Once Upon a Time in Miami : เมื่อ 2 ราชา "The Beatles" และ "อาลี" โคจรมาพบกัน

Once Upon a Time in Miami : เมื่อ 2 ราชา "The Beatles" และ "อาลี" โคจรมาพบกัน

Once Upon a Time in Miami : เมื่อ 2 ราชา "The Beatles" และ "อาลี" โคจรมาพบกัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม้จะอยู่กันคนละสาขา คนละวงการกันโดยสิ้นเชิง แต่อย่างน้อย The Beatles กับ มูฮัมหมัด อาลี (Muhammad Ali) กลับมีหนึ่งสิ่งที่เหมือนกัน นั่นคือการเป็น “ราชา” ของวงการตัวเอง

เพราะไม่ว่าจะจัดอันดับวงดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลสักกี่ครั้ง ชื่อของ The Beatles ก็มักจะขึ้นมาอยู่ในอันดับ 1 เสมอ พวกเขาคือปรากฏการณ์แห่งโลกดนตรีที่ยากจะหาใครเปรียบ เช่นเดียวกับ อาลี ที่ชื่อของเขาก็ประทับอยู่ในหนึ่งนักมวยที่ดีที่สุดตลอดกาลเช่นกัน

นอกจากนั้นทั้ง The Beatles และ มูฮัมหมัด อาลี ต่างก็มีรูปถ่ายคลาสสิคเป็นของตัวเองมากมายหลายรูป และแน่นอนว่ารวมถึงรูปที่พวกเขาทั้งคู่ถ่ายด้วยกันด้วย ... ใช่ ครั้งหนึ่ง 2 ราชาจากต่างวงการนี้เคยโคจรมาพบกันแล้ว หลายคนอาจจะเคยเห็นรูปถ่ายนั้นแล้ว ส่วนบางคนอาจจะยังไม่รู้มาก่อน ครั้งนี้เราจึงจะพาย้อนเวลากลับไปในวันดังกล่าว วันที่ The Beatles พบกับ มูฮัมหมัด อาลี เกิดอะไรขึ้นในวันนั้นบ้าง? เรื่องราวจะเป็นอย่างไร? ติดตามได้ที่ Main Stand

ก่อนวันชักภาพ

ครั้งแรกที่ The Beatles กับ มูฮัมหมัด อาลี ได้เจอกันคือในปี 1964 ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวเรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาสำคัญ ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตของทั้ง 4 นักดนตรี กับ 1 นักมวย ก็ว่าได้

สำหรับ The Beatles ในช่วงเวลาดังกล่าวพวกเขาได้ออกอัลบั้มมาแล้ว 2 ชุด นั่นก็คือ Please Please Me (1963) และ With the Beatles (1963) ซึ่งแน่นอนว่าทั้ง 2 อัลบั้มประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย ผลักดันให้คณะดนตรีสี่เต่าทองกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ในชั่วข้ามคืน อย่างไรก็ตามต้องขอมีหมายเหตุเล็กๆ ของคำว่าซูเปอร์สตาร์เอาไว้ เพราะถึงแม้ในแผ่นดินอังกฤษพวกเขาอาจจะเป็นชายสี่คนที่ฮอตที่สุด มีชื่อเสียงที่สุด แต่สำหรับในแผ่นดินอเมริกาเรียกได้ว่าพวกเขาแทบจะเป็น “โนบอดี้” เป็นวงดนตรีที่มีคนรู้จักเพียงกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น

 1

ปฏิเสธไม่ได้ว่าสหรัฐอเมริกาคือตลาดดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถ้าสามารถยึดครองอเมริกาได้ก็เท่ากับยึดครองโลกดนตรีได้ ดังนั้นในปี 1964 The Beatles จึงลัดฟ้าจากเมืองลิเวอร์พูลสู่แผ่นดินลุงแซมพร้อมกับแผนการโปรโมตและทัวร์คอนเสิร์ตครั้งแรกในประเทศแห่งนี้ 

