สังเวียนขลัง!

สังเวียนขลัง!

สังเวียนขลัง!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สนามฟุตบอลประวัติศาสตร์ ที่มีเรื่องเล่าขานกันมายาวนาน ต่างที่มา ต่างองค์ประกอบ บางแห่งมีประวัติศาสตร์เรื่องความจุ บางแห่งมีประวัติศาสตร์เรื่องราวเหตุการณ์ในอดีตที่แตกต่างกัน วันนี้ขอนำเสนอ 10 ที่ถือเป็นสังเวียนประวัติอันเก่าแก่ และเต็มไปด้วยที่มาที่ว่ากันว่าน่าจะมีชื่อเสียงที่สุดในโลกกัน และที่สำคัญสนามที่จะกล่าวต่อไปนี้ ยังคงใช้งานอยู่ในปัจจุบันซะด้วย ไปดูกันหน่อยว่าเมื่อราวๆ 50 ปีที่แล้วสนามเหล่านี้เป็นอย่างไรกันบ้าง


สแตมฟอร์ด บริดจ์ รังเหย้าของ เชลซี ที่เคยจารึกประวัติศาสตร์แฟนบอลยัดทะยานเข้าสนามถึง 82,905 คนในเกมที่เจอกับ อาร์เซน่อล ในปี1935 นอกจากนี้ยังมีหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นในปี 1945 โดยเป็นสนามที่ทีมสหภาพโซเวียต เดินทางมาเยือนอังกฤษ หลังจบสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นนัดแรก โดยเกมนั้นมีแฟนบอลเข้ามาชมกันกว่าแสนคน และเกมจบลงด้วยความน่าตื่นเต้นกับสกอร์ 3-3

แอนฟิลด์ บ้านอันแสนอบอุ่นของ ลิเวอร์พูล ที่แม้ว่าความจุจะมีเพียง 45,276 ที่นั่ง แต่สนามแห่งนี้เป็นที่เล่าขานกันว่ามีบรรยากาศที่ดีที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังได้รับขนานนามให้เป็น 'eternal temple สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แห่งวงการฟุตบอล และเป็นหนึ่งในสนามแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกด้วย

คัมป์นู สังเวียนความจุเหยียบแสน (99,500 ที่นั่ง) ที่มีประวัติศาสตร์อันน่าสนใจ โดยความพิเศษอยู่ที่ คัมป์ นู และ บาร์เซโลน่า คือตัวแทนแห่งความภาคภูมิใจของชาวกาตาลัน และยังเป็นสัญลักษณ์ในการต่อสู้ทางการเมือง และนั่นเป็นที่มาของคำขวัญ ซึ่งปักอยู่ไม่ใช่เฉพาะบนเสื้อของทีมบาร์เซโลน่า แต่ยังประทับแน่นในใจของชาวคาตาลันทุกคนว่า Mes Que Un Club (เป็นมากกว่าสโมสร)

ซาน ซิโร่ รังเหย้าของ เอซี มิลาน ที่ใช้ร่วมกับคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง อินเตอร์ มิลาน โดยมีชื่อเรียกอีกชื่อก็คือ จูเซ็ปเป้ เมอัซซ่า ซึ่งถือเป็นการให้เกียรติแก่ จูเซ็ปเป้ "เป็ปปิโน่" เมอัซซ่า แข้งระดับตำนานทีมชาติอิตาลี รวมไปถึง อินเตอร์ มิลาน ที่เคยพาทีม "อัซซูรี่" คว้าแชมป์โลก 2 สมัยในปี 1934 และ 1938

มาราคาน่า สเตเดี้ยม สนามแห่งนี้ เป็นสนามกีฬาที่โดดเด่นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศบราซิล และทวีปอเมริกาใต้ เคยได้เป็นเจ้าภาพในการแข่งขันฟุตบอลโลกเมื่อปี 1950 ด้วย โดยได้มีการปรับปรุงใหม่ เพื่อรองรับการเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ แต่การตกแต่งยังคงไว้ให้เป็นเหมือนเดิม เพราะได้รับการจดทะเบียน โดยสถาบันมรดกประวัติศาสตร์และศิลปะแห่งชาติ และสนามแห่งนี้จะเป็นสังเวียนนัดชิงชนะเลิศด้วย

"เธียเตอร์ ออฟ ดรีม" โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ผ่านประสบการณ์โดนระเบิดจากสงครามโลกครั้งที่ 2 มาแล้ว ชื่อเรียกที่แฟนบอลคุ้นหูและเร้าอารมณ์ว่า "โรงละครแห่งความฝัน" นั้น คนแรกที่แรกที่เรียกชื่อนี้คือ เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน บุคคลระดับตำนานของสโมสรนั่นเอง

พาร์ดเฮด รังเหย้าอันมีที่มาของ กลาสโกว์ เซลติก โดยสนามแห่งนี้เคยถูกไฟไหม้มาแล้วเมื่อปี 1927 ก่อนที่จะจารึกประวัติศาตร์ในเกม โอลด์เฟิร์ม ดาร์บี้ ที่มีเรื่องของลัทธิศาสนามาเจือปนกับคู่ปรับไม่เผาผีอย่าง กลาสโกว์ เรนเจอร์ส ด้วยการมีผู้ชมเข้าสนามถึง 83,500 คน

สนาม ฮิลส์โบโร่ ของทีม เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ โด่งดังจากโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ในวงการฟุตบอล เมื่อเกิดอุบัติเหตุแฟนบอลของ ลิเวอร์พูล เข้าไปอัดก็อปปี้จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 96 ราย และถือเป็นหน้าประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญที่ทำให้ต้องมีกฏเรื่องการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดจนถึงทุกวันนี้

เซนต์ เจมส์ ปาร์ค เคยเกิดกรณีพิพาทระหว่างเจ้าของสโมสร นิวคาสเซิ่ล กับแฟนบอลของทีมมาแล้ว เมื่อนายทุนต้องการที่จะเข้ามาเปลี่ยนชื่อสนามตามผู้สนับสนุนภายในใต้ชื่อ สปอร์ต ไดเร็ค อารีน่า แต่สาวก ทูน อาร์มี่ ก็ทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะรักษานาม เซนต์ เจมส์ พาร์ค เอาไว้ จนท้ายที่สุดบอร์ดบริหารก็ยอมใจอ่อนให้ชื่อนี้มาจนถึงปัจจุบัน

ซานติอาโก เบร์นาเบว ของ เรอัล มาดริด ที่มีความจุมหาศาลกว่า 85,454 คนและยังได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลแดนกระทิงดุ สนามแห่งนี้เดิมทีจุได้กว่าแสนคน โดยปัจจุบันถือเป็นสังเวียนแข้งที่มีความทันสมัยและอลังการมากที่สุดในโลก และถือเป็นสนามที่ดึงดูดผู้เล่นระดับซูเปอร์สตาร์เข้าสู่ทีมได้มากที่สุดด้วย

ขอบคุณภาพจาก : purelyfootball.com

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook