ฟอร์มดีไม่เกี่ยงอายุ! ส่อง 10 แข้งอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์บุนเดสลีกา

จิโอ เรย์น่า คือนักเตะชาวอเมริกันที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์บุนเดสลีกาที่เพิ่งได้ลงประเดิมสนามให้กับสโมสรโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และกลายเป็นที่กล่าวถึงอย่างมาก แต่ฟอร์มของเจ้าหนูเรย์น่าจะเป็นอย่างไรบ้างเมื่อเทียบกับนักเตะอายุน้อยคนอื่นๆ ที่ได้โอกาสลงประเดิมสนามในวัยใกล้ๆ กัน มาส่องเทียบฟอร์มแต่ละคนกันได้เลย
 

1) นูริ ซาฮิน
ลงประเดิมสนามด้วยวัย 16 ปี 11 เดือน 1 วัน
 
ผลผลิตจากทีมเยาวชนดอร์ทมุนด์ได้ลงประเดิมสนามเต็ม 90 นาทีโดยเล่นคู่กับโทมัส โรซิชกี้ ในแมตช์เสมอกับโวล์ฟสบวร์ก ไป 2-2 ประตูเมื่อปี 2005 ก่อนจะยิงประตูแรกของตนเองได้ในเกมนัดที่ 7 และทำแอสซิสต์ได้รวม 6 ครั้งในฤดูกาลแรก แข้งเชื้อสายตุรกีถูกยืมตัวไปเล่นกับทีมเฟเยนอร์ด ในลีกดัตช์เมื่อฤดูกาล 2007/08 เมื่อกลับมายังดอร์ทมุนด์ ซาฮินก็ยังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมและเป็นหนึ่งในนักเตะตัวหลักของทีม “เสือเหลือง” ชุดแชมป์บุนเดสลีกาฤดูกาล 2010/11 ของเยือร์เก้น คล็อปป์ ก่อนจะย้ายไปร่วมทีม “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ในปี 2011 แต่ทว่าเขากลับโชว์ฟอร์มได้ไม่ดีนักและมีปัญหาเรื่องความฟิต ซาฮินจึงถูกปล่อยให้ลิเวอร์พูล ยืมตัวไปเล่นในศึกพรีเมียร์ลีก และสุดท้ายก็กลับมายังรั้วทีม “เสือเหลือง” อีกครั้ง ซึ่งคราวนี้เขาสามารถคว้าแชมป์เดเอฟเบคัพ กับทีม “เสือเหลือง” ได้ในฤดูกาล 2016/17 แต่หลังจากการเข้ามาของลูเซียง ฟาฟร์ กองกลางวัย 31 ปีก็ได้โอกาสลงเล่นน้อยลง จึงต้องโบกมืออำลาทีม “เสือเหลือง” ไปในที่สุด ปัจจุบันซาฮินค้าแข้งอยู่กับทีมแวร์เดอร์ เบรเมน เป็นฤดูกาลที่ 2 แล้ว
 

2) ยันน์ บิสเซ็ค
 ลงประเดิมสนามด้วยวัย 16 ปี 11 เดือน 28 วัน
 
บิสเซ็คเป็นเด็กปั้นของเพเทอร์ ชเตอเกอร์ เช่นเดียวกับซาฮิน เขาได้รับโอกาสให้ลงประเดิมสนามในบุนเดสลีกาในตอนที่ชเตอเกอร์คุมทีมโคโลญจน์ในปี 2017 และถูกปลดจากเก้าอี้กุนซือใหญ่ในสัปดาห์ต่อมา หลังจากนั้นบิสเซ็คได้โอกาสลงสนามในบุนเดสลีกาอีกแค่สองนัด ก่อนจะถูกจับไปเล่นในทีมชุดยู 19 และทีมสำรองของโคโลญจน์
 
บิสเซ็คถูกยืมตัวไปเล่นให้กับทีมโฮลชไตน์ คีล ก่อนที่จะย้ายไปเล่นในลีกเนเธอร์แลนด์เมื่อปีที่แล้ว ปัจจุบันบิสเซ็คยังคงเล่นอยู่ในทีมชุดยู 21 ของทีมฮีเรวีน รอโอกาสในการก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ต่อไป
 

