"เสื้อบอล" ใครคว้าแชมป์? (คอลัมน์สนุกมือ / ธีรพัฒน์ อัครเศรณี)
ดราม่า“เสื้อบอล”เกิดขึ้นได้เรื่อยๆ นะครับในยุคนี้ เพราะทีมของใครใครก็รัก นอกจากเป็นเรื่องของแฟชั่นแล้ว บางคนซื้อไว้เชียร์ บางรายยังเอาไว้ใส่ในชีวิตประจำวัน บางคนก็สั่งมาเก็บเอาไว้เฉยๆเป็นความสุขทางใจเสียอย่างนั้น
แต่ทราบมั้ยครับว่า แม้ว่า “เสื้อบอล” จะมาแรงเพียงใดในยุคนี้ แต่เมื่อเจอพิษ “โควิด” เข้าไปยังออกอาการเป๋ ยอดขายตกกันเป็นแถว จากการสำรวจของ LoveTheSales.com รายงานว่ายอดในยูเคนั้นต่ำที่สุดในรอบ 5 ปีเลยทีเดียว
มีการวิเคราะห์กันด้วยว่าเป็นผลกระทบมาจาก “โควิด” นอกจากจะทำให้แต่ละทีม ไม่สามารถเปิดสนามให้ผู้ชมเข้าไปในสนาม ทำให้ยอดผู้มาเยือนช็อปของสโมสรแต่ละแห่งมียอดหมุนเวียนน้อยลงไปแล้ว ยังมีเรื่องโปรแกรมการแข่งขันที่ค่อนข้างจะกระชั้นชิด ไม่มีช่วงปรี-ซีซั่น ที่ยาวนานเหมือนปกติ ทำให้ โอกาสที่แต่ละทีมจะใส่ยูนิฟอร์มรูปโฉมใหม่ยั่วน้ำลายแฟนๆมันเลยน้อยลงไปด้วย
ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องของเศรษฐกิจที่ชะงักชักช้าไปทั่วโลก ทำให้คนที่ซื้ออะไรที ต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดีเสียก่อน ไม่สามารถรูดปื๊ดรูดปื๊ดเหมือนที่ผ่านมา
สำหรับยอดขาย “เสื้อบอล” ใหม่ค่อนข้างน่าแปลกใจ มีรายงานออกมาแล้วว่าทีมที่ขายดีที่สุดในสหราชอาณาจักรกลับไม่เป็นไปตามคาด เสื้อชุดใหม่ของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่เซ็นสัญญากับ “ไนกี้” เป็นครั้งแรก ไม่ได้ครองอันดับยอดนิยมเป็นอันดับหนึ่งครับ
เมื่อฤดูกาลที่แล้วชุดแข่ง “นิว บาลานซ์” ของ “หงส์แดง” คือผู้นำในเรื่องยอดขาย แต่มาปีนี้กลับตกมาเป็นอันดับ 3 เสียอย่างนั้น สวนกระแสความเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก โดยยอดหล่นลงมา 12 เปอร์เซ็นต์
แต่ไม่แน่เหมือนกันครับ ถ้ารวมยอดขายทั่วโลกซึ่งรวมเซาธ์อีสต์เอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทย ซึ่งมีสาวก “เด็กหงส์” อยู่มหาศาล อาจจะช่วยกู้หน้าขึ้นมาได้บ้าง บวกกับการทุ่มซื้อตัวผู้เล่นอย่าง เธียโก้ อัลคันทาร่า และ ดิเอโก้ โชต้า เข้ามาล่าสุด น่ามีส่วนจะช่วยกระตุ้นยอดขายยูนิฟอร์มหงส์ขึ้นมาอีก
สำรวจตลาดไปเรื่อยๆ ไม่น่าเชื่อว่าชุดแข่งมาแรงที่สุด กลับเป็นของทีม “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ที่ยอดพุ่งกระฉูดขึ้นถึง 84 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว โดดขึ้นมาอยู่อันดับสองในเรื่องยอดขายสูงที่สุดในยูเคหน้าตาเฉยเลยทีเดียว ทั้งๆที่ผู้เขียนเองพิจารณาแล้ว ดีไซน์ก็มิได้มีอะไรโดดเด้ง
ไม่ต้องบอกก็น่าจะรู้ว่า มันเกี่ยวข้องกับการทุ่มเงินมหาศาลซื้อนักเตะใหม่ระดับเวิลด์คลาสมาหลายราย อย่าง ติโม แวร์เนอร์ , ไค ฮาแวร์ตซ์ และ ฮาคิม ซิเย็ค ที่มีส่วนกระตุ้นยอดขายอย่างแน่นอน
สำหรับแชมป์ในเรื่องตลาดเสื้อแข่ง กลายเป็นชุดแข่งของทีม อาร์เซนอล จากกรุงลอนดอน ที่ปีนขึ้นมาแย่งแชมป์ไปจาก ลิเวอร์พูลได้หน้าตาเฉย ถือเป็นการเหยียบจมูกกันชัดๆ เพราะเป็นดีไซน์ของคู่แข่งตัวฉกาจอย่าง “อาดิดาส”
ก็ต้องยอมรับว่าของเขาออกแบบมาได้สวยงามทะมัดทะแมงอย่างแท้จริง รับกับการทำทีมในยุคใหม่ของกุนซือหนุ่มอย่าง มิเกล อาร์เตต้า แถมเปิดฤดูกาลเป็นแชมป์ คอมมูนิตี้ ชิลด์ เสียอีก เรียกศรัทธาแฟนบอลคืนมาได้ล้นหลาม
หวังว่า ฤดูกาลนี้ผลงานของ “ปืนใหญ่” จะผงาดง้ำค้ำโลก เหมือนเสื้อทีมที่พวกเขาสวมใส่ ซึ่งแฟนบอล “กันเนอร์ส” ได้ให้การต้อนรับอย่างดีเยี่ยม แบบนี้ไปยาวๆเลยนะครับ.