The Beatles มีวางแผนไว้ว่าจะอยู่ในอเมริกาทั้งหมด 11 วัน โดยในช่วงแรกของตาราง พวกเขาได้ไปออกรายการ Late Show ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในยุคนั้นอย่าง The Ed Sullivan Show และทั้ง 4 หนุ่มก็สามารถสร้างปรากฎการณ์ได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นบทเพลงที่ใช้แสดงในรายการ รวมถึงเสน่ห์อันล้นเหลือ ถึงขั้นที่ว่า Rolling Stone นิตยสารวงการดนตรีชื่อดังได้ให้คำนิยามการไปออกรายการ The Ed Sullivan Show ของ The Beatles ในครั้งนั้นไว้ว่า

“การปรากฏตัวของ The Beatles ใน The Ed Sullivan Show คือหนึ่งในหมุดหมายสำคัญของประวัติศาสตร์ดนตรี ไม่ต่างอะไรจากเทศกาลดนตรี Woodstock หรือ คอนเสิร์ต Live Aid”

 2

หลังจากสร้างประวัติศาสตร์ใน The Ed Sullivan Show เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภารกิจต่อไปของ The Beatles คือการทัวร์คอนเสิร์ตตามหัวเมืองต่างๆ อย่างไรก็ตามเพื่อโปรโมตชื่อเสียงในประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขายังมีโปรแกรมเล็กๆ ที่ต้องทำ นั่นคือ “การถ่ายรูปร่วมกับนักมวยระดับแชมเปี้ยน”

ตัดภาพมาที่ มูฮัมหมัด อาลี ที่ก็กำลังจดจ่ออยู่กับภารกิจสำคัญในชีวิตไม่ต่างกัน โดยในขณะนั้น อาลี ที่ยังใช้ชื่อว่า แคสเซียส มาร์เซลลัส เคลย์ จูเนียร์ (Cassius Marcellus Clay Jr.) คือนักมวยดาวโรจน์ที่น่าจับตามอง ที่มาพร้อมกับสถิติชกชนะ 19 ไฟต์รวด ยังไร้พ่าย แต่ในแง่ของชื่อเสียงถือว่าไม่ใช่ขั้นซูเปอร์สตาร์ โดยอีกไม่กี่วันข้างหน้าเขาต้องขึ้นชกกับ ซอนนี ลิสตัน (Sonny Liston) เพื่อชิงเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวท 3 สถาบัน และมันคือการชกชิงแชมป์โลกครั้งแรกของ อาลี

ในตอนนั้นทั่วทั้งโลกต่างมั่นใจว่าผู้ชนะในไฟต์นี้ต้องเป็นเจ้าของเข็มขัดคนเก่าอย่าง ลิสตัน อย่างแน่นอน การันตีด้วยอัตราต่อรองที่ไม่มีบ่อนไหนเปิดออกมาต่ำกว่า 7-1 (แทง 1 ได้ 7 ไม่รวมทุน) ดังนั้น อาลี จึงต้องฝึกซ้อมอย่างจริงจังเข้มงวด เพื่อลบคำสบประมาทนี้ให้จงได้ อย่างไรก็ตามในขณะที่เหลือเวลาอีกไม่ถึงสัปดาห์ก่อนที่ไฟต์ชี้ชะตาจะมาถึง อาลีก็จำเป็นต้องหยุดฝึกซ้อมช่วงคราว เพื่อไปพบกับ “วงดนตรีวงหนึ่งจากประเทศอังกฤษ”

น้องสาวตัวเล็กกับพี่ชายตัวโต

18 กุมภาพันธ์ ปี 1964
ไมอามี่ บีช รัฐฟลอริดา

ท่ามกลางแสงแดดอุ่นๆ ที่สาดกระทบส่องประกายกับเม็ดทรายบนชายหาด ชายหนุ่ม 4 คนกำลังรู้สึกหงุดหงิดหัวเสียอยู่ในรถลิมูซีนสุดหรูที่กำลังมุ่งหน้าไปยัง 5th Street Gym ในย่าน ไมอามี่ บีช จุดหมายปลายทางในวันนี้เพื่อถ่ายรูปกับนักมวยรุ่นเฮฟวี่เวทคนหนึ่ง

