไม่ได้เก่งขนาดที่ว่าจะควบคุมลูกฟุตบอลได้ดั่งใจ มีทำผิดพลาดบ้าง เป็นอะไรที่ยากเหมือนกัน
อีกอย่างอากาศที่นั่นหนาวมาก เป็นปัญหาหลักของแพรเลย เพราะเราไม่ชินกับอากาศ ถึงจะถ่ายในร่ม แต่อากาศข้างในก็ยังหนาวมาก และเราต้องใส่ชุดกีฬาด้วย ต้องวิ่ง ต้องเล่นออกกำลังกาย ถือว่ายากมากค่ะ
นอกเหนือจากประสบการณ์ที่ได้สัมผัสนักฟุตบอลระดับโลก ผ่านการถ่ายโฆษณาแล้ว ในแง่ของการเล่นกีฬา คุณคิดว่ากีฬาได้ให้อะไรกับตัวคุณบ้าง
หลักๆคือเรื่องสุขภาพ แพรมองว่าการเล่นกีฬาเข้ามาช่วยด้านร่างกายเยอะ แข็งแรง ตื่นนอน และหลับง่าย ทำกิจกรรมต่างๆได้มากขึ้น ไม่เพลียง่าย ถ้าเราออกกำลังกาย วันถัดมาเราจะรู้เลยว่าร่างกายเราตื่นตัว มีแรงไปทำอะไรหลายๆอย่าง
แพรมองว่า การเล่นกีฬาไม่ใช่การจับอุปกรณ์แล้วเดินลงสนามไปเล่นได้เลย แต่ต้องใช้ความคิดเยอะมาก ถ้าใครเล่นกีฬาจริงๆจะรู้ว่า การเล่นกีฬาจะต้องคิดเยอะมาก และต้องหมั่นฝึกซ้อมด้วย ไม่มีทางที่ใครจะเก่งตั้งแต่ลงสนามเล่นครั้งแรก
กีฬาทำให้เราใจเย็น มีสมาธิ คิดไตร่ตรองมากขึ้น ช่วยเราตัดสินใจได้รวดเร็วแต่ถูกต้องมากขึ้น อย่างเวลาแพรเล่นเทนนิส เวลาตีลูก แพรต้องตัดสินใจในระยะเวลาที่เร็วมาก ที่เราจะต้องตีลูกให้ถูกทิศทาง และรวดเร็ว แม่นยำ
รวมไปถึงเรื่องการทำงานร่วมกันเป็นทีม การสื่อสาร ต่อให้แพรเล่นกีฬาประเภทเดี่ยว แต่แพรก็ยังต้องทำงานร่วมกับคนอื่น ทั้งโค้ช ทั้งผู้จัดการทีม ซึ่งต้องใช้การสื่อสารระหว่างกัน เราต้องมีความเข้าใจกัน เรียนรู้กัน รู้จักอดทนกับการทำงาน ร่วมกับผู้อื่น
ซึ่งก็เอาไปปรับใช้กับชีวิตประจำวันได้ บางครั้งเราเจอปัญหา แต่ถ้าเรามีความพยายาม เราก็จะสามารถผ่านมันไปได้ ไม่ต่างอะไรจากการเล่นกีฬา สำหรับแพร กีฬาให้อะไรแพรเยอะมากๆ สามารถเอามาปรับใช้ ทั้งเรื่องเรียน เรื่องกิจกรรม เรื่องการทำงาน ได้หมดเลยค่ะ
ในฐานะที่แพรเป็นวัยรุ่น เป็นคนรุ่นใหม่ แพรมองถึงความสำคัญของการเล่นกีฬาต่อคนรุ่นใหม่ มากน้อยแค่ไหน
แพรมองว่า เป็นเรื่องสำคัญที่วัยรุ่นจะหันมาใช้เวลากับการออกกำลังกาย เพราะทุกวันนี้วัยรุ่นใช้เวลากับโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ ไอแพดเยอะ ซึ่งมันก็เสียสายตา
อีกอย่างแพรมองว่า การออกกำลังกาย ทำให้เราได้เจอกับคนจริงๆ ได้พูดคุยกัน มันดีกว่าการที่เราจะมานั่งคุยผ่านแอปต่างๆ
สำหรับแพร แพรมองว่าการได้ทำกิจกรรมร่วมกันกับเพื่อน ไม่ต้องเป็นการออกกำลังกายก็ได้ แพรว่ามันสนุกกว่าการนั่งพิมพ์แชทคุยกันในไลน์กลุ่ม
แพรมองว่าเราได้สื่อสารกัน ได้ฟังน้ำเสียง ได้เห็นสีหน้า ท่าทาง ภาษากายในการสื่อสาร มันดีกว่าการที่เราพูดคุยกัน ผ่านตัวหนังสือเพียงอย่างเดียว
อัลบั้มภาพ 131 ภาพ