ช้างศึกปรับทัพบู๊เสื้อเหลือง เมสซี่เจ,นฤบดินทร์ คืนตัวจริง

ทีมชาติไทยหมดสิทธิ์ใช้งาน มงคล ทศไกร และ พีรพัฒน์ โน๊ตชัยยา เกมดวลมาเลเซียพุธนี้ ซิโก้ตั้งเป้าเก็บชัยการันตีรองรอง ด้านกุนซือมาเลเซียรับไทยแข็งแกร่งแต่ไม่มีทางเลือกต้องชนะสถานเดียวเท่านั้น
 
ซิโก้-เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติไทยออกยอมรับเกมดวลทีมชาติมาเลเซียวันพรุ่งนี้ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน มลคล ทศไกร ปีกขวาตัวเก่งจาก อาร์มี่ ยูไนเต็ด รวมถึง พีรพัฒน์ โน๊ตชัยยา แบ็คซ้ายจาก บีอีซี เทโรศาสน ที่ยังไม่สมบูรณ์
 
ทัพช้างศึกจะลงเล่นที่สนามหญ้าเทียม จาลัน เบซาร์ สเตเดี้ยม พบกับ ทีมชาติมาเลเซีย โดยลูกทีมของซิโก้ต้องการอีก 3 คะแนนเพื่อการันตีการเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศเป็นทีมแรก หลังจากที่นัดเปิดสนามอัดเจ้าภาพสิงคโปร์ ไป 2-1 ส่วนมาเลเซียนัดแรกเสมอกับเมียนมาร์ไป 0-0
 
นายใหญ่ทีมชาติไทยให้สัมภาษณ์หลังนำลูกทีมฝึกซ้อมที่สนามแข่งขันจริงเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า “วันนี้เราปรับโปรแกรมมาซ้อมในช่วงเช้ารอบเดียว เนื่องจากเกรงว่าจะโดนฝนเล่นงานในช่วงเย็นเหมือนเมื่อวานนี้ ทำให้ต้องยกเลิกโปรแกรมซ้อม ซึ่งเกมกับมาเลเซียนั้น มงคล มีอาการบาดเจ็บอยู่ไม่สามารถลงฝึกซ้อมได้ และจะชวดลงสนามแน่นอน ส่วน พีรพัฒน์ ยังไม่สมบูรณ์ทำให้ต้องแยกซ้อมคนเดียว ซึ่งไม่น่าจะเป็นปัญหาเพราะเรามีผู้เล่นที่สามารถทดแทนได้อยู่แล้ว”
 
“การดวลกับมาเลเซียนั้นสิ่งที่เราเป็นรองคือประสบการณ์ของผู้เล่น เพราะดูจากรายการชื่อบางคนยังเคยเล่นสมัยเดียวกับผมด้วย แต่สิ่งที่เราเหนือกว่าคือความสดของผู้เล่น ผมก็จะใช้จุดนี้เล่นงานพวกเขา และเกมนี้ตั้งเป้าจะต้องเก็บ 3 คะแนนให้ได้ เพื่อการันตีการเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศเป็นทีมแรก”
 
ซิโก้กล่าวยังได้พูดถึงการเล่นที่สนามหญ้าเทียมด้วยว่า  “สำหรับการเล่นที่สนามหญ้าเทียมนั้นไม่น่าจะเป็นปัญหาสำหรับทีม ที่ผ่านมาเราได้มีการเตรียมความพร้อมมาพอสมควร ในส่วนของผู้เล่นก็อาจจะมีการปรับเปลี่ยนบ้างบางตำแหน่ง โดยเลือกที่สมบูรณ์ที่สุดลงสนาม โดยจะคงตัวเก่าจากเกมแรกไว้ เนื่องจากทำผลงานได้ดี"
 
ส่วน ดอลลาห์ ซาลเลห์ กุนซือมาเลเซีย กล่าวในการแถลงความพร้อมที่ รร.เอ็ม ว่า "เป็นเกมที่หนักของ เสือเหลือง ทีมไทยแข็งแกร่ง ยิ่งชนะ สิงคโปร์ มาได้ ทำให้ขวัญกำลังใจดีมาก ทีมตนไม่มีอะไรจะเสีย ต้องการเพียงชัยชนะเท่านั้น นัดนี้จะไม่มีกองกลาง แกรี ร็อบแบต ที่ติดโทษแบน"
 
สำหรับผู้เล่น 11 ตัวจริง ที่คาดว่าจะลงสนามของไทย ในระบบ 4-3-3 กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ เป็นผู้รักษาประตู แนวรับจากซ้ายไปขวา ชยพัทธ์ กิจพงษ์ศรีธาดา, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, อดิศร พรหมรักษ์, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม กองกลางสามรายมี สารัช อยู่เย็น, ชาริล ชัปปุยส์ และ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ส่วนสามประสานในแดนหน้าใช้ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์, ศราวุฒิ มาสุข และ กีรติ เขียวสมบัติ ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า
 
สถิติของไทย แชมป์ 3 สมัย(1996,2000,2002) กับ มาเลเซีย แชมป์ 1 สมัย(2010) เคยเจอกันในศึกชิงแชมป์อาเซียน 10 ครั้ง ไทย ชนะ 5 ครั้ง เสมอ 3 ครั้ง และ มาเลเซีย ชนะ 2 ครั้ง ในการดวลแข้งรายการนี้เมื่อสองปีที่แล้ว เจอ 2 นัด รอบรองชนะเลิศ เสมอที่ถิ่น เสือเหลือง 1-1 ก่อนที่นัด 2 ไทยกลับมาชนะ 2-0
 
สำหรับเกมเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2014 ระหว่างทีมชาติไทยพบกับทีมชาติมาเลเซีย จะแข่งขันกันที่สนาม จาลัน เบซาร์ วันพุธที่ 26 พ.ย.นี้เวลา 16.00น.(เวลาไทย) ส่วนอีก 1 คู่ในกลุ่มเดียวกันทีมชาติสิงคโปร์เจ้าภาพจะพบกับทีมชาติเมียนมาร์ ที่สนามเนชั่นแนล สเตเดี้ยม เวลา 19.00น.(เวลาไทย)