กังฟู ปะทะ MMA : สงคราม 2 ศาสตร์ต่อสู้ที่ตีแผ่ความเชื่อและความจริงในประเทศจีน
“กังฟู” ศิลปะการต่อสู้ของประเทศจีน ที่มีการพัฒนากว่ายาวนานหลายพันปี ด้วยกระบวนท่าที่งดงาม และเรื่องราวที่น่าตื่นตาตื่นใจ ผู้ใดหากสำเร็จวิชากังฟู ย่อมครองความเป็นหนึ่งในฐานะเจ้ายุทธภพอย่างไม่ต้องสงสัย
ชีวิตจริงไม่ต่างจากนิยาย ชายผู้หนึ่งเอ่ยปากดูหมิ่นวิชากังฟู เขาไม่ใช่วายร้ายจากสำนักมาร แต่เป็นอาจารย์สอนการต่อสู้รูปแบบ MMA หรือ (Mixed Martial arts) ศิลปะป้องกันตัวจากโลกตะวันตก จนเกิดการปะทะของศาสตร์ต่อสู้สองแขนง
สงครามที่เกิดขึ้นระหว่าง กังฟู และ MMA ไม่ได้น่าสนใจแค่ผลลัพธ์ที่บ่งบอกว่าใครชนะ แต่ยังสะท้อนถึงความเชื่อและความจริงที่เกิดขึ้นในประเทศจีน ที่ก้าวไปไกลกว่าเรื่องราวของศิลปะป้องกันตัว
MMA ปะทะ กังฟู
ก่อนเข้าเรื่องความบาดหมางที่เกิดขึ้นระหว่าง MMA และ กังฟู เราขอพาทุกท่านรู้จักบุคคลผู้สุมไฟแค้น ระหว่างสองศิลปะป้องกันตัวในประเทศจีนเสียก่อน
Photo : sg.style.yahoo.com
สวี เสี่ยวตง เจ้าของฉายา “ไอ้หมาบ้า” คือ ผู้เริ่มต้นสงคราม เขาเป็นสุดยอดนัก MMA ชาวจีนที่ได้รับการนับถือในฐานะ ผู้ริเริ่มการต่อสู้แขนงนี้ในแดนมังกร สวี เสี่ยวตง เริ่มต้นฝึก MMA และ มวยไทย ในปี 2001 หลังจากนั้นไม่นาน เขาสร้างยิมของตัวเองในกรุงปักกิ่ง และรันวงการอย่างต่อเนื่อง
“ผมเริ่มต้นเผยแพร่ MMA ในประเทศจีนด้วยตัวเอง ตั้งแต่ปี 2004 ไม่มีใครรู้จัก MMA ในตอนนั้น นอกจากผม” สวี เสี่ยวตง เปิดเผยเรื่องราวของเขา
นับตั้งแต่ สวี เสี่ยวตง เปิดยิมของตัวเองขึ้นมา เขาพาตัวเองออกห่างจากสังเวียน เพื่ออุทิศตนในฐานะอาจารย์ จนกระทั่งรับชมรายกังฟูในโทรทัศน์ช่อง CCTV-4 สวี เสี่ยวตง จึงหวนคืนสู้การต่อสู้อีกครั้ง ด้วยจุดประสงค์เดียวเท่านั้น “เปิดโปงความจอมปลอมของกังฟู”
“ผมไม่เคยคิดว่ากังฟู คือศิลปะป้องกันตัว มันเป็นแค่การออกกำลังกายสำหรับคนแก่” สวี เสี่ยวตง โจมตีกังฟูอย่างเผ็ดร้อน
“ผู้คนมากมายในจีนถูกล้างสมองโดยปรมาจารย์กังฟูจอมปลอม ผมพยายามทำให้พวกเขาตาสว่าง และทำให้พวกเขารู้ว่า วัฒนธรรมกังฟูที่แท้จริงเป็นอย่างไร”
ปรมาจารย์กังฟูจอมปลอมที่ สวี เสี่ยวตง กล่าว คือ เซียนวิชาไทเก๊ก ชื่อว่า เว่ย เหล่ย นักสู้รายนี้ปรากฏตัวในรายการพิเศษชื่อว่า Real Kung Fu เขาต่อสู้กับนักสู้กังฟูอีกรายที่เป็นชาวต่างชาติ ผลปรากฏว่า เว่ย เหล่ย คว้าชัยชนะอย่างง่ายดาย แบบไม่เสียเชิงอาจารย์กังฟู
Photo : www.sixthtone.com
เท่านั้นยังไม่พอ เว่ย เหล่ย ยังแสดงพลังลมปราณ สามารถควบคุมนกพิราบไว้บนฝ่ามือ และบดเนื้อแตงโมจนแหลกละเอียด แม้ไม่ได้ทำลายเปลือกให้บอบช้ำ ราวกับฉากเปิดตัวยอดนักสู้ในภาพยนตร์กำลังภายในสักเรื่อง
ทันทีที่ สวี เสี่ยวตง ดูรายการจบ เขาเริ่มต้นภารกิจเปิดโปงความจอมปลอมของกังฟู สวี เสี่ยวตง อ้างว่า วิชากังฟูและพลังพิเศษที่เห็นในคือการทีวีคือการจัดฉาก นักสู้ฝรั่งที่ต่อสู้กับ เว่ย เหล่ย คือนักแสดงที่จ้างมาสวมบทบาท
ส่วนเหตุผลที่นกพิราบไม่ยอมบินไปไหน เป็นเพราะเจ้านกตัวนั้นคือสัตว์เลี้ยงของ เว่ย เหล่ย เขาควบคุมมันด้วยความเชื่อง ไม่ใช่พลังกังฟู
คำกล่าวของ สวี เสี่ยวตง คือการดูหมิ่น ปรมาจารย์กังฟูมีหรือจะอยู่เฉย เว่ย เหล่ย ตอบกลับด้วยการโจมตี MMA เป็นศิลปะป้องกันตัวไร้ค่า และเขาสามารถแก้ท่า rear naked choke ด้วยมือเพียงข้างเดียว
เว่ย เหล่ย ยืนยันว่ามันจะคือเรื่องง่ายสำหรับเขา หากเผชิญหน้ากับท่าดังกล่าวในการต่อสู้จริง
Photo : thethao247.vn
“ตอนผมได้ยินเขาพูดแบบนั้น (แก้ท่า rear naked choke) สังคม MMA ของเราต่างพากันประหลาดใจ เพราะ rear naked choke คือท่าที่ไม่สามารถแก้ไขได้”
“เพราะงั้น ผมเลยตอบกลับไปว่า ถ้าคุณคิดว่ากังฟูสุดยอดนัก เราก็มาสู้กัน” สวี เสี่ยวตง เอ่ยคำท้า ที่จะเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล
ราคาของชัยชนะ
การต่อสู้ระหว่าง สวี เสี่ยวตง และ เว่ย เหล่ย ถูกกำหนดขึ้นในวันที่ 27 เมษายน 2017 ปรมาจารย์กังฟูถือไพ่เหนือกว่า เขามีอำนาจกำหนดสถานที่ในการชก สวี เสี่ยวตง ต้องเดินทางไกลเกือบ 2,000 กิโลเมตร จากกรุงปักกิ่งสู่เฉิงตู เมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องของกังฟู
Photo : www.straitstimes.com
ความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง ไม่ได้บั่นทอนความมั่นใจในการต่อสู้ของ สวี เสี่ยวตง เขาปรากฏตัวด้วยกางเกงกีฬาขาสั้น และรองเท้าสีชมพูสดใส สวนทางกับ เว่ย เหล่ย ผู้เป็นเข้ามา ที่สวมชุดนักสู้กังฟูตามประเพณี เครื่องแต่งกายหาได้บ่งบอกความสามารถ ทันทีที่เสียงระฆังดัง ผลลัพธ์ปรากฏออกมาทันที
สวี เสี่ยวตง เดินเกมรุกหนัก เขารัวหมัดใส่ เว่ย เหล่ย ไม่ยั้ง เพียง 20 วินาที โดยไม่ต้องใช้ท่าล็อกใด ปรมาจารย์กังฟูร่วงลงไปกองกับพื้น การต่อสู้เป็นอันยุติ MMA เป็นฝ่ายชนะ
Photo : finance.ifeng.com
ชีวิตของ สวี เสี่ยวตง เปลี่ยนไปในพริบตาและไม่ใช่ในทางที่ดี นักสู้กังฟูนับร้อยเดือดดาล พากันส่งคำท้าขอแก้มือกับ สวี เสี่ยวตง แต่ที่แย่ไปกว่านั้น เขาถูกโจมตีโดยชาวเน็ตว่า จงใจดูหมิ่นวัฒนธรรมเก่าแก่ของประเทศ คลิปการต่อสู้ของ สวี เสี่ยวตง ถูกลบจากอินเตอร์เน็ต เช่นเดียวกับบัญชีใช้งานในสังคมออนไลน์ของเขา
ไม่มีใครลบบัญชีผู้ใช้ในโลกออนไลน์ของคุณได้ หากไม่ใช่ผู้มีอำนาจ ใช่แล้ว สวี เสี่ยวตง กำลังถูกเพ่งเล็งจากรัฐบาลจีน ในข้อหาดูหมิ่นวัฒนธรรมอันดีงาม
Photo : finance.ifeng.com
เขาถูกสั่งให้ขอโทษอย่างเป็นทางการ และปรับเงินอีกว่า 1 ล้านบาท สวี เสี่ยวตง ปฏิเสธ ส่งผลให้ถูกสั่งห้ามเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูง หรือ เครื่องบิน เพื่อยุติไม่ให้เขาเดินทางไปต่อสู้ที่ไหนได้อีก
ความพยายามของรัฐบาลจีนไม่เป็นผล สวี เสี่ยวตง เดินทางยาวนาน 36 ชั่วโมง เพื่อต่อสู้กับปรมาจารย์หวิงชุน ที่เขตปกครองตนเองซินเจียง ชัยชนะยังคงตกเป็นของฝั่ง MMA สวี เสี่ยวตง ไม่ย่อท้อต่อภารกิจ เขาเอาชนะนักสู้กังฟูรวม 17 คน จนกระทั่งไม่มีใครกล้าเอ่ยคำท้า
สวี เสี่ยวตง และ MMA ฝ่ายชนะ แต่ราคาที่ต้องจ่ายตามมาแสนสาหัส ชื่อของเขาหายไปจากอินเตอร์เน็ตในประเทศจีน กลายเป็นบุคคลที่มีคะแนนทางสังคมระดับ D ที่นอกจากจะห้ามขึ้นเครื่องบินและรถไฟความเร็วสูงแล้ว สวี เสี่ยวตง ยังถูกสั่งห้ามไม่ให้พักในโรงแรม หรือซื้อและเช่าที่อยู่อาศัย
โชคดีที่ สวี เสี่ยวตง ไม่มีลูก เพราะหากเขามี ลูกของ สวี เสี่ยวตง จะถูกจำกัดสิทธิ์ทางการศึกษา ด้วยเช่นกัน
เพียงแค่ความต้องการที่จะเปิดโปงภาพลวงของกังฟูในโทรทัศน์ เหตุใดชายคนหนึ่งจึงต้องเสียอะไรมากขนาดนี้ ? เรามีคำตอบให้คุณในบทถัดไป..
ความจริงและความเชื่อ
เรื่องราวทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น ผู้อ่านคงสัมผัสได้ถึงความพ่ายแพ้อันย่อยยับของกังฟู แต่หากทบทวนดูให้ดี มรดกและประวัติศาสตร์ของกังฟูนั้นยิ่งใหญ่ จนกลายเป็นอำนาจที่ยิ่งใหญ่ มากกว่าจะตัดสินผลแพ้ชนะได้ในสังเวียนการต่อสู้
Photo : www.newschinamag.com
กังฟู คือ ศาสตร์ที่มีรากฐานยาวนานกว่า 4,000 ปี ก่อนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกจากตำนานวัดเส้าหลิน เรื่องราวของพระที่ต่อสู้เพื่อปกป้องความยุติธรรมในราชวงศ์ชิง ถูกเล่าต่อกันมานับไม่ถ้วน เรื่องราวผู้กล้าแห่งวัดเส้าหลินไม่มีที่สิ้นสุด แม้กระทั่งช่วงเวลาที่ถูกทำลายล้างในช่วงเวลาของราชวงศ์แมนจู
ปัจจุบัน วัดเส้าหลินยังคงอยู่ และยังคงรับพระหน้าใหม่เพื่อเข้ามาฝึกวิชากังฟู สิ่งที่เพิ่มเติม คือ การเปิดรับนักท่องเที่ยว วัดเส้าหลินคือจุดหมายที่คนทั่วโลกมุ่งหน้าเมื่อมาเยือนแดนมังกร วัฒนธรรมจีนแพร่กระจายไปทั่วโลกจากวัดเส้าหลิน สื่อท้องถิ่นรายงานว่า มีโรงเรียนเส้าหลินกระจายอยู่ 70 ประเทศทั่วโลก
มากกว่านั้น ผู้คนยังติดภาพความแข็งแกร่งของวิชากังฟู จากผลงานของนักแสดงชื่อดัง บรู๊ซ ลี ที่วางรากฐานจนแข็งแกร่งในยุค 70’s ก่อนถูกต่อยอดด้วย เฉินหลง (Jackie Chan) และ เจ็ต ลี (Jet Li) กังฟูคือความภาคภูมิใจของชาวจีน แต่มากกว่านั้น มันคือธุรกิจ
Photo : perthmint.com.au
NetEase บริษัทยักษ์ใหญ่ในจีน รายงานว่า ธุรกิจกังฟู มีมูลค่าอยู่ในหลักพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไล่ตั้งแต่ ภาพยนตร์, ทีวี, การศึกษา, การท่องเที่ยว และ ผลิตภัณฑ์ มีการยืนยันว่ามีนักเรียนกว่า 2 ล้านคนในโรงเรียน 12,000 แห่ง มันคือศิลปะป้องกันตัวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก
ถึงจะสร้างมูลค่ามากแค่ไหน ความจริงที่ต้องยอมรับคือ กังฟูไม่ใช่ “กีฬา” ชิ ยงซิน (Shi Yongxin) เจ้าอาวาสคนปัจจุบันของวัดเส้าหลิน ยอมรับว่าวิชากังฟูไม่อาจต่อสู้กับ MMA เนื่องจากกังฟูคือการฝึกจิตวิญญาณมากกว่าสภาพร่างกาย และกังฟูไม่ใช่การฝึกเพื่อสร้างพลังพิเศษ แต่เป็นการสร้างความสุขภายในจิตใจ
โชคร้าย เจตนารมณ์ที่แท้จริงของวัดเส้าหลินถูกบิดเบือน มีผู้คนมากมายอ้างชื่อของวัดเส้าหลินและวิชากังฟูเพื่อหารายได้ หลายคนมาฝึกและออกไปทั้งที่ยังไม่ได้การยอมรับเป็นพระ กลับสามารถเปิดสำนักเส้าหลินของตัวเอง เป็นเหตุให้เกิดศาสตร์ “กังฟูปลอม” ที่แพร่ระบาดไปทั่ว
Photo : www.chinadaily.com.cn
ชัยชนะของ MMA เหนือกังฟู เปิดเผยความจริงดังกล่าว แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบใจ โดยเฉพาะรัฐบาลจีน ที่เพิ่งประสบความสำเร็จนำธงชาติไปปักบนกำแพงวัดเส้าหลินเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ก่อตั้งวัดในค.ศ. 495
รัฐบาลจีน ประสบความสำเร็จในการสร้างภาพความแข็งแกร่งของวิชากังฟู ไม่ใช่แค่ประชาชนทั่วไปที่เชื่อว่าปรมาจารย์กังฟูมีพลังเหนือธรรมชาติ แต่นักสู้ MMA จำนวนมาก เชื่อว่าตัวเองไม่มีความสามารถมากพอจะต่อสู้กับผู้มีวิชา ซึ่งตรงข้ามกับความจริงโดยสิ้นเชิง
พรรคคอมมิวนิสต์จีน มีนโยบายชาตินิยมที่เข้มข้นและสุดโต่ง พวกเขาใช้กังฟูการแสดงภาพนักสู้ผู้รักชาติ และวัฒนธรรมที่แข็งแกร่งของชาวจีน แม้ปัจจุบัน วัฒนธรรมกังฟู จะดึงดูดเม็ดเงินมหาศาลจากนานาชาติ แต่ชาวจีนส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าศาสตร์การต่อสู้นี้ คือเกียรติและศักดิศรีที่ควรสงวนให้ชาวจีนเพียงผู้เดียว
Photo : chinaculture.org
“ทุกคนในจีนคิดว่าวัดเส้าหลินมีความลับบางอย่าง ที่ไม่อยากแบ่งปันแก่ผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แก่ชาวต่างชาติผู้เป็นปีศาจ” มาร์ตา เนสโควิช นักศึกษาชาวเซอร์เบียที่ฝึกวิชาอยู่กับวัดเส้าหลินกล่าว
ไม่ว่าคำกล่าวข้างต้นจะจริงหรือไม่ ลัทธิชาตินิยมแฝงเข้าไปเป็นหนึ่งของวิชากังฟูเป็นที่เรียบร้อย สิ่งที่ สวี เสี่ยวตง ต้องจ่ายจึงไม่ใช่เพราะเขาใช้การต่อสู้ MMA ล้มกังฟู แต่เพราะเขากำลังทำลายคุณค่าของวัฒนธรรม ที่รัฐบาลจีนกำลังปลูกฝัง
Photo : GhiaCooley
กังฟู ไม่ใช่กีฬาและไม่มีวันชนะ MMA แต่ศาสตร์เก่าแก่นี้ ถูกใช้เป็นเครื่องมือหารายได้และเผยแพร่ลัทธิชาตินิยม สิ่งหนึ่งที่น่าเศร้าจากเรื่องราวนี้ คือไม่มีใครกำลังปกป้องเจตนารมณ์ที่แท้จริงของกังฟู
ย้อนแย้งอย่างน่าประหลาด บุคคลที่ลงมือปกป้องกังฟูมากที่สุด อาจเป็นคนที่ถูกชาวจีน มองว่าเป็นวายร้าย และนำศิลปะตะวันตกเข้ามารุกรานชาติ อย่าง สวี เสี่ยวตง
“ชู กำลังทำในสิ่งที่ถูกต้อง เขาต่อสู้กับกังฟูปลอม” ชิ ยงซิน เจ้าอาวาสวัดเส้าหลินทิ้งคำพูดเตือนใจ ที่ทำให้ทุกคนต้องขบคิด