ทีมยอดเยี่ยมแห่งปี โดยไทยลีกออนไลน์

เริ่มกันที่ระบบการเล่นที่เหมาะกับชุดนี้คงจะเป็น 4-3-3 โดยผู้รักษาประตู ขอยกให้กับ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน จากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อีกหนึ่งสมัยเพราะจริงๆ ปีนี้ต้องยอมรับว่า "สายฟ้า" มีช่วงหลุดฟอร์มพอสมควร แต่ "ซูเปอร์แชมป์" ก็ยังอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยมเสมอมา โดยมีช็อตเด็ดใารป้อกันประตูช่วยทีมไว้ได้หลายครั้ง และที่สำคัญยังเป็นนายด่านที่เสียประตูน้อยที่สุดในลีกอีกด้วย โดยเสียเพียงแค่ 26 ประตูจากทั้งหมด 38 นัด

กองหลัง 4 คน เริ่มจากแบ็คขวา "ต้นขวาผ่านตลอด" นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ที่ปีนี้ผลงานกับ เทโรฯ ไม่ธรรมดาจริง ด้วยผลงานยิง 2 ประตู บวกกับการเล่นตลอดทั้งซีซั่นที่ไม่ตกหล่นเลยทั้งการลากเลื้อย,ความเร็ว และความมุ่งมั่น อีกทั้งยังโชว์ฟอร์มสุดสะเด่ากับ "ช้างศึกไทย" ในเอเชี่ยนเกมส์อีก ยิ่งทำให้ผลงานปีนี้ของแบ็กขวารายนี้เข้าวินมาแบบไร้คู่แข่งเลย แต่ปีหน้าเราจะได้เห็นเขามาในลุดใหม่ในสีเสื้อของ ปราสาทสายฟ้า , มาต่อกันที่แบ็กซ้ายคงต้องยกให้กับ ธีราธร บุญมาทัน วิงแบ็กร่างเล็กของทัพเซราะกราวอีก สมัย แม้ว่าในปีนี้จะเล่นในทั้งวิงแบ็กและมิดฟิลดืตัวกลาง แต่ "เจ้าอุ้ม" ก็ยังยอดเยี่ยมเสมอ ถือเป็นอีหนึ่งคีย์แมนสำคัญกับการป้องกันแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นลูกครอสจากริมเส้น ลูกตั้งเตะต่างๆ  รวมไปถึงการยิงฟรีคิก ด้วยสถิติปีนี้ยิงไป 2 ประตุกับอีก 10 แอซซิสต์

คู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟในปีนี้ขอยกให้กับ 2 ปราการหลังต่างชาติ รายแรกคือ แอนเดอร์สัน ดอส ซานโตส แนวรับจาก ชลบุรี เอฟซี ที่ เกือบจะได้ย้ายทีมแล้วในช่วงต้นซีซั่น แต่ด้วยเหตุผลบางประการทำให้เจ้าตัวได้อยู่เล่นให้กับ "ฉลามชล" ต่อและก็ไม่ทำให้แฟนๆ ต้องผิดหวังเมื่อจัดการซัลโวไป 7 ประตูจากตำแหน่งกองหลังและยังโดดเด่นในเกมรับโดยเฉพาะเลกที่ 2 ที่ช่วยให้ทีม ชลบุรี  เอฟซี ได้ลุ้นแชมป์ไทยลีกในรอบ 7 ปีแล้วแต่สุดท้ายก็ไปไม่ถึงฝั่งฝัน ปิดท้ายที่ "มิสเตอร์ไดกิ" ไดกิ อิวามาซะ กองหลังพันธ์ดุจากญี่ปุ่นที่เข้ามาเติมเต็มแนวรับ เทโรฯ ได้แบบหมดจดเพราะนอกจากฟอร์มที่คงเส้นคงวาแล้ว ลูกกลางอากาศที่แข็งแกร่งสมฉายา "ตำนานเจลีก" เพราะกองหน้าไหนๆ ก็กินเฮียแกยากมาก และประจวบเหมาะกับปีนี้ที่ยิงได้ถึง 5 ประตูกับปีแรกและปีเดียวในไทยลีก

กองกลาง 3 คน เริ่มกันที่คนนี้ก่อนเลย บียอร์น ลินเดมันน์  มิดฟิลด์ตัวเก่งของ สุพรรณบุรี เอฟซี สำหรับปีนี้  "คิงส์บียอร์น" ยังคงมีพิษสงเหมือนเดิมโดยเฉพาลูกนิ่งยังเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าตัว ได้เสมอมา แม้ช่วงต้นฤดูกาลฟอร์มไม่แรงเท่าไหร่นัก แต่สุดท้ายสามารถทำได้ถึง 18 ประตู พร้อมพาทีม "ช้างศึกยุทธหัตถี" จบซีซั่นด้วยการรั้งอันดับ 6 ของตารางคะแนนจึงถือว่าปีนี้ยังเป็นปีที่ยอดเยี่ยมของ  "คิงส์บียอร์น" อีก 1 ปี แต่ปีหน้าต้องตามลุ้นต่อว่าจะยังอยู่กับทีมต่อหรือไม่ด้วย

คนที่สองเราขอยกให้กับ ดัสกร ทองเหลา กองกลางฮาร์ดแมนของ เอสซีจี เมืองทองฯ ปีนี้ต้องยอมรับว่าลูกบู๋, ลูกบุ๋น ของ "กันตันโก้" มาหมดเลยในปีนี้ และหากจะเทียบกันแล้วน่าจะเล่นดีพอๆ กับสมัยที่เจ้าตัวมาค้าแข้งกับ กิเลนผยอง ช่วงแรกๆ เลยก็ว่าได้ ดังนั้นจึงถือว่าได้ว่าเป็นกำลังสำคัญของทีมที่มักจะขาดไม่ได้จริงๆ และโดยสถิติในปีนี้ของ ดัสกร ค่อนข้างดีเลยไม่ว่าจะเป็นยิง 9 ประตู และส่งให้เพื่อนทำประตูอีก 9 ลูกเท่ากันพอดี

คนที่สาม จักรพันธ์ แก้วพรม กองกลางตัวเก่งของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เข้าวินมาเป็นรายสุดท้ายด้วยเหตผลง่ายๆ คือผลงานความสม่ำเสมอของ "เจ้าโน๊ต" ตลอดทั้งซีซั่นที่ผ่านมา เพราะปีนี้นอกจากเขาจะเล่นในตำแหน่งถนัดแล้ว ในยามที่ทีมประสบปัญหา จักรพันธ์ ยังขยับขึ้นมาเล่นแทนได้หมดเลย และที่สำคัญคือร่างกายของกอกงกลางรายนี้แทบจะไม่พลาดการลงสนามให้กับ ปราสาทสายฟ้า เลย ทำให้ปีนี้เป็นอีกหนึ่งปีที่ยอดเยี่ยมของมิดฟิดล์เบอร์ 10 รายนี้
 

กองหน้า 3 คน ประกอบไปด้วย "เฮเบอร์โกล"เฮเบอ์ตี้ เฟอร์นานเดซ แนวรุกสารพัดประโยชน์ชาวแซมบ้าแห่งค่ายราชันมังกร แทบ จะไม่ต้องบรรยายสรรพคุณให้ยาก เพราะดูจากสถิติการทะลวงตาข่ายทีมคู่แข่งไปทั้งหมด 26 ประตูในซีซั่นนี้ พร้อมทั้งทุบสถิติของ ธีรศิลป์ แดงดา และ เคลตัน ซิลวา ที่เคยทำไว้ 24 ประตู ในฤดูกาล 2012 กลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลขอลลีกสูงสุดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็น่าจะเพียงพอต่อการติดทีมยอดเยี่ยมในปีนี้

คนต่อมาได้แก่ ฆาเบียร์ ปาตินโญ หัวหอกตัวเก่งของปราสาทสายฟ้า ที่สามารถทำได้ดีทั้งจังหวะเข้าชาร์จ เล่นกับพื้น หรือลูกกลางอากาศ รวมไปถึงการเข้าทำประตูด้วยตนเอง ถือว่ากองหน้ารายนี้อันตรายมากๆ หากได้บอลใกรอบเขตโทษ โดยฤดูกาลนี้แม้จะได้ลงสนามไม่ต่อเนื่องแต่ก็ยังจบด้วยอันดับ 2 ของดาวซัลโวที่ยิงไปทั้งหมด 21 ประตู

ปิดท้ายกันที่ ติอาโก้ คุนญ่า กองหน้าชาวแซมบ้า จากทีม ชลบุรี เอฟซี ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกองหน้าที่มีความเร็วและแข็งแกร่ง และเป็นกองหน้าที่มีค่าเฉลี่ยการทำประตูเร็วที่สุด (1 ประตู ต่อการลงเล่น 101 นาที) ถึงแม้จะพาต้นสังกัดทำได้เพียงรองแชมป์ไทยลีก แต่เชื่อเลยว่าหาก คุนญ่า ไม่มีอาการบาดเจ็บรบกวนในฤดูกาลนี้ ที่เป็นเหตุให้เจ้าตัวหายต้องหน้าหายหน้าหายตาไปร่วม 3 เดือน จะเป็นอีกหนึ่งคนที่ถล่มประตูคู่แข่งแบบกระจุยกระจายแน่นอน โดยยอดรวมจำนวนประตูของดาวยิงปีนี้อยู่ที่ 20 ประตู

สำหรับหัวหน้าผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยม ในฤดูกาลนี้คงต้องยกให้กับ มาซาฮิโร วาดะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนของ ชลบุรี เอฟซี ที่เข้ามาทำงานปีแรก แม้ว่าผลงานในช่วงต้นซีซั่นนี้จะตะกุกตะกักนิดๆ หน่อยๆ หลายๆ อย่างยังไม่ค่อยลงตัว แต่หลังจากเริ่มเลกที่ 2 นายใหญ่ชาวญี่ปุ่นคนนี้ค่อยๆ ยกระดับฉลามชล จนมามีลุ้นแชมป์ไทยลีกในปีนี้ แม้ว่าจะจบลงด้วยตำแหน่ง "รองแชมป์" แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ "วาดะซัง" ถูกยกให้เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนที่น่าจับตามองอีก 1 คนของฟุตบอลไทย โดยหลังจาากนี้ ชลบุรี ยังจะมีโปรแกรมนัดชิงฯ ไทยคมเอฟเอคัพ กับ ชลบุรี เอฟซี ต่ออีก 1 รายการด้วย

เจษดาพร ศรีสรง (บอลกูรู)