สาเหตุที่พวกเขาหงุดหงิดก็เพราะว่า ในตอนแรกพวกเขาต้องการถ่ายรูปกับ ซอนนี ลิสตัน นักมวยแชมป์โลกเฮฟวี่เวทชื่อดัง อีกทั้งยังถือเป็นนักมวยขวัญใจของพวกเขาอีกด้วย (ถ้าไม่เชื่อลองหารูปหน้าปกอัลบั้ม Sgt. Pepper's Lonely Hearts Club Band มาแล้วสังเกตรายละเอียดให้ดี) แต่พวกเขากลับโดนปฏิเสธอย่างไม่ใยดี นั่นก็เพราะ ลิสตัน ไม่ต้องการให้อะไรมารบกวนสมาธิรวมถึงการซ้อมของเขาในช่วงเวลาก่อนถึงไฟต์สำคัญที่จะมีขึ้นในอีก 7 วันข้างหน้า ผลลัพธ์คือ 4 หนุ่ม The Beatles ต้องระเห็จมาถ่ายรูปกับคู่ต่อสู้ของ ลิสตัน ที่ชื่อ แคสเซียส เคลย์ แทน

 3

เมื่อมาถึง 5th Street Gym พวกเขากลับไม่เจอตัว อาลี นั่นยิ่งทำให้อารมณ์ของทั้งสี่หนุ่มเดือดดาลขึ้นไปอีก

“พวกเขาเป็นเด็กหนุ่มตัวเล็กๆ สี่คน ผมยาวสลวย มาพร้อมกับแจ็คเก็ตคาร์นาน่าสีขาว”

“เมื่อรู้ว่า เคลย์ ยังมาไม่ถึง พวกเขาก็แสดงท่าทีไม่พอใจ ถึงขั้นที่สบถด่าออกมาเลยทีเดียว แต่ก่อนที่พวกเขาจะขอตัวกลับ ก็โดนทีมงานของเคลย์ขอร้องแกมบังคับให้อยู่รอ โดยพวกเขาต้องไปนั่งรอในห้องแต่งตัวแคบๆ ผมก็ไปนั่งกับพวกเขาด้วย ระหว่างรอทั้ง 4 คนก็พูดกับผมอย่างสนุกปากว่า ‘มาทายกันดีกว่าว่า เคลย์ จะโดน ลิสตัน น็อคในยกไหน’” 

“หลังจากรออยู่ประมาณ 15-20 นาที เคลย์ ก็ปรากฏตัวขึ้น” โรเบิร์ต ลิปไซต์ (Robert Lipsyte)  นักข่าวจาก The New York Times ที่ถูกส่งตัวมาทำข่าวในวันนั้นเผยกับ Rolling Stone

ลิปไซต์ ยังเล่าต่อว่าเขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมอารมณ์หงุดหงิดของสมาชิกวง The Beatles ถึงพลันหายไปโดยสิ้นเชิงเมื่อเจอกับ มูฮัมหมัด อาลี ถ้าไม่เพราะกลัวจะโดน อาลี อัด ก็คงเป็นเพราะเสน่ห์ของ อาลี ที่สะกดพวกเขาได้อยู่หมัด

 4

“สวัสดี The Beatles เรามาเริ่มงานกันเถอะ มาทำโชว์ไปด้วยกัน พวกเราจะรวยไปด้วยกัน!” นี่คือประโยคที่ อาลี ทักทาย The Beatles ซึ่งสามารถเรียกเสียงหัวเราะได้ไม่น้อย พร้อมทำลายกำแพงน้ำแข็งที่มีจนหมดสิ้น เพราะหลังจากประโยคนี้ทั้งสองฝ่ายก็เข้าหากันอย่างเป็นมิตร ก่อนที่จะเริ่มถ่ายภาพ

ช่างภาพผู้ทำหน้าที่กดชัตเตอร์ในครั้งนี้คือ แฮร์รี เบนสัน (Harry Benson) ที่ต่อมาเขาได้กลายเป็นหนึ่งในช่างภาพดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล และหนึ่งในผลงานชิ้นเอกของเขาก็คือภาพที่เขาจะถ่ายในวันนี้นี่แหละ 

