เรย์ คาลด์เวลล์ : นักเบสบอลที่รอดตายจากฟ้าผ่า ก่อนลุกขึ้นมาเป็นฮีโร่
มีเรื่องราวประหลาดมากมายเกิดขึ้นขณะแข่งขันกีฬา หนึ่งในเหตุการณ์ที่มีโอกาสเกิดขึ้นคือ "ฟ้าผ่า" ปรากฎการณ์ธรรมชาติ ที่สามารถคร่าชีวิตมนุษย์ในพริบตา หนึ่งในฝันร้ายที่ไม่มีใครอยากเกิดขึ้น
ย้อนกลับไปในปี 1919 เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงสู่สนามเบสบอลในเมืองคลีฟแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา นักเบสบอลรายหนึ่ง ถูกกระแสไฟฟ้ามหาศาลไหลผ่านร่างกาย จนนอนแน่นิ่งหลายนาที แต่นอกจากเขาจะไม่ตาย ผู้ชายคนนี้ยังลุกขึ้นมาเล่นเบสบอล ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
Main Stand เล่าเรื่องราวของ เรย์ คาลด์เวลล์ นักเบสบอลตำแหน่งพิทเชอร์ ที่รอดตายจากเหตุการณ์ฟ้าผ่า ก่อนลุกขึ้นมาเป็นฮีโร่ พาต้นสังกัดคว้าชัยชนะในการแข่งขันที่สำคัญที่สุดในชีวิต
ขี้เมาแห่งนิวยอร์ค
"เขาคือหนึ่งในเพลย์บอยที่มีชื่อเสียงที่สุด คาลด์เวลล์รักเบสบอล แต่เขารักแสงสียามค่ำคืนมากกว่า"
ข้อความที่ปรากฎในนิตยสาร The Sporting News ฉบับเดือนเมษายน ปี 1933 อธิบายอาชีพนักกีฬาของ เรย์ คาลด์เวลล์ เป็นอย่างดี เขามีพรสวรรค์มากพอจะเป็นนักเบสบอลแถวหน้าแห่งทศวรรษ แต่ความสามารถเหล่านั้น ถูกบดบังโดยพฤติกรรมของเขาเอง
Photo : www.pinstripealley.com
คาลด์เวลล์ เริ่มต้นเส้นทางของเขาใน Major League Baseball (MLB) กับทีม นิวยอร์ค แยงกีส์ ในช่วงท้ายฤดูกาล 1910 เขาประเดิมชัยชนะจากเกมเปิดตัว จึงยึดตำแหน่งพิทเชอร์ตัวจริงในฤดูกาลถัดมา คาลด์เวลล์ ทำผลงานชนะ 14 แพ้ 14 ในปี 1911 โดยมีค่าเฉลี่ยเสียรันใน 9 อินนิ่ง (ERA - Earned Run Average) อยู่ที่ 3.35 ถือว่าเป็นผลงานไม่เลวสำหรับผู้เล่นหน้าใหม่
ฤดูกาล 1912 คาลด์เวลล์ ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บที่แขน ผลงานของเขาร่วงหล่นเป็นชนะ 8 แพ้ 16 ค่า ERA เพิ่มขึ้นสู่ 4.47 (ค่า ERA ยิ่งน้อยยิ่งดี) ก่อนจะกลับคืนฟอร์มในฤดูกาลถัดมา คาลด์เวลล์ทำผลงานชนะ 9 แพ้ 8 ในปี 1913 ทั้งที่ นิวยอร์ค แยงกีส์ จบฤดูกาลดังกล่าว ด้วยผลแพ้มากกว่าชนะ
คาลด์เวลล์ขึ้นสู่จุดสูงสุดของอาชีพ ในฤดูกาล 1914 ด้วยผลงานชนะ 17 แพ้ 9 และมีค่า ERA อยู่ที่ 1.94 ช่วงเวลานี้เองที่เขาเริ่มมองตัวเองเป็นซูเปอร์สตาร์ และเริ่มตัวเหลวไหล คาลด์เวลล์เที่ยวกลางคืนอย่างหนัก บ่อยครั้งที่เขาเดินทางมาซ้อมในสภาพมึนเมา หรือขาดซ้อมโดยไม่บอกกล่าว
