วิเคราะห์ 11ตัวจริงช้างศึก ชุดล่าแชมป์บอลซูซูกิคัพ 2014
บอลซูซูกิคัพ 2014
12 ปีเต็มที่ขุนพลช้างศึก ทีมชาติไทยไม่มีโอกาสสัมผัสถ้วยแชมป์ ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียนหรือศึก เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ ซึ่งเดินทางมาถึงปี 2014 แล้ว และกำลังจะระเบิดศึกขึ้นอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ทีมชาติไทยถูกจับสลากให้อยู่ในสายบีร่วมกับเจ้าภาพ สิงคโปร์ และเพื่อนร่วมกลุ่มอย่าง มาเลเซีย และ เมียนมาร์ ซึ่งผู้สันทัดกรณีมองว่าหากทีมชาติไทยไม่ประมาทและหลุดฟอร์มไปเอง น่าจะผ่านเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศได้ไม่ยาก เพราะผลงานในช่วงอุ่นเครื่องเข้าตาเหลือเกิน
ซึ่งผู้เขียนได้มีโอกาสติดตามทีมชาติไทยชุดนี้ตั้งแต่การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่ประเทศเมียนมาร์ ซึ่งสามารถคว้าแชมป์มาครอง และขุนพลชุดนี้ภายใต้การนำทีมของ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ยังสร้างผลงานต่อเนื่องมาจนถึงการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ ที่เพิ่งจบไปไม่นาน โดยคว้าอันดับสี่มาครองได้
จบสองทัวร์นาเม้นต์ที่กล่าวมา นักเตะส่วนใหญ่ถูกดันมาเล่นทีมชาติชุดใหญ่ โดยภารกิจแรกคือการล่าแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูคัพ 2014 ซึ่งจะระเบิดการแข่งขันรอบแรกวันที่ 22-29 พ.ย.นี้ เพื่อเอาอันดับ 1 และ 2 ของแต่ละกลุ่มเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศซึ่งจะแข่งขันแบบเหย้า-เยือน
วันนี้แม็คกี้จะมาวิเคราะห์ผู้เล่นที่คาดว่าจะเป็น 11 ตัวจริงแต่ละตำแหน่ง ว่ามีจุดแข็งจุดอ่อนอย่างไร และดีพอที่จะเป็นแชมป์ที่ทีมชาติไทยไม่สามารถคว้าถ้วยมาครองได้ยาวนานกว่า 12 ปีได้หรือไป ระบบการเล่น 4-3-3
ผู้รักษาประตู : กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์
ถือเป็นนายทวารมือ 1 ของไทยแบบไม่ต้องสงสัย ที่ผ่านมามีแค่ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล คนเดียวที่เป็นคู่แข่ง แต่ชุดนี้นายทวารจาก ชลบุรี เอฟซี หลุดโผไปทำให้กวินทร์ต้องรับหน้าที่หนัก ซึ่งจุดเด่นของนายทวารจากสโมสร เมืองทอง รายนี้อยู่ที่ความนิ่ง การออกมาตัดบอลที่ไม่ค่อยพลาด ทำให้แผงหลังเล่นง่าย ซึ่งหากไม่มีอาการบาดเจ็บรบกวน เจ้าตัวจะเป็นตัวหลักจนจบทัวร์นาเม้นต์แน่นอน
แบ็กขวา : นฤบดินทร์ วีรวัฒน์โนดม
กองหลังป้ายแดงจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แจ้งเกิดเต็มตัวจากการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ที่ผ่านมา ทำให้ก้าวมาเป็นตัวหลักในนามทีมชาติชุดใหญ่ ซึ่งนฤบดินทร์เป็นนักเตะที่มีจุดเด่นในเรื่องเกมรุก ที่สามารถเติมเกมได้ตลอด 90 นาที แต่ยังมีจุดอ่อนอยู่บ้างเวลาเล่นเกมรับ ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าตัวปรับได้ดีขึ้น ก็ต้องมาดูกันว่าการเล่นในนามทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรกจะสอบผ่านหรือไม่
แบ็กซ้าย : พีรพัฒน์ โน๊ตชัยยา
เป็นอีกรายที่แจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัวในการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ที่ผ่านมา มีจุดเด่นที่พลังกำลังสามารถวิ่งขึ้นลงได้ 90 นาที แถมยังมีทีเด็ดจากการยิงไกลที่ทรงพลัง ซึ่งทัวร์นาเม้นต์อาเซียนคัพครั้งนี้ หากเจ้าตัวสามารถรักษาฟอร์มได้ดีโอกาสยึดตำแหน่งนี้ถาวร เนื่องจากเบอร์ 1 คนปัจจุบันอย่าง ธีราทร บุญมาทัน ไม่ได้รับโอกาส
เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ : อดิศร พรหมรักษ์
แนวรับจาก บีอีซี เทโรศาสน ถือวาเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟเบอร์ 1 ชุดนี้ และเป็นอีกรายที่แจ้งเกิดจากกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ และยังมีจุดเด่นที่การเติมมาเล่นลุกตั้งเตะสามารถทำประตูได้บ่อย แม้ว่าดูที่ส่วนสูงแล้วอาจจะดูน้อยไปด้วยซ้ำใน ตำแหน่งนี้ และทัวร์นาเม้นต์นี้หากไม่เจ็บ อดิสรจะได้เป็นตัวจริงแน่นอน
เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ : ปวีณวัชร์ บุญยงค์
อีกหนึ่งตำแหน่งถ้าวัดกันที่ประสบการณ์ก็น่าจะเป็น สุทธินันท์ พุกหอม แนวรับจากชลบุรี เอฟซี แต่ดูที่จากที่ดูการฝึกซ้อมยังเล่นไม่ค่อยเข้าขากับเพื่อนร่วมทีมมากเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะมีเวลาซ้อมร่วมกันน้อย ทำให้แคนดิเดตน่าจะเป็น ปวีณวัชร์ บุญยงค์ แนวรับจาก บางกอกกล๊าส เอฟซี มากกว่าที่เข้าใจระบบการเล่นของซิโก้เป็นอย่างดี โดยเจ้าตัวมีจุดเด่นที่ความดุดัน สามารถกระตุ้นเพื่อนได้ดี
กองกลาง : สารัช อยู่เย็น
มิดฟิลด์จาก เอสซีจี เมืองทอง ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในการลงเล่นเกมอุ่นเครื่องทั้งสามนัด และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ดูแล้วซิโก้น่าจะวางให้เป็นตัวหลักในแดนกลางอย่างแน่นอน ซึ่งขวบปีที่ผ่านมาถือว่านักเตะรายนี้พัฒนาขึ้นมา เป็นอย่างมากทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ เด่นทั้งรุกและรับและน่าจะเป็นนักเตะที่น่าจับตามองในทัวร์นาเม้นต์นี้อีกคน
กองกลาง : ชาริล ชัปปุยส์
ดาวเตะขวัญใจแม่ยกรายนี้น่าจะเป็นคนที่มีแฟนคลับมากที่สุดในทีมชุดนี้ เพราะทุกนัดที่ลงสนามจะได้รับเสียงกรี๊ดเป็นพิเศษโดยเฉพาะบรรดาสาวๆ แต่ใช่ว่าจะมีแค่หน้าตาที่ดีอย่างเดียว เรื่องฝีเท้าก็ถือว่าเป็นระดับแถวหน้าของไทย ซึ่งแม้ในระดับสโมสรเจ้าตัวจะเล่นตำแหน่งกองกลางตัวรับ แต่ในยุคของซิโก้ ถูกดันให้มีบทบาทในเกมรุกพอสมควร
กองกลาง : ธนบูรณ์ เกษารัตน์
อีกหนึ่งตำแหน่งที่มีโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงน่าจะเป็นกองกลางจาก บีอีซี เทโรศาสน ที่จะเบียด อดุลย์ หละโสะ และ ชนาธิป สรงกระสินธุ์ ลงเล่นก่อน แน่นอนจุดเด่นอยู่ที่การตัดเกมและเล่นง่าย ทำให้ทีมมีสมดุลในเกมรุกและรับ ก็ต้องมาดูกันว่านักเตะรายนี้จะสร้างผลงานได้ดีขนาดไหน
ปีกซ้าย : ประกิต ดีพร้อม
ถือว่าเป็นอีกรายที่แจ้งเกิดในเกมอุ่นเครื่อง ทำผลงานได้ดีมากจนน่าจะยึดตำแหน่งตัวจริงทางกราบซ้ายได้ มีจุดเด่นที่ความสามารถเฉพาะตัว สามารถไปกับบอลได้ดีและที่ขาดไม่ได้คือจ่ายบอลได้คม และสอดขึ้นมายิงประตูได้ดี และ นี่ก็เป็นอีกคนที่มีโอกาสแจ้งเกิดได้
ปีกขวา : มงคล ทศไกร
ตัวรุกจาก อาร์มี่ ยูไนเต็ด ทำผลงานได้ดีในเกมอุ่นเครื่องมีจุดเด่นที่ความขยันหาพื้นที่และจบสกอร์ได้ดี ซึ่งดูแล้วทัวร์นาเม้นต์นี้น่าจะยึดตัวจริงทางกราบขวาได้ เพราะคู่แข่งอย่าง นูรูล ศรียานเก็ม หลุดออกไป
กองหน้าตัวเป้า : กีรติ เขียวสมบัติ
กลับมาแจ้งเกิดได้อีกแบบไม่น่าเชื่อ หลังจากที่หลุดทีมชาติไปนาน ซึ่งในเกมอุ่นเครื่องที่ผ่านมาเจ้าตัวไม่ทำให้ซิโก้ต้องผิดหวัง โดยกีรติมีจุดเด่นที่ความแข็งแกร่งของร่างกาย และการเล่นที่เป็นประโยชน์กับทีมจนเบียด อดิศักดิ์ ไกรษร ดาวซัลโวจากเอเชี่ยนเกมส์หลุดเป็นสำรอง
ทั้งหมดก็เป็นผู้เล่นตัวจริงของทีมชาติไทยที่คาดว่าน่าจะได้รับโอกาสจากการแข่งขันศึกฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอาเซียน ต้องมาดูกันว่าพวกเขาจะสามารถสร้างความสุขให้กับแฟนบอลชาวไทยหรือไม่
พงษ์ศักดิ์ ภิญคุณ
เขียนโดย : Macky