มากกว่าการป้องแชมป์! "มาร์ติน" มองศึก "ธานฮ์" คือพลังศรัทธาของรุ่นต่อไป
“The Situ-Asian” มาร์ติน เหงียน ไม่ได้คิดว่าการจะรักษาเข็มขัดแชมป์โลกไว้ได้ เพียงแค่ต้องซ้อมหนักในแบบเดิมๆ เขาเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลจากบ้านที่ออสเตรเลีย ไปฝึกซ้อมที่ยิมซึ่งอยู่ห่างไกลอีกซีกโลก จากบ้าน จากภรรยาและลูกๆ เพื่อรักษาบัลลังก์รุ่นเฟเธอร์เวตของเขาไว้ และหวังให้ผลลัพธ์ตอบแทนกลับมาในสิ่งที่เขาต้องสูญเสียไป
วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคมนี้ แชมป์โลกชาวเวียดนาม-ออสเตรเลีย วัย 31 ปี จะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า ความทุ่มเทของเขามันคุ้มค่า โดยในศึก ONE: INSIDE THE MATRIX ที่กำลังจะเกิดขึ้น เขาจะต้องเจอกับผู้ท้าชิงสายเลือดเดียวกันอย่าง
“ธานฮ์ เล ชาวเวียดนาม-อเมริกา และศึกนี้มันมีความหมายมากกว่าแค่ชัยชนะและรางวัล
“ผมไม่ได้เป็นแชมป์โลกเพราะโชคช่วย หรืออาศัยความโชคดี แต่ผมฝึกหนัก และทำทุกอย่างที่สมควรทำ เพื่อให้ผมเดินทางมาถึงจุดที่ผมกำลังยืนอยู่”
นักกีฬาต้องมีวินัยในการฝึกซ้อม นี่คือสิ่งที่ราชารุ่นเฟเธอร์เวตเรียนรู้มาโดยตลอด นับตั้งแต่เขาเริ่มต้นฝึกฝนวิชาการต่อสู้เมื่ออายุ 21 ปี และทำให้ก้าวสู่ความรุ่งเรืองในอาชีพ เคยเป็นถึงแชมป์โลก ONE สองรุ่นมาแล้ว
หลังจากเซ็นสัญญาเข้ามาอยู่กับ วัน แชมเปียนชิพ มาร์ติน ปิดเกมไวยกแรกต่อเนื่อง 4 ไฟต์
ก่อนที่จะได้เปิดศึกท้าทายเจ้าของเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นเฟเธอร์เวตในเวลานั้นอย่าง “Cobra” มารัต กาฟูรอฟ เมื่อเดือนสิงหาคม 2560 และเขาได้ปิดฉากเจ้าตำนานพร้อมกับนั่งแท่นราชาคนใหม่ สามเดือนให้หลังเขาสร้างประวัติศาสตร์อีกครั้ง ด้วยการโค่นแชมป์โลก ONE รุ่นไลต์เวต “Landslide” เอดูอาร์ด โฟลายัง คว้าเข็มขัดเส้นที่สอง และกลายเป็นแชมป์โลก ONE สองรุ่นน้ำหนักคนแรกในประวัติศาสตร์
น่าเสียดายที่ มาร์ติน จำต้องปล่อยมือจากตำแหน่งแชมป์โลกในรุ่นไลต์เวต หลังจากประสบภาวะบาดเจ็บที่หัวเข่าในเดือนกันยายน 2561 และทำให้เขาต้องร้างสังเวียนไปร่วม 8 เดือน เขาตัดสินใจเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเพื่อเส้นทางอาชีพ ด้วยการย้ายไปซ้อมกับยิม Sanford MMA ในรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งหากจากบ้านของเขาที่ซิดนีย์ ออสเตรเลีย นับพันไมล์
ผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลงคือพัฒนาการที่ก้าวกระโดด การกลับสู่สังเวียนสองไฟต์ล่าสุด มาร์ติน กำราบอดีตแชมป์โลก ONE รุ่นเฟเธอร์เวต “Tungaa” นารันตุงกาลัก จาดัมบา ด้วยเข่าลอยสุดตะลึง จากนั้นบี้ผู้ท้าชิงอันดับ 2 ของแรงกิง “Moushigo” โคโยมิ มัตสึชิมา อย่างจนมุม
“ตั้งแต่ผมไปฝึกซ้อมที่ Sanford MMA ฝีมือของผมก็ยกระดับขึ้นมาก โค้ชที่นั่นรู้งานว่าจะเตรียมความพร้อมให้ผมออกรบยังไง”
“นอกจากนี้รอบกายผมยังเป็นบรรดานักฆ่า บรรดานักกีฬาชั้นนำระดับสูงต่างก็ฝึกซ้อมอยู่ที่นี่ เมื่ออยู่ท่ามกลางพวกเขา มันก็ทำให้สัญชาตญาณของผมเป็นดั่งเสือ นักล่าถ้าไม่ฆ่าก็ถูกฆ่า และแน่นอนว่าพวกเราฝึกหนัก ถูกเคี่ยวกรำ และดูแลช่วยเหลือซึ่งกันและกัน”
การแข่งขันนัดต่อไปของ มาร์ติน จะพบกับบททดสอบสุดโหดของรุ่นเฟเธอร์เวต ธานฮ์ เล ผู้กำลังกระหายการไล่ล่าชัยชนะ หลังโชว์ฟอร์มใน วัน แชมเปียนชิพ 3 ครั้ง เขายังไม่เคยแพ้ใคร และชัยชนะทั้ง 11 ครั้งในชีวิตล้วนมาจากการปิดเกมแบบไม่ครบยกทั้งสิ้น
“เขา (ธานฮ์) เป็นนักสู้ที่เก่ง เคลื่อนไหวเร็ว และพลังเยอะ อย่างที่รู้ๆ ว่าเขามีพื้นฐานเทควันโด เขาชอบทำให้คู่ต่อสู้โจมตีพลาด แล้วสวนกลับด้วยของหนัก ผมแทบอดใจไม่ไหวที่จะได้เจอกับคู่แข่งสไตล์นี้”
“ผมอยากจบเกมนี้ในแบบที่ประทับใจ เพื่อชดเชยให้กับสิ่งที่ผมต้องทุ่มเท วีรกรรมและความสำเร็จของผมจะเป็นแบบอย่างให้คนรุ่นหลัง และเป็นแรงบันดาลใจให้กับพวกเขา”
“ผมอยากให้ทุกคนมองย้อนกลับไปแล้วพูดว่า ‘แชมป์โลกคนนี้เป็นคนที่ทำให้ฉันอยากเข้าสู่วงการกีฬา เป็นคนที่ช่วยผลักดันฉันในทุกๆ วัน เขาสามารถใช้ชีวิตห่างไกลครอบครัวหลายพันไมล์และยังคงเป็นผู้ชายคนเดิม เขาทำผลงานได้ดีที่สุด และอยู่ในระดับสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
สำหรับศึก ONE: INSIDE THE MATRIX วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคมนี้ จะมีการถ่ายทอดสดจาก สิงคโปร์ อินดอร์ สเตเดียม และถ่ายทอดสู่ผู้ชมกว่า 150 ประเทศ แฟนๆชาวไทยสามารถรับชมได้ทาง ONE Super App, YouTube ของ ONE Championship และ AIS Play เวลา 19.30 น. ส่วนไทยรัฐทีวี ช่อง 32 เริ่มเวลา 21.30 น.