แฟรงค์ แชนส์ ผู้จัดการทีม นิวยอร์ค แยงกีส์ ขณะนั้น จึงลงโทษด้วยการปรับเงินคาลด์เวลล์หลายครั้ง เนื่องจากเป็นตัวหลักของทีม คาลด์เวลล์พูดคุยกับแฟรงค์ ฟาร์เรล เจ้าของทีม นิวยอร์ค แยงกีส์ ให้ออกคำสั่งยกเลิกโทษปรับเงิน คำขอของพิทเชอร์ตัวเก่งได้การตอบรับอย่างง่ายดาย เนื่องจากเขากลัวว่า คาลด์เวลล์จะไม่พอใจ จนโบกมือลาทีมไปเหมือนผู้เล่นหลายคนก่อนหน้านี้ และการลงมาล้วงลูกโดยเจ้าของทีมนี้เอง ทำให้ แฟรงค์ แชนส์ ต้องประกาศลาออก
ไม่ต่างจากเด็กที่พ่อแม่ตามใจ พฤติกรรมของคาลด์เวลล์หนักข้อขึ้นเรื่อย ๆ ในฤดูกาล 1916 เขาประสบปัญหาอาการบาดเจ็บที่หัวเขา คาลด์เวลล์ใช้เวลาฟื้นฟูร่างกายไปกับการดื่มเหล้า จนชื่อเสียของเขาฉาวโฉ่ในวงการเบสบอล บิล โดโนแวน ผู้จัดการทีม นิวยอร์ค แยงกีส์ คนใหม่ ปิดตาข้างหนึ่งต่อไม่ไหว ลงโทษปรับ และแบนคาลด์เวลล์ 2 สัปดาห์ แต่ผู้เล่นรายนี้ยังไม่สำนึก ไม่กลับมารายงานตัวตามกำหนด จึงถูกโทษแบนตลอดฤดูกาลในเวลาต่อมา
Photo : www.chautauquasportshalloffame.org
อาชีพนักเบสบอลของคาลด์เวลล์ตกต่ำลงเรื่อย ๆ เขาถูกตำรวจจับกุมในข้อหาลักทรัพย์ และขึ้นศาลเนื่องจากถูกฟ้องร้องโดยภรรยา ในที่สุด นิวยอร์ค แยงกีส์ ตัดสินใจเทรดคาลด์เวลล์ แก่ บอสตัน เรดซอก ช่วงกลางฤดูกาล 1918 ยุติช่วงเวลาของเขากับทีมเบสบอลหมายเลขหนึ่งของโลกเพียงเท่านี้
"คาลด์เวลล์คือหนึ่งในพิทเชอร์ที่ดีที่สุดบนโลกใบนี้ แต่นิสัยของเขาทำให้ผู้จัดการทีมทุกคนกังวลใจ หากเขาจัดการชีวิตของตัวเอง และมีความรับผิดชอบมากกว่านี้ เรย์ คาลด์เวลล์ จะเขียนประวัติศาสตร์ ด้วยการเป็นหนึ่งในพิทเชอร์ที่ดีที่สุดตลอดกาล" มิลเลอร์ ฮักกินส์ ผู้จัดการทีม นิวยอร์ค แยงกีส์ ช่วงปี 1918–1929 กล่าวเหตุผลที่เขาเทรดพิทเชอร์ขี้เมาออกจากทีม
ฟ้าผ่าแต่ไม่ตาย
การเซ็นสัญญา เรย์ คาลด์เวลล์ ในวัย 31 ปี ทั้งที่ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บ และชื่อเสียยาวเป็นหางว่าว สร้างความกังวลให้แฟนคลับจำนวนไม่น้อย แต่ บอสตัน เรดซอก มั่นใจว่า พวกเขาสามารถรับมือพิทเชอร์เจ้าปัญหาอยู่หมัด เนื่องจาก เอ็ด แบร์โรว คือผู้จัดการทีมจอมโหด มากกว่าที่คาลด์เวลล์เคยเจอตลอด 9 ปี ที่ นิวยอร์ค แยงกีส์
Photo : www.pinstripealley.com
บางครั้งความผิดพลาดครั้งใหญ่ เริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ บอสตัน เรดซอก จัดห้องพักให้คาลด์เวลล์เป็นรูมเมทกับพิทเชอร์รุ่นน้อง เบ๊บ รูท ที่เห็นชื่อก็รู้แล้วว่าขี้เมาแค่ไหน ผลลัพธ์คาดเดาไม่ยาก คาลด์เวลล์ ถูกปล่อยตัวออกจากทีมตั้งแต่ยังไม่จบฤดูกาล 1919 เนื่องจากพฤติกรรมย่ำแย่ ทั้งที่ผลงานในสนามค่อนข้างดี ด้วยสถิติชนะ 7 แพ้ 4
สิ่งหนึ่งที่คาลด์เวลล์ไม่เคยขาด นอกจากแก้วเหล้าในมือ คือ โอกาส เขาเซ็นสัญญากับ คลีฟแลนด์ อินเดียนส์ ที่กำลังหลังชนฝาไม่แพ้คาลด์เวลล์ ในฤดูกาล 1919 ทริส สปีกเกอร์ ผู้จัดการทีมอินเดียนส์ขณะนั้น ซื้อใจพิทเชอร์พรสวรรค์ ด้วยการยอมให้เขาเมาเต็มที่หลังจบการแข่งขัน และไม่ต้องรายงานตัวในวันถัดมา แต่ต้องฝึกซ้อมมากกว่าคนอื่น เพื่อรีดพิษแอลกอฮอล์จากร่างกาย
