ยิงปืนยันไม่รับ เอ็กซ์ ดิ้นสุดโต่ง! ยื่นแจงศาลชี้ขาดสัปดาห์หน้า
คดีฟ้องร้องยิงปืนยังจบไม่ลง สมาคมกีฬายิงปืนยืนยันต่อหน้าศาลไม่รับ จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม และ โอภาส เรืองปัญญาวุฒิ เป็นสมาชิก แฉความประพฤติไม่ดี ไม่มีวินัย โดยเฉพาะจักรกฤษณ์ที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทบ่อย ด้านเจ้าตัวโต้กลับช่วงคัดตัวไม่เคยมีปากเสียงกับใครทั้งนั้น พร้อมขอชี้แจงทุกข้อกล่าวหาเป็นลายลักษณ์อักษรยื่นต่อศาล วันที่ 5 สิงหาคม ขณะที่ศาลไม่สนเรื่องความขัดแย้งที่ผ่านมาจะพิจารณาจากผลประโยชน์ของประเทศ ชาติและงบประมาณของแผ่นดินเป็นหลักเท่านั้น คาด 1 สัปดาห์ชี้ขาดได้
ตามที่อัยการได้ไต่สวนฉุกเฉินเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2552 คดีดำที่ 514/2552 กรณีที่ นายโอภาส เรืองปัญญาวุฒิ และ นายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม 2 นักกีฬายิงปืนยื่นฟ้อง การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นจำเลยที่ 1 /สมาคมยิงปืนแห่งประเทศไทย เป็นจำเลยที่ 2 และคณะกรรมการบริหารสมาคมกีฬายิงปืน เป็นจำเลยที่ 3 หลังจากสมาคมกีฬายิงปืนไม่ รับทั้ง 2 คนเป็นสมาชิก ทำให้ไม่ได้รับโอกาสติดทีมชาติชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 25 เพราะข้อบังคับของสมาคม หมวดที่ 8 ระบุว่า จะติดทีมชาติได้ ต้องเป็นสมาชิกของสมาคมด้วย โดยสมาคมกีฬายิงปืนได้ให้ถ้อยคำต่อศาลถึงเหตุผลสำคัญว่าทั้ง 2 คนละเมิดข้อบังคับของสมาคมตลอด จักรกฤษณ์ มีความประพฤติไม่เหมาะสม ส่วนโอกาส กล่าวโจมตีการบริหารของสมาคมทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงนั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ที่ผ่านมา ศาลได้นัดคู่กรณีมาให้ถ้อยคำต่อศาลเพิ่มเติมที่ศาลปกครองกลาง ถนนแจ้งวัฒนะ โดยอนุญาตให้สื่อมวลชนร่วมรับฟัง สรุปสาระสำคัญดังนี้ อัยการได้สอบถามพยานของสมาคมกีฬายิงปืนถึงเหตุผลที่ไม่รับเป็นทีมชาติ นายเอกชัย กาญจนพิทักษ์ กรรมการบริหารสมาคมกีฬายิงปืน ให้ถ้อยคำว่า การคัดเลือกนักกีฬาใช้หลักเกณฑ์ของสมาพันธ์ยิงปืนแห่ง เอเชีย ที่กำหนดให้แต่ละประเทศส่งนักกีฬาเข้าร่วมได้ 33 คน เป็นชาย 20 คน และหญิง 13 คน โดยพิจารณาจากความสามารถและวินัยการเป็นนักกีฬา ขณะนี้ได้รายชื่อครบและส่งรายชื่อไปยังโอลิมปิกไทยเพื่อส่งต่อคณะกรรมการ จัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 รวมถึง กกท.แล้ว
ในส่วนของจักรกฤษณ์นั้น มีปัญหาเรื่องความประพฤติ ไม่มีระเบียบวินัย ซึ่งเป็นสาเหตุที่สมาคมไม่รับเป็นสมาชิกเพราะมีปัญหาเรื่องทะเลาะกับผู้อื่นตลอด โดยก่อนเดินทางไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2008 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน มีเหตุร้องเรียนความประพฤติของจักรกฤษณ์ที่แสดงกิริยาเอะอะโวยวายและเกิดการโต้เถียงกับนายวิเชียร ไพจิตรกาญจนกุล ผู้ปกครองของนักกีฬา แต่สมาคมไม่ได้ตั้งคณะกรรมการสอบตามข้อบังคับของสมาคม แต่นำมาพิจารณาเรื่องความประพฤติ โดยระหว่างนี้ นายจักรกฤษณ์ ที่กำลังนั่งฟังด้วยสีหน้าเคร่งเครียด กล่าวขึ้นมาสั้นๆ ว่า ตนไม่เคยรู้จักนายวิเชียร ไพจิตรกาญจนกุล และในช่วงคัดเลือกตัวก็ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับใคร
นายเอาชัยกล่าวต่อ ว่า ส่วนกรณีนายโอภาส ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกเนื่องจากมีเรื่องฟ้องร้องกันในคดีหมิ่นประมาท ซึ่งนายโอภาส กล่าวหาร้องเรียนที่ไม่มีมูลความจริงทำให้สมาคมได้รับความเสื่อมเสีย ทั้งนี้ คณะกรรมการบริหารสมาคมกีฬายิงปืนเห็น ว่า หากศาลให้นายจักรกฤษณ์ และนายโอภาส เข้าร่วมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 จะทำให้นักกีฬาถูกคัดออก 2 คน ซึ่งนักกีฬาที่ถูกคัดออกไม่มีความผิดอะไร ไม่เคยสร้างความเสื่อมเสียให้แก่สมาคม และจะสร้างความยุ่งยากต่อการบริหารจัดการอย่างมาก
ด้านนายพีระ ภิรมย์รัตน์ กรรมการบริหารสมาคมกีฬายิงปืน ในฐานะพยาน ให้ถ้อยคำว่า สมาคมได้มีประกาศฉบับที่ 6/2552 กำหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือกตัวนักกีฬายิงปืนทีม ชาติชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 25 กำหนดว่าสมาคมจะนำผลคะแนนการแข่งขันของนักกีฬาแต่ละคนทั้ง 3 ครั้ง มาจัดลำดับ และนำเสนอต่อคณะกรรมการบริหารสมาคมเพื่อพิจารณาคัดเลือกต่อไป ซึ่งคณะกรรมการจะใช้ดุลพินิจในการคัดเลือกนักกีฬาโดยไม่ได้นำเฉพาะผลการแข่ง ขันมาพิจารณาเท่านั้น
จากนั้นนายโอภาสและนายจักรกฤษณ์ ได้แถลงว่า ประสงค์ที่จะทำคำชี้แจงและส่งเอกสารเป็นหนังสือยื่นต่อศาลภายในวันที่ 5 สิงหาคมนี้ โดยศาลอนุญาต ขณะที่อัยการระบุว่า การพิจารณาจะไม่หยิบยกเรื่องความขัดแย้งต่างๆ ที่ผ่านมาของทั้งสองฝ่าย แต่จะพิจารณาเฉพาะเรื่องรับและไม่รับเป็นนักกีฬาทีมชาติ โดยพิจารณาจากผลประโยชน์ของประเทศชาติและงบประมาณของแผ่นดินเป็นหลัก และคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนที่ศาลจะมีคำสั่งต่อไป