ชีวิตวันนี้ของ "ริวัลโด้" อดีตจอมทัพเบอร์ 10 ทีมชาติบราซิลในวัยเกษียณ (ภาพ)
เชื่อเหลือเกินว่าแฟนบอลรุ่นเก่าหน่อยที่ได้ยลฝีเท้าของ ริวัลโด้ อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติบราซิล จะต้องปรับทับใจในเท้าซ้ายของเจ้าตัวเป็นแน่ ไม่ว่าจะเป็นการผ่านบอลระยะไกล หรือการยิงฟรีคิก ต้องบอกว่าแม่นเหมือนจับวางทีเดียว
ตลอดการค้าแข้ง จอมทัพเบอร์ 10 โชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ยิ่งในช่วงที่ย้ายจาก เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญ่า ไปค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า ยอดทีมแดนกระทิงดุ ที่สร้างผลงานสุดยิ่งใหญ่ทำไป 19 ประตู พาต้นสังกัดซิวดับเบิลแชมป์ (ลา ลีกา และโกปา เดล เรย์) ในฤดูกาล 1997-98
เท่านั้นยังไม่พอฤดูกาลต่อมาเจ้าตัวกดไปอีก 24 ประตู พาทีมคว้าแชมป์ลีกอีกสมัย แถมได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเตะหมายเลข 1 ของโลก ด้วยการคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่า (บัลลงดอร์) และนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปียุโรปในปีเดียวกัน
หลังจากนั้นเจ้าตัวก็ย้ายไปร่วมทัพ "ปีศาจแดงดำ" เอซี มิลาน รวมถึงคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก ได้สำเร็จในฤดูกาล 2002–03 ขณะที่ในนามทีมชาติ เจ้าตัวประสบความสำเร็จสูงสุดด้วยการชูถ้วยแชมป์โลกในปี 2002 พร้อมรับใช้ชาติไป 74 นัด ทำได้ 35 ประตู
ริวัลโด้ ถือเป็นนักเตะที่มีระเบียบวินัยสูง ดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ถึงขั้นที่ยืดอายุการค้าแข้งออกไปจนถึงวัย 43 ปี แถมยังได้ลงสนามเคียงข้าง ริวัลดินโญ่ ลูกชายของตัวเองที่ โมจิ มิริม สโมสรสุดท้ายในชีวิตค้าแข้งในบ้านเกิดก่อนประกาศแขวนสตั๊ด
ปัจจุบันในวัย 48 ปี อดีตดาวเตะหมายเลข 1 ของโลก ย้ายไปใช้ชีวิตอยู่ที่ ฟลอริด้า, สหรัฐอเมริกา กับ เอลิซ่า เฟอร์ไรร่า แฟนสาว และลูกๆ ซึ่งเจ้าตัวยังคงดูแลร่างกายได้เป็นอย่างดีด้วยการออกกำลังกายอยู่เสมอ และชีวิตหลังแขวนสตั๊ดถือว่ามีความสุขทีเดียวเมื่อได้อยู่กับหลานๆ และครอบครัวที่อบอุ่น
อัลบั้มภาพ 40 ภาพ