Photo : www.mlb.com
5 วันหลังจากการเซ็นสัญญา คาลด์เวลล์ ประเดิมสนามด้วยตำแหน่งพิทเชอร์ตัวจริง ในเกมที่ คลีฟแลนด์ อินเดียนส์ เปิดสนามพบกับ ฟิลาเดลเฟีย แอธเลติกส์ (โอ๊คแลนด์ แอธเลติกส์ ในปัจจุบัน) ท่ามกลางฝนตกหนัก คาลด์เวลล์ ทำผลงานดีตามที่ทีมคาดหวัง เขาก้าวลงสู่สนามเพื่อปิดเกมในอินนิ่งที่ 9 หลังอินเดียนส์ขึ้นนำด้วยสกอร์ 2-1
คาลด์เวลล์ขว้างลูกตัดสินใส่ โจ ดันแกน แบตเตอร์ของแอธเลติกส์ ทันใดนั้น ฟ้าผ่าเปรี้ยงลงสู่สนาม เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว กระแสไฟฟ้าฟาดลงกับราวเหล็กใกล้ที่นั่งสื่อ ก่อนกระจายตัวสู่พื้นสนาม ผู้ชมสับสนอลหม่าน เช่นเดียวกับผู้เล่นในสนาม ที่รับรู้ถึงกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านเข้าสู่ร่างกาย
นักเบสบอลหลายคนได้รับบาดเจ็บในเกมนั้น สตีฟ โอนีล แคทเชอร์ของอินเดียนส์ กระเด็นจากพื้นพร้อมหน้ากาก และหมวกที่ลอยกลางอากาศ แฮร์รี เดวิส หนึ่งในทีมโค้ชของแอธเลติกส์ ผมชี้ฟูเนื่องจากกระแสไฟฟ้า แถมยังดูดผู้เล่นรายอื่น ที่มาเช็คอาการว่าเขาเป็นอะไรหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครอาการหนักเท่าคาลด์เวลล์ พิทเชอร์ของอินเดียนส์อยู่ใกล้ราวเหล็กที่ถูกฟ้าผ่ามากที่สุด กระแสไฟฟ้าพุ่งสู่เขามากกว่าใคร คาลด์เวลล์นอนแน่นิ่งกับพื้นราว 5 นาที มีหลายคนที่คิดว่า เขาเสียชีวิตแล้ว
Photo : sabr.org
"ฟ้าผ่าลงมาจากท้องฟ้า กระแทกเข้ากับพื้นสนามใกล้เนินของพิทเชอร์ หากฟ้าผ่าลงมาตรง ๆ ไม่ว่าใครก็ตามที่โดนคงเสียชีวิต โชคดีที่คาลด์เวลล์ โดนแค่กระแสไฟลูกหลง เขาสลบ และไร้สติอยู่ 5 นาที หลังจากนั้น" คำบรรยายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหนังสือ A History of the Indians
ทันทีที่คาลด์เวลล์ได้สติ เขาปฏิเสธจะเดินทางไปโรงพยาบาล เพื่อเล่นเกมนี้ให้จบดั่งตั้งใจ คาลด์เวลล์ทำได้อย่างที่หวัง เขาขว้างลูกอย่างยอดเยี่ยม จน โจ ดันแกน ไม่สามารถวิ่งเข้าสู่เธิร์ดเบสได้ทัน จบเกม คลีฟแลนด์ อินเดียนส์ เป็นฝ่ายชนะด้วยสกอร์ 2-1
เรย์ คาลด์เวลล์ กลายเป็นฮีโร่ของชาวคลีฟแลนด์ ทั้งที่เพิ่งผ่านประสบการณ์เฉียดตายเพียง 5 นาทีก่อนหน้า
เหตุผลที่รอดตาย
สิ่งหนึ่งที่ผู้คนสงสัยไม่น้อย คือ คาลด์เวลล์รอดตายได้อย่างไร ? แม้เขาจะไม่ถูกสายฟ้าฟาดโดยตรง แต่การอยู่ในบริเวณใกล้เคียง น่าจะทำให้เขาบาดเจ็บพอสมควร อย่างน้อยก็น่าจะเข้าโรงพยาบาล ไม่ใช่ลุกขึ้นมาเล่นเบสบอล เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
Photo : affotd.com
