"บาร์ซ่า" ยุคใหม่.. ได้ใจกว่าที่คิด (คอลัมน์สนุกมือ / ธีรพัฒน์ อัครเศรณี)

"บาร์ซ่า" ยุคใหม่.. ได้ใจกว่าที่คิด (คอลัมน์สนุกมือ / ธีรพัฒน์ อัครเศรณี)

"บาร์ซ่า" ยุคใหม่.. ได้ใจกว่าที่คิด (คอลัมน์สนุกมือ / ธีรพัฒน์ อัครเศรณี)
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผลงานการเปิดฤดูกาลของทีม "(อดีต) เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ในยุคโรนัลด์ คูมัน ทำเอาหลายฝ่ายที่คอยจ้องกระทืบซ้ำ หลังทีมเจอสภาวะแห่งความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จำต้องชะงักหยุดมองอย่างแปลกใจ เพราะ 3 เกมแรกพวกเขาโชว์ผลงานยังไม่แพ้ใคร

หลังจากความล้มเหลวเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งความปราชัยยับเยินต่อ บาเยิร์น มิวนิค ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ทำให้สโมสรตัดสินใจปฏิวัติเปลี่ยนเป็นยุคใหม่ ทั้งเรื่องของนักเตะ ผู้จัดการทีม และการบริหาร

เฮดโค้ชชาวดัตช์เข้ามาไม่นาน เขาตัดสินใจเด็ดขาดจัดการโละตัวผู้เล่นเก่าอย่าง หลุยส์ ซัวเรซ, อาร์ตูโร่ วิดาล, อาร์ด้า ตูราน ออกไปทันที โดยทั้ง 3 คนถูกปล่อยไปแบบฟรีทรานสเฟอร์ ตามด้วย อิวาน ราคิติช ไปเซบีญ่า, มาร์ค คูคูเรลล่า ไปเกตาเฟ่, คาร์ลอส เปเรซ ไปโรม่า, เนลสัน เซเมโด้ ไปวูล์ฟส์, และ อาร์ตูร์ ไปอยู่กับยูเวนตุส รวมๆแล้วได้เงินมาประมาณ 124.50 ล้านยูโร

bb
ขณะที่ขาเข้านั้น "พี่บึ้ก" จัดการดึงตัว มิราเล็ม ปานิช จากยูเว่ (60 ล้านยูโร), ทรินเกา จากบราก้า (31 ล้านยูโร), เซอร์จิโน เดสต์ จากอาแอ๊กซ์ฯ (21 ล้านยูโร), มาติเยอ เฟอร์นันเดซ (7 ล้านยูโร)  และ เปดรี้ จากลาส พัลมาส (5 ล้านยูโร) ส่วนมากเป็นประเภทพลังหนุ่มทั้งนั้น หลงจ้งแล้วหมดงบไป 124 ล้านยูโร แหม ช่างใกล้เคียงกับรายได้จริงๆ

แม้จะยังไม่ได้ตัวแบบเจ๋งเป้งจริงๆเข้ามา แต่ทีเด็ดของคูมันนั้นอยู่ที่การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างชาญฉลาดที่สุดตั้งแต่สมัยทำทีมเซาธ์แฮมป์ตันมาแล้ว เขาจัดการเปลี่ยนแปลงระบบการเล่นที่คิดว่าเหมาะสมกับขุนพลที่มีอยู่ ด้วยการปรับเป็น 4-2-3-1 ซึ่งก็เป็นฟอร์เมชั่นที่เขาถนัดสุดอยู่แล้วด้วย

bd
กุนซือดัตช์วัย 57 ปีจัดแจงให้ เฟรนกี้ เดอ ยอง ลงไปยืนคู่กับ เซร์คิโอ บุสเกตส์ ในตำแหน่งอลองไซด์มิดฟิลด์ หน้าแผงกองหลังทั้ง 4 คน แล้วปรับเพลย์เมกเกอร์เป็น 3 ประสานตัวกลางคืนพื้นที่ให้กับ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ทางขวาเอา อองตวน กรีซมันน์ ไปยืน และทางซ้ายให้โอกาส อันซู ฟาติ ดาวรุ่งวัย 18 ทีมชาติกระทิงดุเองแบบซื้ออนาคตกันเลยทีเดียว ส่วนตัวใหม่ที่เพิ่งดึงมาทั้งหมด ยังต้องรอเวลาอยู่บนม้านั่งสำรองเท่านั้น

ส่วน ลิโอเนล เมสซี่ ขยับขึ้นไปยืนเป็นศูนย์หน้า แทนที่ตำแหน่งของซัวเรซที่จากไป โดยยังได้รับความไว้วางใจให้สวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีมต่อไปด้วย ซึ่ง "ลีโอ" เองเคยเล่นบทบาทนี้มาแล้วในอดีต ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย

gg
หลังจากปรับตัว ออกสตาร์ทไป 3 เกมในศึกลาลีกา บาร์ซ่ายุคใหม่นั้นดูลงตัวขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ แค่ขยับสับเปลี่ยนตัวผู้เล่นให้ลงตัวเท่านั้นเอง แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาแบบเห็นได้ชัดคือเรื่องของระเบียบวินัยในทีมที่ดูดีขึ้นเยอะ ทีมเวิร์ค และเล่นกันแบบเพื่อส่วนรวม

นี่ขนาดบรรดาผู้เล่นใหม่ที่คูมันดึงมายังไม่มีโอกาสแสดงบทบาทอะไรเท่าไหร่นัก ถ้าต่อไปพัฒนาแทรกเข้าสู่ทีมได้ ก็จะเพิ่มสภาพการแข่งขันและคุณภาพองค์รวมของทีมยิ่งขึ้นไปอีก โอกาสที่จะคืนความยิ่งใหญ่ไม่ใช่เรื่องห่างไกล

ไม่ต้องบอกก็รู้นะครับว่าเป็นเพราะฝีมือใคร? จากนี้ไปแฟนๆ "บาร์ซ่า" คงโล่งใจมากขึ้น จับตาดู ต่อไป จาก "ทีมแตก" อาจจะกลายเป็น "ทีมนำ" แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook