คานยุคซัดชัย! บุรีรัมย์ เปิดรังเฉือน สุพรรณบุรี 1-0 คว้าสามแต้มไทยลีก
การแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2020 คู่ระหว่าง “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านรับการมาเยือนของ “ช้างศึกยุทธหัตถี” สุพรรณบุรี เอฟซี ที่ ช้างอารีนา เมื่อวันเสาร์ที่ 26 กันยายน 2563
- เริ่มการแข่งขันครึ่งแรก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่มาในชุดสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นชุดแข่งขัน BRUTD X LCFC ที่จัดทำขึ้นพิเศษสำหรับโครงการ "THAILAND SMILES WITH YOU" เป็นฝ่ายเขี่ยบอลเล่นก่อน บุกจากขวาไปซ้าย ส่วน สุพรรณบุรี เอฟซี ที่มาในเสื้อสีเขียว กางเกงขาว ถุงเท้าเขียว บุกจากซ้ายมาขวาของสนามแข่งขัน
- นาทีที่ 15 กีดี คานยุค จ่ายบอลออกมาทางริมเส้นฝั่งซ้ายถึง ศศลักษณ์ ไหประโคน ไหลบอลให้ สุภโชค สารชาติ ลากไปจนสุดเส้นหลังก่อนจะตบกลับมาในเขตโทษให้ ศุภชัย ใจเด็ด แตะต่อมาถึง กีดี คานยุค ยิงบอลหายเข้าประตูไป บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทะยานออกนำ 1-0
- ผ่าน 30 นาที ทั้ง 2 ทีมเปิดเกมเข้าใส่กันอย่างสนุก แต่ส่วนมากจะเป็นการชิงพื้นที่ และตัดบอลกันในแดนกลาง ทำให้ทั้งคู่ยังไม่มีโอกาสยิงประตูกันจ่อ ๆ ปราสาทสายฟ้า ยังคงออกนำผู้มาเยือนอยู่ 1-0
- นาทีที่ 38 กีดี คานยุค ปาดบอลออกมาทางซ้ายให้ สุภโชค สารชาติ ได้กระชากบอลขึ้นหน้าเข้าเขตโทษ ก่อนจะดึงบอลรอจังหวะไหลคืนให้ กีดี คานยุค วิ่งเข้ามายิงด้วยเท้าซ้ายบอลพุ่งถากเสาออกหลังไป
- นาทีที่ 41 ปราสาทสายฟ้า ได้ฟรีคิกที่กลางสนามเยื้องมาทางซ้าย รัตนากร ใหม่คามิ เปิดบอลยาวเข้าเขตโทษที่เสาสองให้ เรนาโต เคลิช โหม่งชงมาถึง กีดี คานยุค ได้กระโดดจักรยานอากาศกลับหลังแต่โดนไม่เต็มบอลลอยมาที่เสาแรก ผู้ตัดสินเป่าให้สุพรรณบุรี เอฟซี ได้ตั้งเตะเพราะมีการชนกันของนักเตะในเขตโทษ
- จากนั้นช่วงทดเวลา 2 นาที ทั้ง 2 ทีมยังไม่มีโอกาสที่จะทำประตูกันเพิ่มได้ ทำให้หมดครึ่งเวลา ปราสาทสายฟ้า ยังคงออกนำ ช้างศึกยุทธหัตถี อยู่ 1-0
- กลับมาเล่นกันต่อครึ่งเวลาหลัง นาทีที่ 52 แฟนบอลปราสาทสายฟ้า เกือบได้เฮเป็นครั้งที่ 2 ของเกม ศุภชัย ใจเด็ด จ่ายบอลออกซ้ายให้ มาร์โก เซโปวิช ลากบอลจี้เข้าเขตโทษแล้วตัดสินใจซัดบอลพุ่งไปโดน แพทริค เดย์โต นายด่านทีมเยือนล้มตัวเซฟบอลไว้ได้