หลังจบการแข่งขัน คาลด์เวลล์ ตรวจร่างกายของตัวเองอย่างละเอียด เขาไม่บาดเจ็บหนักอะไร นอกจากมีแผลไหม้บริเวณหน้าอก คาลด์เวลล์ สัมภาษณ์กับสื่อภายหลังว่า ตัวเขาไม่สัมผัสถึงกระแสไฟฟ้า แต่กลับรู้สึกเหมือนถูกตีหัวด้วยกระดานขนาดใหญ่ จนสลบไปมากกว่า
ผู้เชี่ยวชาญให้ข้อสังเกตว่า คาลด์เวลล์ ได้รับกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ร่างกายผ่านศีรษะ เนื่องจากมีโลหะอยู่ในหมวกเบสบอลของเขา จึงเป็นสื่อนำให้กระแสไฟฟ้าวิ่งผ่าน จนเกิดแผลไหม้ที่หน้าอก อย่างไรก็ดี กระแสไฟฟ้าที่ไหลตามพื้นไม่มากพอจะทำให้เขาเสียชีวิต และยังมีส่วนทำให้เขากลับมาเล่นเบสบอลต่อในเกมที่เหลือ
"เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลตามพื้นดิน ทิศทางของมันจะกระจายไปทั่ว ก่อให้เกิดแรงดันไฟฟ้าบริเวณเท้าของมนุษย์ บางคนสามารถยืนตรงหลังรับกระแสไฟฟ้า ด้วยขาเพียงหนึ่งข้าง ขณะที่ขาอีกข้างไร้เรี่ยวแรง" โจเซฟ ดอว์เยอร์ ศาสตราจารย์ด้านฟิสิกส์ ของมหาวิทยาลับนิวแฮมเชียร์ กล่าว
การรอดตายของคาลด์เวลล์จึงไม่ใช่ปาฏิหาริย์ แตกต่างจากฟอร์มการเล่นของคาลด์เวลล์ ที่ดีขึ้นอย่างน่าประหลาด เขาจบฤดูกาล 1919 กับ คลีฟแลนด์ อินเดียนส์ ด้วยผลงาน ชนะ 5 แพ้ 1 และมีค่า ERA อยู่ที่ 1.71 นี่คือผลงานที่ดีที่สุดในอาชีพของคลาดเวลล์ เพราะหลังจากนั้น เขาลงเล่นกับ คลีฟแลนด์ อินเดียนส์ อีก 2 ฤดูกาล แต่ไม่มีอะไรโดดเด่น
หลังหมดสัญญากับทีมในฤดูกาล 1921 คาลด์เวลล์ ไม่ได้รับโอกาสดั่งที่ผ่านมา เขาเริ่มต้นใหม่กับอีกหลายทีมใน Minor League Baseball แม้จะประสบความสำเร็จกับ แคนซัสซิตี้ บูลส์ แต่ชื่อเสียในเรื่องวินัยของเขา ทำให้หลายทีมเข็ดหลาบ ไม่กล้าดึงตัวกลับสู่ลีกสูงสุด
คาลด์เวลล์เสียชีวิตในปี 1967 เป็นเวลา 48 ปีให้หลังจากเหตุการณ์เฉียดตายในสนาม หลายคนจดจำเขาในฐานะ "นักเบสบอลที่เคยถูกฟ้าผ่า" แต่สำหรับแฟนเบสบอลที่ชมเกมในวันนั้น เรย์ คาลด์เวลล์ คือพิทเชอร์ฝีมือดี ที่กลับมาพิสูจน์ตัวเองได้อีกครั้ง ในฐานะฮีโร่ของทีม คลีฟแลนด์ อินเดียนส์ และหนึ่งในพิทเชอร์ที่ดีที่สุดคนหนึ่ง เท่าที่วงการเบสบอลเคยมี
Photo : www.struckbylightning.org
"เมื่อผู้ประกาศกล่าวว่า เรย์ คาลด์เวลล์ กำลังจะลงสนาม ผู้ชมหลายคนคิดว่าพวกเขาบ้าไปแล้ว แต่อินเดียนส์คือฝ่ายที่ได้หัวเราะในตอนท้าย คาลด์เวลล์ ทำผลงานยอดเยี่ยม พาทีมชนะแอธเลติกส์อย่างง่ายดาย"
"นี่คือการขว้างลูกที่ไม่เลวสำหรับพิทเชอร์คนหนึ่ง ที่หลายคนสงสัยว่าเขาดีพอสำหรับลีกระดับสูงหรือไม่" รายงานผลการแข่งขันเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 1919 ในนิตยสาร The Sporting News สรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นอย่างดีที่สุด