เจาะ 4 ข้อเด่น! ส่งให้ "ซานโช" สร้างผลงานสุดร้อนแรงสนั่นบุนเดสลีกา
ในฤดูกาลล่าสุดเจ้าหนูดาวโรจน์บุนเดสลีกาจากเกาะอังกฤษ เจดอน ซานโช เพิ่งโชว์ฟอร์มสุดยอด เป็นผู้เล่นคนแรกในบรรดานักเตะจากลีกท็อป 5 ในยุโรปที่สามารถยิงประตูและทำแอสซิสต์ได้เกิน 10 ครั้งในทั้งสองหมวด ใครเห็นก็เป็นต้องสงสัยว่าเจ้าหนูคนนี้มันทำได้ไง?
ซานโชเกิดในกรุงลอนดอน แต่หันหลังให้กับพรีเมียร์ลีกเพื่อตามหาโอกาสในการลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ เขาย้ายมาค้าแข้งในถิ่นซิกนัล อิดูน่า พาร์ค ในช่วงหน้าร้อนปี 2017 และเขาก็ได้รับโอกาสนั้น
ผ่านไปสองฤดูกาลครึ่ง ซานโชกลายเป็นนักเตะระดับเวิลด์คลาส ยิงไป 27 ประตูและทำไป 33 แอสซิสต์จาก 69 เกมในบุนเดสลีกาที่ลงเล่นให้ทีม “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ นอกจากนี้ยังมีดีกรีแชมป์เดเอฟแอล ซูเปอร์คัพ และติดธงทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ไปแล้ว 11 ครั้ง
อย่างที่รู้กันว่าดอร์ทมุนด์คือหนึ่งทีมที่ดีที่สุดในโลกที่ให้โอกาสแข้งเยาวชน เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ และ อัชราฟ ฮาคิมี ก็มีโอกาสได้แจ้งเกิดในเวทียุโรปกับทีม “เสือเหลือง” ทั้งที่อายุยังอยู่ในเกณฑ์ของทีมชุดยู 21 ปีด้วยซ้ำ แต่หากเทียบกับนักเตะเยาวชนทั้งหมดในค่าย “เสือเหลือง” แล้ว ซานโชดูจะมีพัฒนาการและฝีเท้าที่ไปไกลกว่าเพื่อน เจ้าหนูคนนี้มีดีอะไรถึงมาได้ไกลเช่นนี้
ทักษะการเลี้ยงบอล
จุดเด่นของซานโชที่ทำเอาแฟนบอลในสนามพากันนั่งไม่ติดเก้าอี้ก็คือทักษะการคอนโทรลบอลอันลื่นไหลดั่งสายน้ำ พ่อแม่ของซานโชมาจากประเทศตรินิแดดและโตเบโก แต่เขาเกิดในลอนดอนใต้และเริ่มเล่นสตรีทฟุตบอลข้างถนนกับรีสส์ เนลสัน ปีกจากอาร์เซน่อล ที่ฮอฟเฟนไฮม์ เคยยืมตัวไปเล่นในบุนเดสลีกาเช่นกันเมื่อฤดูกาล 2018/19
อดีตโค้ชของซานโชเคยกล่าวว่าทักษะของซานโชในครั้งแรกที่เขาได้เห็นมันสุดยอดมาก เจ้าหนูคนนี้โชว์ทักษะได้อย่างเหลือเชื่อ เขาแตะบอลลอดขา ทำเอาคู่แข่งดูไม่มีตัวตนไปเลย ทั้งที่คู่แข่งในตอนนั้นคือนักเตะจากทีมอะคาเดมีด้วยซ้ำ และเมื่อตัดภาพมาไม่กี่ปีหลังจากนั้น เขาก็ได้มาวาดลวดลายในบุนเดสลีกา ในแมตช์เดย์ 31 ของฤดูกาล 2017/18 ซานโชเบิกสกอร์แรกของตัวเองในเสื้อทีมดอร์ทมุนด์ได้สำเร็จ ช่วยให้ทีมออกนำไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ก่อนจะจ่ายอีก 2 แอสซิสต์พาทีมคว้าชัยท่วมท้น 4-0 ประตู
ความเร็วเผาเครื่องคู่แข่ง
นักเตะหลายคนอาจต้องใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อหลอกล่อคู่แข่งก่อนจะพาบอลหนีไปได้ โดยเฉพาะหากพวกเขาไม่มีความเร็วมากพอจะวิ่งสลัดตัวประกบให้หลุดไปได้ก็ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ ตัวอย่างนักเตะทักษะสูงที่สามารถหลอกคู่แข่งจนหัวหมุนได้ก็เช่น เซเนดีน ซีดาน ฮวน โรมัน ริเกลเม่ หรือที่ยังค้าแข้งอยู่อย่างฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ที่น่าจะใช้ทักษะลีลากระดกบอลด้วยไหล่หลบหนีคู่แข่งมากกว่าจะออกตัวสปริ้นท์ดวลกัน แต่สำหรับเจดอน ซานโชแล้ว เจ้าหนูคนนี้มีวิธีเลี้ยงบอลหนีคู่แข่งที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะซานโชจะใช้ทั้งพละกำลัง เทคนิค รวมถึงจินตนาการเพื่อพาบอลหนีคู่ต่อสู้อย่างน่าตื่นตา ถึงขึ้นที่แข้งตำนานทีมบาร์เซโลน่า อย่างชาบี้ ยังเคยกล่าวว่าทีมของเขายังขาดผู้เล่นปีกอย่างซานโชและแซร์จ นาบรี้ นักเตะร่วมลีกสูงสุดของเยอรมนี
ในบุนเดสลีกาตอนนี้แม้จะไม่มีคู่หู “ร็อบเบรี” ที่ประกอบไปด้วย ฟรองค์ ริเบรี กับอาร์เยน ร็อบเบน ให้ได้ฮือฮากันแล้ว แต่ซานโช นาบรี้ และคริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู จากแอร์เบ ไลป์ซิก ก็มาพัฒนาฝีเท้าเข้ามาขโมยซีนได้ทันท่วงที ซึ่งคนที่เร็วที่สุดในบรรดาปีกตัวท็อปของบุนเดสลีกาก็คือซานโชนี่แหละ
นาบรี้กับเอ็นคุนคูมีท็อปสปีดอยู่ที่ 20.6 ไมล์ต่อชั่วโมงในฤดูกาลนี้ ขณะที่ท็อปสปีดของซานโชอยู่ที่ 21.5 ไมล์ต่อชั่วโมงเลยทีเดียว ซึ่งความเร็วของเจ้าหนูคนนี้แหละที่เล่นงานดาวิด อาลาบา ซะจนเสียศูนย์ในเกมนัดชิงศึกเดเอฟแอล ซูเปอร์คัพ ที่ดอร์ทมุนด์คว่ำบาเยิร์นคว้าแชมป์ไปด้วยสกอร์ 2-0
การตัดสินใจและทัศนคติ
การย้ายจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ มายังดอร์ทมุนด์ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของซานโช เพื่อนร่วมทีมเยาวชนแมนฯ ซิตี้ของเขาอย่างฟิล โฟเดน เพิ่งจะได้โอกาสลงเล่นในพรีเมียร์ลีกไปแค่ 32 เกม ในขณะที่ซานโชลงเล่นในบุนเดสลีกาไปแล้วถึง 69 นัดและกลายเป็นกำลังหลักของทีมอีกด้วย หากไม่เจ็บก็ได้ลงชัวร์ๆ
นักเตะดาวรุ่งฝีเท้าดีหลายคนมักพยายามโชว์ฝีเท้าเพื่อเอาชนะใจโค้ชและแฟนบอล แต่ซานโชไม่ใช่นักเตะที่คิดอะไรเด็กๆ แบบนั้นแน่นอน หลายครั้งที่เขาได้บอลและเลี้ยงหลอกล่อตัวประกบออกไปไกลๆ ก็เพื่อเปิดช่องว่างให้กับเพื่อนร่วมทีม แถมยังสามารถพาบอลหลอกล่อคู่แข่งได้มากกว่าหนึ่งคนเพื่อให้มีนักเตะทีมเดียวกันสามารถหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษได้
สถิติการทำแอสซิสต์ของซานโชในฤดูกาลนี้บอกอะไรได้ดีทีเดียว มีเพียงโธมัส มุลเลอร์ ที่ทำได้มากกว่าเขา (มุลเลอร์ 16, ซานโช 15) แต่ 6 แอสซิสต์ของมึลเลอร์เป็นการจ่ายให้โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เพียงคนเดียว นอกนั้นเป็นการจ่ายให้นักเตะคนอื่นๆ อีก 7 คน ในขณะที่ซานโชจ่ายแอสซิสต์ให้เพื่อนร่วมทีมยิงประตูแล้วถึง 11 คน ซึ่งจะทำได้มากกว่านี้อีกเยอะหากเพื่อนร่วมทีมไม่พลาด Big chance (การจ่ายแอสซิสต์ที่มีโอกาสเป็นประตูสูง) ไปซะเอง
เก่งทั้งยิงทั้งจ่าย
ในบรรดานักเตะที่ทำแอสซิสต์สูงๆ ในซีซั่นนี้ไม่มีใครยิงประตูได้ใกล้เคียงกับซานโชเลยสักคน มุลเลอร์ยิงได้ 6 ประตู เอ็นคุนคู, ฮาคิมี, อาซาร์ ซึ่งเป็นนักเตะที่จ่ายแอสซิสต์ได้เกินสิบลูก ก็ยิงประตูกันได้เพียงคนละ 4 3 และ 5 ลูกตามลำดับ แต่ซานโชยิงไปแล้วถึง 14 ลูก เป็นรองเพียงเลวานดอฟสกี้ (25) และทิโม แวร์เนอร์ (21) ทั้งที่เขาไม่ใช่ศูนย์หน้าเหมือนดาวยิงทั้งสองคนนี้
การปรับตัวและความมุ่งมั่น
ซานโชเป็นนักเตะที่มีความหลากหลายในเกมรุก ซึ่งผ่านการฝึกฝนฝีเท้าตนเองมาเป็นอย่างดี เขาสามารถบุกได้ทั้งกราบซ้ายและขวา เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งได้ดีเยี่ยม ยิงและจ่ายด้วยเท้าทั้งสองข้างได้มีประสิทธิภาพเท่าๆ กัน เราจึงได้เห็นเขาออกสตาร์ทเกมในฝั่งซ้ายทีฝั่งขวาที ซึ่งไม่ได้สร้างความแตกต่างอะไรกับฟอร์มของซานโชเท่าไรนัก
เมื่อเดือนธันวาคมปี 2018 ซานโชทราบข่าวว่าย่าที่อาศัยอยู่ในกรุงลอนดอนเสียชีวิต เขาได้รับอนุญาตให้บินกลับทันที ก่อนที่จะกลับมาลงเตะในศึกเรเวียร์ดาร์บี้กับทีมชาลเก้ และเป็นผู้ยิงประตูชัยให้ทีม “เสือเหลือง” เป็นฝ่ายเอาชนะในเกมนั้นไปด้วยสกอร์ 2-1 ประตู ซานโชได้อุทิศประตูนั้นให้กับย่าผู้ล่วงลับ เพราะย่าและครอบครัวเป็นคนที่คอยเอาใจช่วยเขาในการมาค้าแข้งในเยอรมนีมาตลอด หากย่าของซานโชกำลังดูอยู่จากบนสวรรค์ ก็คงจะภูมิใจในตัวหลานชายคนนี้ไม่น้อยเลย