- นาทีที่ 55 เกมต้องหยุดลงชั่วขณะเมื่อ วรินทร สัสดี ผู้ตัดสินขอตรวจสอบ VAR จังหวะเกมบุกของ สุพรรณบุรี เอฟซี ที่ได้ยิงบอลลอยไปแฉลบบล็อกผู้เล่นบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ออกหลัง เมื่อตรวจสอบ VAR ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นจุดโทษ จากจังหวะที่ กรกช วิริยอุดมศิริ เหนี่ยวผู้เล่นทีมเยือนล้มลง ก่อนจะเป็น เฟลิเป อโมริม จะรับหน้าที่ยิงจุดโทษบอลไปชนเสาเด้งออกมา เฟลิเป อโมริม พยายามจะยิงอีกครั้งบอลเด้งไปโดน รัชนาท อรัญญไพโรจน์ เข้าประตูไป แต่เป็นจังหวะล้ำหน้า ทำให้ต้องหยุดเกมดู VAR อีกครั้ง ปรากฏว่าเป็นจังหวะล้ำหน้าของ รัชนาท อรัญญไพโรจน์ ทำให้สกอร์ยังเป็น ปราสาทสายฟ้า ออกนำ 1-0
- นาทีที่ 69 ช้างศึกยุทธหัตถี ได้เตะมุม รัชนาท อรัญญไพโรจน์ เปิดบอลเข้ามาในเขตโทษ เอเลฟ วิเอียรา โหม่งบอลไปโดนหัว พรรษา เหมวิบูลย์ ออกหลังไป ได้เป็นลูกเตะมุมต่อเนื่องเท่านั้นสุดท้ายก็ยังไม่ได้ลุ้นประตู
- นาทีที่ 85 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้เล่นสวนกลับ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ได้บอลกลางสนามก่อนจะลากบอลเข้าไปในเขตโทษแล้วจ่ายบอลให้ สุภโชค สารชาติ ที่วิ่งตีคู่ขึ้นมายิงเข้าประตูไป แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกเป็นจังหวะล้ำหน้าของ สุภโชค สารชาติ ไป ทำให้สกอร์ยังคงอยู่ที่ 1-0
- จากนั้นช่วงท้ายเกมเป็น สุพรรณบุรี เอฟซี ที่ครองเกมได้ดีกว่า แต่ก็ไม่อาจจะเจาะแนวรับของ ปราสาทสายฟ้า เข้าไปทำประตูตีเสมอได้ จบเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เอาชนะ สุพรรณบุรี เอฟซี ไปได้ 1-0 ส่งผลให้ ปราสาทสายฟ้า เก็บ 3 คะแนนไว้ได้ พร้อมกับขยับไปมี 7 คะแนน จากการลงสนาม 5 นัด
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (ผู้รักษาประตู) (C), ศศลักษณ์ ไหประโคน (กรกช วิริยอุดมศิริ น.30), เรนาโต เคลิช, พรรษา เหมวิบูลย์, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, อัคบาร์ อิสมาตุลเลฟ, รัตนากร ใหม่คามิ, สุภโชค สารชาติ (จักรพันธ์ แก้วพรม น.90+1), ศุภชัย ใจเด็ด, กีดี คานยุค (ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา น.74), มาร์โก เซโปวิช
สุพรรณบุรี เอฟซี : แพทริค เดย์โต (ผู้รักษาประตู), มีโชค มหาศรานุกูล (สุประวีณ์ มีประทัง น.85), วสันต์ ฮมแสน (C), เอเลฟ วิเอียรา, ทินกร อสุรินทร์, จิรวัฒน ทองแสงพราว, ประสิทธิ์ จันทุม, แพทริค อัลคาลา, กษิดิ์เดช เวทยาวงศ์ (รัชนาท อรัญญไพโรจน์ น.14), เฟลิเป อโมริม, เอลิอันโดร กอนซากา