เบนสัน ได้พา 4 นักดนตรีและ 1 นักมวยตระเวนไปทั่วโรงฝึก พร้อมบอกให้พวกเขาออกแอ็กชั่นท่าทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นท่า The Beatles โดน อาลี ต่อยจนตัวเอียงเป็นโดมิโน่ หรือให้ The Beatles นอนกองอยู่บนพื้นสังเวียน ราวกับโดนหมัดของ อาลี ซัดลงไป

“พวกคุณก็ไม่ได้โง่อย่างที่เห็นนะ” อาลีกล่าวติดตลกกับทั้งสี่หนุ่มในช่วงหนึ่งของการถ่ายภาพ

“ใช่พวกเราไม่ได้โง่ แต่คุณน่ะดูโง่มากเลย” จอห์น เลนน่อน (John Lennon) สวนกลับ ก่อนที่จะตามมาด้วยเสียงหัวเราะร่าของทุกคน รวมถึงตัว อาลี เองด้วย

 5

ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ต้นกล้าแห่งมิตรภาพก็ได้งอกเงยขึ้น ราชา (ในอนาคต) ของทั้ง 2 วงการได้พูดคุยกันอย่างสนุกสนานกันอีกหลายเรื่อง จนกระทั่งการถ่ายภาพเสร็จสิ้นลง ก็ถึงเวลาที่ต้องแยกย้าย 

“ผมชอบคุณนะ เคลย์ แต่ขอโทษด้วยที่ผมต้องพนันเงินทั้งหมดลงไปกับ ลิสตัน” ริงโก สตาร์ (Ringo Starr) กล่าวทิ้งท้ายก่อนที่ The Beatles จะออกจาก 5th Street Gym ไป

เมื่อ The Beatles ลับสายตาไปแล้ว อาลี ถึงกับต้องถาม โรเบิร์ต ลิปไซต์ ว่า “ช่วยบอกผมหน่อยว่า ‘น้องสาวตัวเล็ก’ เหล่านี้เป็นใครกัน” ใช่ ... ในตอนแรก อาลี ไม่ได้สนใจ The Beatles หรอก ในสายตาของเขาพวกนี้ก็แค่เด็กหนุ่มร่างเล็กเจ้าสำอาง ที่เขายอมมาถ่ายด้วยก็เป็นเหตุผลในเชิงธุรกิจล้วนๆ แต่หลังจากได้ถ่ายรูปและพูดคุยกัน ความคิดของ อาลี ก็เปลี่ยนไป เขายอมรับว่า 4 หนุ่มเจ้าสำอางจากประเทศอังกฤษพวกนี้น่าสนใจไม่น้อย

หลังจากวันนั้น

ทุกคนคงรู้ดีอยู่แล้วว่าหลังจากวันนั้น ต่างฝ่ายต่างก็แยกย้ายไปสร้างตำนานในเส้นทางของตัวเอง โดย The Beatles หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ 11 วันในแผ่นดินอเมริกา พวกเขาก็บินกลับประเทศอังกฤษบ้านเกิด ก่อนที่จะปล่อยอัลบั้มออกมาอีก 11 อัลบั้ม และตัดสินใจยุบวงไปในปี 1970 แต่เท่านั้นก็เพียงพอแล้วที่จะสลักชื่อ The Beatles ให้คงอยู่ในโลกดนตรีไปตลอดกาล 

ส่วน อาลี เขาสามารถช็อกโลก เอาชนะน็อก ลิสตัน และคว้าเข็มขัดแชมป์โลกมาครองได้สำเร็จ เป็นจุดเริ่มต้นให้ชื่อของ มูฮัมหมัด อาลี กลายเป็นนักมวยระดับซูเปอร์สตาร์ ก่อนจะสร้างตำนานประดับวงการมวยไปอีกยาวนาน

โดยในตอนที่ อาลี น็อก ลิสตัน ได้ เขาตะโกนออกมาว่า

“I’m the greatest (ฉันยิ่งใหญ่ที่สุด)” 

 6

และในปี 1973 หรือ 9 ปีต่อมา ริงโก สตาร์ อดีตสมาชิก The Beatles ก็ได้ปล่อยเพลงที่ชื่อว่า I’m the greatest ที่แต่งโดย จอห์น เลนน่อน อดีตเพื่อนร่วมวงออกมา ถึงแม้ในเนื้อเพลงจะไม่ได้กล่าวถึง อาลี แต่ก็เชื่อได้ว่า เลนน่อน ได้รับแรงบันดาลใจส่วนหนึ่งมาจากเรื่องราวของ อาลี

มูฮัมหมัด อาลี เสียชีวิตลงในวันที่ 3 มิถุนายน ปี 2016 ซึ่งทันทีที่รู้ข่าว ทั้ง พอล แม็กคาร์ตนีย์ (Paul McCartney) และ ริงโก สตาร์ 2 สมาชิกของ The Beatles ที่ยังมีชีวิตอยู่ หลังจากที่ จอห์น เลนนอน เสียชีวิตเมื่อปี 1980 และ จอร์จ แฮร์ริสัน (George Harrison) เสียชีวิตในปี 2001 ต่างก็ออกมาเขียนข้อความรำลึกถึงสุดยอดนักมวยผู้นี้ผ่านทางทวิตเตอร์

“ขอให้พระเจ้าคุ้มครอง มูฮัมหมัด อาลี ด้วยสันติภาพและความรัก” ริงโก้ สตาร์

“ผมรักชายคนนี้ เขายอดเยี่ยม นับตั้งแต่วันแรกที่เราพบกันที่ไมอามี่ และอีกหลายครั้งที่ผมได้พบกับเขาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นอกเหนือจากการเป็นนักมวยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้วเขายังเป็นคนที่สุภาพอ่อนโยนมีอารมณ์ขัน โลกได้สูญเสียชายผู้ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริงไปแล้ว” พอล แม็กคาร์ตนีย์

 7

นอกจากมิตรภาพที่สวยงามแล้ว การถ่ายรูปร่วมกันในวันนั้นยังเป็นการเริ่มต้นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกันระหว่าง เมืองหลุยส์วิลล์ รัฐเคนทักกี้ บ้านเกิดของ มูฮัมหมัด อาลี กับเมืองลิเวอร์พูล บ้านเกิดของ The Beatles

เมื่อ คาร์ลี่ จอห์นสัน (Carly Johnson) และกลุ่มนักร้องจากเมืองหลุยส์วิลอีกหลายคนได้เดินทางไปเปิดการแสดงที่ Cavern Club และ Sound City สถานที่ซึ่งเปรียบเสมือนบ้านหลังแรกของวงสี่เต่าทองในตอนที่ยังไม่มีชื่อเสียง

ในทางกลับกันก็มีกลุ่มนักมวยจากเมืองลิเวอร์พูลได้เดินทางสู่เมืองหลุยส์วิลล์เพื่อเยี่ยมเยือน TKO Gym โรงฝึกประจำของ มูฮัมหมัด อาลี โดยมีจุดประสงค์เพื่อซึมซับอุดมคติ แสดงความเคารพ และสร้างแรงบันดาลใจ เพราะไม่ว่าใครก็สามารถเป็นผู้ยิ่งใหญ่ได้

นี่คือเรื่องราวทั้งหมดที่ซ่อนอยู่ภายใต้รูปถ่ายเพียงไม่กี่ใบ ที่ในวันนั้นทั้ง The Beatles และ อาลี เองก็คงไม่คาดคิดเหมือนกันว่ามันจะเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ถึงแม้วันนี้ทั้ง อาลี, จอร์จ แฮร์ริสัน, และ จอห์น เลนน่อน 2 จาก 4 สมาชิก The Beatles จะจากโลกนี้ไปแล้ว แต่เรื่องราวสุดคลาสสิคนี้จะจารึกไว้ในภาพถ่ายไปตลอดกาล ...

อัลบั้มภาพ 7 ภาพ

อัลบั้มภาพ 7 ภาพ ของ Once Upon a Time in Miami : เมื่อ 2 ราชา "The Beatles" และ "อาลี" โคจรมาพบกัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook