ความหวังใหม่! "5 แข้งอินทรีเหล็ก" ที่ได้ประโยชน์จากการเลื่อนเตะยูโร 2020
ด้วยพิษไวรัสโควิด-19 ทำให้ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2020 ที่มีคิวระเบิดศึกในช่วงกลางปีนี้มีอันต้องเลื่อนไปเตะกันใหม่ในปีหน้า งานนี้คงทำเอาเหล่าแฟนบอลเซ็งกันไม่น้อยที่ต้องอดชมทัวร์นาเมนต์ใหญ่ที่ทุกคนตั้งตาคอยมาหลายปี แต่รู้ไหมว่ามีนักเตะในบุนเดสลีกาบางคนที่ได้ผลประโยชน์จากการเลื่อนเตะครั้งนี้ มาดูกันเลยว่าทำไมและมีใครบ้าง
ไค ฮาแวร์ทซ์
สโมสร: ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น
ตำแหน่ง: มิดฟิลด์ตัวรุก
ติดทีมชาติ 7 ครั้ง ทำได้ 1 ประตู
มิดฟิลด์ดาวรุ่งสิงห์เท้าซ้ายวัยเพียง 20 คนนี้คือแข้งจอมทำลายสถิติของทีม “ห้างขายยา” ฮาแวร์ทซ์เป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดของทีมที่ลงประเดิมสนามและยิงประตูได้ด้วยวัยไม่ถึง 18 ปีด้วยซ้ำ แถมยังเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นในบุนเดสลีกาครบ 100 เกมด้วยวัย 20 ปีครึ่ง
ในฤดูกาลที่แล้วฮาแวร์ทซ์ทำผลงานยอดเยี่ยมด้วยการยิง 17 ประตูและจ่าย 3 แอสซิสต์ แต่ในฤดูกาลนี้ฮาแวร์ทซ์กลับฟอร์มสะดุดในช่วงครึ่งแรกของซีซั่น ก่อนมาคืนฟอร์มยิง 4 จ่าย 4 ในช่วงหลังปีใหม่ทำให้กลับมาดูมีอนาคตสดใสอีกครั้ง ส่วนในระดับทีมชาติฮาแวร์ทซ์ถูกโยอาคิม เลิฟ ดันจากทีมชาติเยอรมนีชุดยู 19 ขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ในปี 2018 ซึ่งเขาทำผลงานได้เข้าเป้า ยิงประตูแรกของตัวเองได้ แถมยังจ่ายอีก 3 แอสซิสต์จนเลิฟต้องออกมาเอ่ยปากชมว่าฮาแวร์ทซ์เล่นเหมือน “คุ้นเคยกับทีมชุดนี้มานาน”
สำหรับในแผงมิดฟิลด์ทัพ “อินทรีเหล็ก” ตอนนี้เลิฟมีตัวเลือกค่อนข้างมากและฮาแวร์ทซ์อาจยังไม่ใช่ตัวเลือกแรกของเขา แต่อย่าลืมว่าในปีหน้าสุดยอดมิดฟิลด์ที่ยึดตัวจริงในทีมชาติอย่างโทนี่ โครส ก็จะอายุปาเข้าไป 31 ปีแล้ว ส่วนฮาแวร์ทซ์ก็จะมีอายุครบ 22 ปี ถือว่าเป็นตัวเลขอายุที่ดีสำหรับนักฟุตบอลดาวรุ่งและน่าจะได้รับโอกาสลงเล่นมากขึ้นแน่นอน
นิคลาส ซือเล่อ
สโมสร: บาเยิร์น มิวนิค
ตำแหน่ง: เซ็นเตอร์แบ็ค
ติดทีมชาติ 24 ครั้ง ทำได้ 1 ประตู
ขณะที่ฮาแวร์ทซ์ยังคงต้องพิสูจน์ตัวเองในนามทีมชาติต่อไป แต่สำหรับกองหลังเจ้าของส่วนสูง 6 ฟุต 4 นิ้วคนนี้ไม่มีอะไรต้องพิสูจน์อีกแล้ว เขาคือนักเตะที่เร็วเป็นอันดับ 2 ในทีมบาเยิร์น เป็นรองแค่คิงสลีย์ โกม็อง แถมยังมีอัตราจ่ายบอลสำเร็จสูงถึง 94% ซือเล่อคือนักเตะที่เพอร์เฟ็คสุดๆ สำหรับระบบ 3-4-3 ของเลิฟ แต่น่าเสียดายที่ต้องมาประสบปัญหาบาดเจ็บที่เอ็นหัวเข่าหลังลงเล่นในฤดูกาลล่าสุดได้เพียง 8 นัด
อย่างไรก็ตามกองหลังวัย 24 ปีคนนี้กำลังพยายามรักษาเนื้อรักษาตัวและฟื้นฟูร่างกายให้เร็วที่สุด โดยเจ้าตัวหวังกลับมาช่วยทีมบาเยิร์นทำภารกิจป้องกันแชมป์ลีกอีกสมัยก่อนปิดฤดูกาลนี้ให้ได้ แน่นอนว่าซือเล่อคงมองไกลไปถึงศึกยูโร 2020 ด้วยเช่นกัน ซึ่งหากดูจากฟอร์มการเล่นในช่วงนี้แล้ว แผงหลังสามคนในทีมของเลิฟน่าจะเป็นมัทเทียส กินเทอร์ โยนาธาน ทาห์ และโรบิน ค็อค ซะมากกว่า แต่เมื่อทัวร์นาเมนต์มีอันต้องเลื่อนเตะ ซือเล่อก็มีเวลารักษาอาการบาดเจ็บและเรียกความฟิตกลับมามากขึ้น สุดท้ายแล้วหากซือเล่อฟิตสมบูรณ์ ไม่ว่าเยอรมนีจะเล่นระบบกองหลัง 3 หรือ 4 ตัว ซือเล่อจะมีชื่อเป็นหนึ่งในนั้นอย่างแน่นอน
ซูอัต แซร์ดาร์
สโมสร: ชาลเก้
ตำแหน่ง: มิดฟิลด์ตัวกลาง
ติดทีมชาติ 3 ครั้ง
แม้ว่าฟอร์มการเล่นของทีม “ราชันสีน้ำเงิน” จะขึ้นๆ ลงๆ เอาแน่เอานอนไม่ได้ แต่แซร์ดาร์คือหนึ่งในนักเตะของทีมที่มีฟอร์มคงเส้นคงวาที่สุด เครื่องแรงไม่มีตก มิดฟิลด์ box-to-box คนนี้คือหัวใจสำคัญของชาลเค่อ เจ้าตัววิ่งเป็นม้าในทุกเกมที่ลงเล่นเฉลี่ย 11 ไมล์ต่อนัด แถมยังยิงประตูได้เยอะที่สุดในทีมอีกด้วย
พ่อแม่ของแซร์ดาร์เป็นชาวตุรกี แต่เขาเกิดในเยอรมนีและติดทีมชาติเยอรมนีมาตั้งแต่ชุดยู 16 เรื่อยมาจนได้ติดทีมชุดใหญ่เมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา แม้จะยังมีข้อกังขาว่ามิดฟิลด์คนนี้ดีพอจะก้าวขึ้นมายึดตัวจริงในทีมชาติได้ไหม แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเลิฟคงต้องอยากใส่ชื่อแซร์ดาร์ลงไปในโผนักเตะชุดลุยศึกยูโร 2020 ด้วยแน่ๆ โดยเฉพาะตัวเลือกมิดฟิลด์คนอื่นๆ อย่างโยชัว คิมมิช อิลคาย กุนโดกัน และโทนี โครสต่างก็เป็นมิดฟิลด์ที่ชอบยืนค่อนข้างต่ำกว่าแซร์ดาร์ทั้งนั้น
โรบิน ค็อค
สโมสร: ไฟรบวร์ก
ตำแหน่ง: เซ็นเตอร์แบ็ค/มิดฟิลด์ตัวรับ
ติดทีมชาติ 2 ครั้ง
สถานการณ์ในแผงหลังทีม “อินทรีเหล็ก” ตอนนี้อาจทำให้เลิฟมีทางเลือกไม่มากนัก ทั้งมัตส์ ฮุมเมิลส์ และเชอโรม บัวเต็ง ที่กำลังหมดวาระรับใช้ทีมชาติ ส่วนกองหลังตัวหลักอย่างนิคลาส ซือเล่อก็มาเจ็บเข่าจนต้องพักยาว เหลือเพียงสองกองหลังอย่างกินเทอร์จากโบรุสเซีย เมินเช่นกลัดบัค และทาห์จากเลเวอร์คูเซนที่เลิฟไว้วางใจให้เป็นตัวหลักในแนวรับ นั่นหมายความว่ายังมีที่ว่างอีก 1 ตำแหน่งในแผนการเล่นแบบ 3-4-3 ของเลิฟ
โชคดีของโยอาคิม เลิฟที่ในฤดูกาลล่าสุดทีมไฟรบวร์กสามารถสร้างเซอร์ไพรส์ทำผลงานในลีกได้อย่างยอดเยี่ยม นักเตะหลายคนพากันโชว์ฟอร์มเข้าตา โดยเฉพาะโรบิน ค็อค หนึ่งในสามแผงหลังทีมไฟรบวร์กที่ก้าวขึ้นมาติดทีมชาติเยอรมนี กองหลังวัย 24 ปีเล่นเข้าขากับกินเทอร์ได้เป็นอย่างดีและมีส่วนช่วยให้ทีม “อินทรีเหล็ก” การันตีตั๋วไปเล่นรอบสุดท้ายศึกยูโร 2020 ได้สำเร็จเมื่อปีที่ผ่านมา
ในปีหน้าเมื่อศึกยูโร 2020 สามารถลงฟาดแข้งกันได้ ค็อคจะอายุครบ 25 ปีเต็ม ซึ่งไม่ว่านิคลาส ซือเล่อจะกลับมาฟิตสมบูรณ์หรือไม่ เมื่อดูจากฟอร์มแล้วถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดยังไงค็อคก็น่าจะมีชื่อติดโผ 11 ตัวจริงอยู่ดี เพราะนอกจากตำแหน่งกองหลังแล้ว เขายังสามารถขยับขึ้นไปยืนเป็นมิดฟิลด์ตัวรับได้อีกด้วยในกรณีที่เอ็มเร ชาน ได้รับบาดเจ็บ เพราะซามี เคดิร่า ผู้เล่นในตำแหน่งนี้อีกคนก็จะอายุปาเข้าไป 33 ปีแล้วในปีหน้า
ฟิลิปป์ มักซ์
สโมสร: เอาก์สบวร์ก
ตำแหน่ง: แบ็คซ้าย/ปีกซ้าย
ติดทีมชาติ 3 ครั้งทำไป 1 ประตู (ชุดยู 23)
มีความเป็นไปได้สูงที่ทีมชาติเยอรมนีจะใช้งานเลรอย ซาเน่อ ให้ยืนเป็นกองหน้าฝั่งซ้าย คำถามคือใครน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะมาประสานงานกับซาเน่อในฝั่งซ้าย ซึ่งตัวเลือกที่คาดเดากันก็ได้แก่ โยนาส เฮคทอร์ มาร์เซล ฮัลส์เทนแบร์ก หรือนิโค ชูลซ์
ถ้าว่ากันตามตำแหน่งในสโมสรแล้ว เฮคทอร์ถูกโยกเข้าไปยืนเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางในทีมโคโลญจน์ ฮัลส์เทนแบร์กก็ถูกจับไปยืนเป็นเซ็นเตอร์แบ็คของแอร์เบ ไลป์ซิก บ่อยขึ้นทุกที ส่วนชูลซ์เองก็ไม่ได้รับโอกาสลงเล่นสม่ำเสมอเท่าที่ควร เพราะต้องแชร์ตำแหน่งกับราฟาเอล เกร์เรโร่ ในทีมโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในทางกลับกัน มักซ์คือผู้เล่นที่ได้ลงสนามอย่างสม่ำเสมอในตำแหน่งที่เลิฟต้องการ ทั้งตำแหน่งแบ็คซ้ายที่คอยสนับสนุนปีกอย่างรูเบน วาร์กัส และในตำแหน่งปีกซ้ายด้วยเช่นกัน แถมยังสามารถทำผลงานเข้าเป้า ยิง 7 ประตูและจ่าย 5 แอสซิสต์ เทียบเท่าผลงานของกองหน้าบางทีมเลยด้วยซ้ำ!
มาร์ติน มักซ์ พ่อของเขาคืออดีตดาวซัลโวบุนเดสลีกา 2 สมัยที่ลงเล่นลีกกว่า 300 นัด ส่วนฟิลิปป์ มักซ์คือหนึ่งในนักเตะชุดคว้าเหรียญเงินโอลิมปิก 2016 และเป็นไปได้สูงว่าจะสามารถแจ้งเกิดในระดับนานาชาติได่ในเร็ววันนี้