3) เยือร์เก้น ฟรีเดล
ลงประเดิมสนามด้วยวัย 17 ปี 26 วัน
 
เช่นเดียวกับบิสเซ็ค ผู้รักษาประตูดาวรุ่งแห่งทีมไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต คนนี้ได้โอกาสลงเล่นในบุนเดสลีกาแค่ 3 เกมเมื่อฤดูกาล 1975/76 ในเกมประเดิมสนามที่ “อินทรีแดง-ดำ” เอาชนะฮันโนเวอร์ได้ 5-1 ประตู ฟรีเดลถูกเปลี่ยนตัวลงมาในนาทีที่ 74 และโดนยิง 1 ประตู ส่วนอีกสองเกมที่ฟรีเดลได้ลงสนามปรากฏว่าแฟรงค์เฟิร์ตแพ้ทั้งสองนัด แม้จะทำผลงานได้ไม่สวยงามนัก แต่ฟรีเดลก็ยังคงเดินหน้าค้าแข้งกับสโมสรเล็กๆ ในเยอรมนีอย่างไฮน์สแบร์ก และ บาด ฟีเบล ก่อนจะแขวนถุงมือในปี 1990
 

4) อิบราฮิม ทังโก้
ลงประเดิมสนามด้วยวัย 17 ปี 2 เดือน
 
แข้งชาวกาน่ารายนี้ได้ลงเล่นในบุนเดสลีกามากกว่าสองคนด้านบน เขาลงประเดิมสนามเกมแรกในชุดทีมดอร์ทมุนด์ในเกมพบกับ “ม้าขาว” สตุ๊ตการ์ท ในปี 1994 ตลอดระยะเวลาที่ค้าแข้งกับดอร์ทมุนด์ 6 ฤดูกาลครึ่ง ทังโก้ได้ลงสนาม 52 นัด ยิงได้เพียง 3 ประตู แต่ก็ยังสามารถคว้าแชมป์บุนเดสลีกากับทีม “เสือเหลือง” ได้ 2 สมัยและแชมป์ยูเอฟ่า แชมเปียนส์ลีก อีกสมัยในปี 1997 ก่อนจะย้ายไปเล่นกับไฟรบวร์ก เป็นเวลาถึง 6 ปี ทำผลงานลงเล่น 122 นัดยิงไป 8 ประตูและทำได้ 8 แอสซิสต์
 

5) จิโอ เรย์น่า
ลงประเดิมสนามด้วยวัย 17 ปี 2 เดือน 6 วัน
 
เรย์น่าคือแข้งดาวรุ่งที่ได้โอกาสลงเล่นกับทีม “เสือเหลือง” ชุดใหญ่อย่างรวดเร็ว โดยถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทนตอร์กาน อาซาร์ ในนาทีที่ 72 ของแมตช์เดย์ 18 ในฤดูกาลล่าสุด ทำให้เขากลายเป็นนักเตะอเมริกันอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ได้ลงเล่นในบุนเดสลีกา แถมเรย์น่ายังสามารถจ่ายแอสซิสต์ให้เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ยิงแฮตทริกในเกมนั้นได้อีกด้วย นอกจากนี้เรย์น่าก็ยังยิงประตูแรกให้ดอร์ทมุนด์ได้แล้วในศึกเดเอฟเบคัพ อดีตดาวรุ่งทีมเยาวชนของสโมสรนิวยอร์ก เอฟซี ถูกตั้งความหวังไว้ว่าจะสามารถเดินตามรอยเท้ารุ่นพี่ชาวอเมริกันอย่างคริสเตียน พูลิซิช ได้ และกลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งในบุนเดสลีกา จับตาดูเจ้าหนูคนนี้ไว้ได้เลย!
 

6) โยชา วากโนมัน
ลงประเดิมสนามด้วยวัย 17 ปี 2 เดือน 27 วัน
 
เจ้าหนูวากโนมันเกิดที่เมืองฮัมบวร์ก เขาไต่เต้าจากทีมเยาวชนฮัมบวร์กขึ้นมาเรื่อยๆ จนได้ลงประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่ในเกมพบบาเยิร์น มิวนิค ที่สนามอัลลิอันซ์ อารีน่า เมื่อปี 2018 แต่ทว่าเกมนี้กลับเป็นการลงประเดิมสนามอันขื่นขม เมื่อทีมต้นสังกัดตกเป็นฝ่ายพ่ายทีม “เสือใต้” แบบยับเยินถึง 8-0 ประตู แถมในฤดูกาลนั้นทีมฮัมบวร์กก็มีอันต้องตกชั้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ อย่างไรก็ดีวากโนมันก็ยังได้ลงเล่นและโชว์ฟอร์มได้ดีในเวทีบุนเดสลีกา 2 แต่ก็ไม่วายโชคร้ายที่ต้องเจอปัญหากระดูกเท้าแตก
 

7) ซิโมน อัสต้า
ลงประเดิมสนามด้วยวัย 17 ปี 3 เดือน 17 วัน
 
ดาวรุ่งแห่งทีมเอาก์สบวร์กเริ่มต้นปี 2020 ในห้องผ่าตัดเนื่องจากอาการเอ็นหัวเข่าฉีกจากการลงเล่นให้ทีมชุดยู 19 ทั้งที่จริงๆ แล้วเจ้าตัวเคยลงประเดิมสนามในบุนเดสลีกามาตั้งแต่ฤดูกาล 2017/18 แต่เป็นการถูกเปลี่ยนตัวลงมาช่วงท้ายเกมซึ่งทีมเป็นฝ่ายแพ้ให้กับไฟรบวร์กไป 2-0 ส่วนนัดต่อมาที่เขาได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงก็คือนัดสุดท้ายของฤดูกาล 2018/19 ซึ่งก็โชคไม่ดีที่ทีมแพ้โวล์ฟสบวร์กไปขาดลอย 8-1 ประตู
 

8) มักซิมิเลียน ไบเออร์
 ลงประเดิมสนามด้วยวัย 17 ปี 3 เดือน 22 วัน
 
ไบเออร์เพิ่งได้ลงประเดิมศึกบุนเดสลีกาในฤดูกาลล่าสุด และกลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดของฮอฟเฟนไฮม์คนใหม่แทนที่เจ้าของสถิติเดิมคือนิคลาส ซือเล่อ ที่ย้ายไปอยู่กับบาเยิร์น มิวนิคแล้ว ไบเออร์คือผลผลิตจากทีมเยาวชนฮอฟเฟนไฮม์เช่นเดียวกับซือเล่อ และมีชื่ออยู่ในทีมชาติเยอรมนีชุดยู 17 ด้วย
 

9) ยูเลียน ดรักซ์เลอร์
 ลงประเดิมสนามด้วยวัย 17 ปี 3 เดือน 26 วัน
 
ดรักซ์เลอร์เป็นนักเตะดาวรุ่งจากสโมสรชาลเค่อ เช่นเดียวกับเมซุต โอซิล และมานูเอล นอยเออร์ หลังทำผลงานได้ดีในเกมประเดิมสนามที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมาในช่วงท้ายเกม ดรักซ์เลอร์ก็ได้รับโอกาสให้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในเกมต่อไปทันที จากนั้นเขาจึงกลายเป็นนักเตะตัวหลักของทีม ตลอดระยะเวลาที่ค้าแข้งกับชาลเค่อ ดรักซ์เลอร์ยิงประตูในลีกได้รวม 18 ประตู และยังยิงประตูพาทีมคว้าแชมป์เดเอฟเบคัพได้ในฤดูกาล 2010/11 ก่อนที่จะไปคว้าแชมป์โลกกับทีมชาติเยอรมนีได้ในปี 2014 หลังจากนั้นเขาย้ายไปเล่นให้กับทีมโวล์ฟสบวร์ก 2 ฤดูกาล ก่อนเก็บข้าวของไปเล่นให้เปแอสเชในกรุงปารีสจนถึงปัจจุบัน คว้าแชมป์ลีกเอิง ได้สองสมัย แชมป์เฟร้นช์คัพ และเฟร้นช์ลีกคัพ อีกอย่างละ 1 สมัย
 

10) มาร์ค ชเตนเดร่า
ลงประเดิมสนามด้วยวัย 17 ปี 3 เดือน 26 วัน
 
ชเตนเดร่าเริ่มต้นได้คล้ายๆ กับดรักซ์เลอร์ เขาลงประเดิมสนามให้แฟรงค์เฟิร์ตด้วยการถูกเปลี่ยนตัวลงมาในช่วงท้ายเกมและทำผลงานได้ดี ก่อนที่จะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในโอกาสต่อมาที่พบกับทีมชาลเค่อของดรักซ์เลอร์ แต่ชเตนเดร่าก็ต้องใช้เวลาถึงสองปีกว่าจะเบิกประตูแรกในลีกให้กับทีมได้สำเร็จและยังก้าวขึ้นมามีบทบาทในทีมมากขึ้นโดยได้ลงสนามเกิน 20 นัดในหนึ่งฤดูกาล แต่เขาก็โชคร้ายที่ต้องประสบปัญหาบาดเจ็บอยู่บ่อยครั้งจนอดลงเล่นซะเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตามชเตนเดร่าก็ยังสามารถช่วยให้ทีมชาติเยอรมนีชุดยู 17 คว้าแชมป์ฟุตบอลยูโร 2014 ได้สำเร็จ และยังพกดีกรีแชมป์เดเอฟเบคัพ 1 สมัยกับทีม “อินทรีแดง-ดำ” อีกหนึ่งรายการ ปัจจุบันเขาเล่นให้กับทีมฮันโนเวอร์ในบุนเดสลีกา 2