เผยปัจจัยสำคัญ! "นิชิโนะ" ตั้งเป้ายกระดับทีมชาติไทยให้แกร่งขึ้นก่อนลุยปีหน้า
อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย หวังว่าการอุ่นเครื่องกับ ไทยลีก ออล สตาร์ จะทำให้นักเตะหลายคนมีแรงจูงใจมากขึ้นในอนาคต และหวังจะพัฒนานักเตะให้มีมาตรฐานที่สูงขึ้นกว่านี้
โดยทีมชาติไทย เสมอกับทีม ไทยลีก ออล สตาร์ ไป 2-2 ซึ่ง “ช้างศึก ได้สองประตูจาก มานูเอล ทอม เบียรห์ กับ ภานุพงษ์ พลซา ส่วน ไทยลีก ออล สตาร์ ได้ประตูจาก บาร์รอส ทาร์เดลลี่ กับ เลอันโดร อัสซัมเซา
หลังจบเกม อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย กล่าวว่า "เราซ้อมได้ไม่กี่วัน แต่สามารถทำหน้าที่ได้ดี เข้าใจรูปแบบการเล่น มีหลายจังหวะที่ประสานงานกันอย่างที่หวังไว้ได้ เป็นเรื่องที่น่าประทับใจ และเป็นความท้าทายที่ดีสำหรับเรา"
“ไทยลีก ออลสตาร์ สามารถเปลี่ยนตัวยกทีม ทำให้เขาสดกว่า แต่ทีมของเราก็สู้จนถึงวินาทีสุดท้าย ในฐานะโค้ชทีมชาติ หากมองที่ผลการแข่งขัน ย่อมไม่พอใจอยู่แล้ว เพราะเราต้องการชัยชนะ ดังนั้นเราต้องยกระดับของทีมให้ดีขึ้นต่อไป"
"การมีนักเตะใหม่ในทีมชาติ มันเป็นการกระตุ้นและเป็นแรงจูงใจชั้นดี ผมอยากให้นักเตะพัฒนาตัวเองต่อไป การที่เราจะก้าวจากอาเซียนไปสู่เอเชีย จะต้องมีทรัพยากรนักเตะที่มากกว่านี้”
"สำหรับแผนงานหลังจากนี้ เราจะไม่มีเวลาเตรียมทีมชาติแล้ว เราพยายามเพิ่มทางเลือกให้มากขึ้น แคมป์นี้เป็นเป็นแรงกระตุ้นชั้นดีให้กับนักเตะใหม่ ส่วนคนที่ยังไม่ได้ติดทีมชาติจะต้องมีแรงจูงใจ และสู้มากขึ้น"
“ขอบคุณนักเตะทุกคนสำหรับการเก็บตัวแคมป์นี้ ซึ่งเป็นแคมป์สุดท้ายของปี เรามีเวลาอยู่ด้วยกันแค่ 5 วันเท่านั้น หวังว่าทุกคนจะเอาสิ่งที่ได้ไปพัฒนาตัวเอง เพื่อกลับมาในแคมป์หน้าให้ได้”
“ผมเสียดายที่มีนักเตะบางคนได้รับบาดเจ็บ แต่ทุกคนอย่าเพิ่งท้อ อยากให้กลับไปฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาฟิตอีกครั้ง”
“เมื่อวานแฟนบอลอาจไม่เยอะ เนื่องจากไม่ใช่เกมอย่างเป็นทางการ แต่การสวมเสื้อทีมชาติเป็นสิ่งน่าภูมิใจเสมอ ผมเห็นหลายคนภูมิใจที่ได้ลงสนามในนามทีมชาติถือเป็นเรื่องที่ดี หลังจากนี้อยากให้ทุกคนกลับไปแย่งตำแหน่งตัวจริงในสโมสรให้ได้”
“อยากให้ทุกคนตั้งเป้าหมายไว้สูงๆ เริ่มจากต้องยึดตัวจริงของสโมสรให้ได้ ต้องลงเล่นสม่ำเสมอ และวางเป้าหมายกลับมาติดทีมชาติไทยอีกครั้ง ทุกคนรู้ว่าจะต้องทำอย่างไร อีกอย่างที่ฝากไว้คือ แม้ร่างกายเราจะดีแค่ไหน แต่ถ้าสภาพจิตใจไม่ดี อาจทำให้ผลงานออกมาไม่ดี ดังนั้นเราต้องพัฒนาทั้งสองอย่างไปพร้อมกันทั้งร่างกายและจิตใจ”
“ไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาสั่งผมว่าต้องเลือกคนนั้นคนนี้มาติดทีมชาติไทย ถ้าได้ลงสนามเสมอ มีความฟิตที่ดี ทุกคนมีโอกาสติดทีมชาติไทย ผมและทีมงานสต๊าฟฟ์โค้ชจะเลือกผู้เล่นที่ดีที่สุดมาติดทีมในปีหน้า”
สำหรับทีมชาติไทย จะมีโปรแกรมลงแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก อีก 3 นัด พบ สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์, อินโดนีเซีย และมาเลเซีย รวมถึงฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน ซึ่งจะแข่งขันกันในช่วงต้นปีหน้า
อัลบั้มภาพ 24 ภาพ