24 แข้งเสริมทัพ 'หงส์แดง' ยุคบีร็อด 'ผ่าน' หรือ 'ไม่ผ่าน'
ทุกวันนี้.. ในสังคมโลกแวดวงลูกหนัง 1 ประเด็นที่กำลังเป็นที่พูดถึงกันมากที่สุด ซึ่งถ้ามาเปิดดูหน้าหนังสือพิมพ์, นิตยสาร หรือ อินเตอร์เน็ตตามเว็บไซต์ต่างๆ ก็คงไม่พ้นเรื่องฟอร์มอันย่ำแย่ของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้
จากการเป็นถึงว่าที่ลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก เมื่อปีที่แล้ว ดิ่งสู่ช่วงเวลาอันแสนเลวร้ายอีกคราในฤดูกาล 2014-15 ณ ปัจจุบันมีหลากหลายเหตุผลเกิดขึ้นและกำลังเป็นที่ถกเถียงกันว่ามันเป็นเพราะอะไร???
มันอาจจะเป็นเรื่องที่ใครๆ เขาก็พูดกันมานานแล้ว แต่มันก็เป็นเรื่องที่เหมาะแก่การนำมาเล่าใหม่นะ...
แน่นอน เรื่องแรกเลยที่เห็นได้ชัด คือ การขาดหายไปของ ดาวยิงขวัญใจ "เดอะ ค็อป" นั่นก็คือ หลุยส์ ซัวเรซ นั่นเอง ชัดยังไง???
31 ประตูของเขานั้นก็น่าจะทำให้พอนึกภาพออกและคิดได้ว่า มันช่วยให้ ลิเวอร์พูล นั้นเก็บได้กี่แต้ม ในฤดูกาลที่แล้ว แต่ตอนนี้ผ่านไปแล้ว 12 เกมลีก ดาวซัลโวของทีมกลับกลายเป็นเจ้าหนู ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ที่ส่งบอลเข้าตาข่ายไปเพียง 3 ประตูเท่านั้น
ความจริงแล้วสถานการณ์ของ "หงส์แดง" มันคงไม่ย่ำแย่แบบนี้หรอก หากว่า แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ หัวหอกขาแดนซ์ไม่เจ็บซ้ำถึง 3 ครั้ง และต้องพักยาวไปจนถึงช่วงสิ้นปี 2014 เพราะเขาก็มักจะยิงประตูได้ค่อนข้างสม่ำเสมอไม่แพ้ "หม่อมเหยิน" เลย แต่ทำยังไงได้ก็คงต้องไปโทษเรื่องโชคชะตาแล้วล่ะ
การไปของ ซัวเรซ ทำให้ ลิเวอร์พูล ได้เงินจาก บาร์เซโลน่า มาถึง 75 ล้านปอนด์ (3,750 ล้านบาท) ซึ่งมันเป็นเงินที่มหาศาลมาก และสามารถดึงตัวสตาร์ดังมาร่วมทีมได้ถึง 2-3 คนเลยทีเดียว
"หงส์แดง" ได้กองหน้าตัวใหม่มา 2 ราย ซึ่งได้แก่ ริคกี้ แลมเบิร์ต จาก เซาธ์แฮมป์ตัน และ มาริโอ บาโลเตลลี่ จาก เอซี มิลาน
แน่นอนว่า การได้ แลมเบิร์ต มา ความคาดหวังนั้นน่าจะมาเพื่อเป็นตัวสำรอง เป็นอะไหล่เสริม เผื่อว่า สเตอร์ริดจ์ ขาแดนซ์ และ "น้องโอ้" บาโลเตลลี่ จะมีอาการบาดเจ็บ
และแล้วปัญหามันก็เกิดขึ้นเมื่อใครต่อใครต่างก็คาดหวัง และต่างก็ออกมาอวยว่า "เจ้าเกรียนโอ้" นี่แหละจะเป็นตัวตายตัวแทนของ หลุยส์ ซัวเรซ
แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นมันตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง บาโลเตลลี่ ยังยิงให้ ลิเวอร์พูล ไม่ได้เลยแม้แต่ลูกเดียวในเวที พรีเมียร์ลีก หลังจากผ่านไปแล้ว 12 เกม
แถมยังปรับตัวไม่ค่อยได้และไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับทีมอีกด้วย รวมไปถึงผู้เล่นหลายๆ คนที่ทีมได้เสริมทัพมา ต่างก็ยังตอบแทนค่าตัวที่ทุ่มทุนซื้อมาไม่ค่อยได้เลย
และนี่ก็คือปัญหาหนึ่งที่เป็นส่วนสำคัญทำให้ "หงส์แดง" ฟอร์มออกทะเลไปไกล และเป้าหมายที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องนี้นั้นก็คือกุนซือของพวกเขา "เบรนแดน ร็อดเจอร์ส"
บี-ร็อดประกาศขอมาร่วมเดียวดายกับลิเวอร์พูล..
"บีร็อด" ได้ย้ายจาก สวอนซี ซิตี้ มากุมบังเหียนทัพ ลิเวอร์พูล เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ปี 2012 แทนที่ "คิงเคนนี่" เคนนี่ ดัลกลิช และนับตั้งแต่นั้นจนถึงปัจจุบัน เขาได้เสริมทัพนักเตะมาร่วมใช้ชีวิตในรั้ว แอนฟิลด์ ถึง 24 ชีวิต เดี๋ยวเราจะไปว่ากันว่ามีใครกันบ้าง
"...แต่ก่อนอื่นมีสถิติจากทาง "เดลี่เมล" สื่อกีฬาชื่อดังแดนผู้ดีมาบอก ซึ่งมันได้ระบุเอาไว้ว่า ร็อดเจอร์ส นั้นได้ใช้เงินไปทั้งสิ้น 214.4 ล้านปอนด์ (เป็นเงินไทยก็ 1 หมื่นล้านกว่าบาท) ในการเสริมทัพ โดยแบ่งเป็นผู้เล่นกองหน้าและกองกลาง 148.4 ล้านปอนด์ (ราว 7,500 ล้านบาท) คิดเป็น 72 เปอร์เซนต์ของทั้งหมด ส่วนทีเหลืออีก 66 ล้านปอนด์ (3,300 ล้านบาท) เป็นกองหลังและนายทวาร..."
1. ฟาบิโอ บอรินี่ (10.5 ล้านปอนด์ จาก โรม่า)
บอรินี่ เป็นผู้เล่นที่ "บีร็อด" ชื่นชอบมาก หลังเคยร่วมงานกันตอนอยู่ที่ เชลซี และพอได้ย้ายมาใช้ชีวิตยังถิ่น แอนฟิลด์ เจ้าตัวก็ยิงได้ 1 ประตูในเกม ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ที่เจอกับ โกเมล รอบคัดเลือก
ก่อนที่จะต้องเจอกับฝันร้ายเนื่องจากต้องโดนพิษอาการบาดเจ็บเล่นงานอย่างหนัก ก่อนที่จะกลับมาและซัดตุงแรกใน พรีเมียร์ลีก ได้ในนัดที่ยำใหญ่ นิวคาสเซิ่ล 6-0
จากนั้นเขาก็ยิงไม่ได้อีกเลย แต่กลับโชว์ฟอร์มได้ดีในศึก "ยูโร" ยู-21 ปีกับทีมชาติ อิตาลี ก่อนถูกปล่อยตัวไปอยู่กับ ซันเดอร์แลนด์ แบบยืมตัว
ทำผลงานได้ดีใช้ได้ ยิงได้ 10 ประตูจาก 40 เกม และก็ได้กลับมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ในปีนี้ แต่ก็ยังไม่ค่อยได้รับโอกาสลงเล่น ซึ่งถ้าวัดด้วยรวมแล้วผลงานกับ "หงส์แดง" ถือว่า "ไม่ผ่าน"
2. โจ อัลเลน (15 ล้านปอนด์ จาก สวอนซี ซิตี้)
ถือเป็นย้ายมาร่วมงานกับ ร็อดเจอร์ส อย่างต่อเนื่องที่ ลิเวอร์พูล หลังเคยร่วมงานกันมากับ สวอนซี ซิตี้ และในปีนั้นก็ถือว่าทำผลงานได้ค่อนข้างดี จนได้ชื่อว่าเป็น "ชาบี เอร์นานเดซ" ของ เวลส์
แต่ปีถัดมาเขาต้องสูญเสียตำแหน่งตัวจริงให้กับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ถึงแม้ อัลเลน จะเคยมีสถิติผ่านบอลสำเร็จ 99 เปอร์เซนต์ แต่เขากลับเล่นเกมรุกและรับได้ไม่ค่อยดีเลย
และตอนนี้ก็ยังทวงตำแหน่งจาก "เฮนโด้" กลับมาไม่ได้ ทาง "เดลี่เมล" จึงประเมินออกมาว่า "ไม่ผ่าน" กับการเล่นให้ "หงส์แดง"
3. อุสซาม่า อัสไซดี้ (2.4 ล้านปอนด์ จาก ฮีเรนวีน)
อัสไซดี้ ย้ายมาตอนปี 2012 และโชว์ฟอร์มได้ดีกับ "หงส์แดง" ในช่วงปรีซีซั่น แต่แล้วในสังเวียนจริง พรีเมียร์ลีก เจ้าตัวได้ลงไปแค่ 4 เกมเท่านั้น และยิงประตูไม่ได้เลย
ก่อนจะถูกปล่อยตัวไปอยู่กับ สโต๊ต ซิตี้ เมื่อซีซั่นที่แล้ว และผลงานเข้าตามาก ซึ่งลูกยิงที่ติดตาผมก็คือลูกสุดสวยที่ยิงให้ทีมบดเอาชนะ เชลซี 3-1 จากนั้น "ช่างปั้นหม้อ" ก็ได้เรียกใช้บริการยืมอีกครั้งในปีนี้
ดังนั้นถ้าวัดแค่ผลงานกับ ลิเวอร์พูล ถือว่า "ไม่ผ่าน" อย่างเห็นได้ชัด
4. ซาเหม็ด เยซิล (1 ล้านปอนด์ จาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น)
รายนี้อาจจะชัดเจนว่าเป็นการเซ็นสัญญาที่ "ไม่ผ่าน" เนื่องจากคว้าตัวมาตอนอายุแค่เพียง 18 ปี ดังนั้นเป็นเรื่องยากไม่น้อยที่จะได้แจ้งเกิดกับทีมชุดใหญ่
เยซิล ไม่เคยได้โอกาสลงเล่นให้ ลิเวอร์พูล เลย ก่อนจะมาเจ็บหนักตอนเล่นให้กับทีมสำรองเมื่อปีที่แล้ว แต่ก็ถือว่ายังมีเวลาให้พิสูจน์และพัฒนาตัวเอง เพราะอายุยังน้อย
ฉะนั้น ณ เวลานี้ การประเมินก็ต้องออกมาเป็น "ไม่ผ่าน" ไปก่อนนะ
5. นูริ ซาฮิน (ยืมตัว จาก เรอัล มาดริด)
ตอนอยู่กับ เรอัล มาดริด ก็เป็นฝันร้ายอยู่แล้ว พอได้ย้ายมาอยู่กับ "หงส์แดง" ฝันร้ายนั้นก็ยังคงไม่หายไปเสียที เพราะ ซาฮิน นั้นได้ลงเล่นเกมลีกไปเพียง 4 นัดเท่านั้นตลอด 3 ปีที่ผ่านมา
ก่อนที่จะถูกปล่อยตัวกลับไปยัง ซานติอาโก้ เบร์นาเบว แต่ตอนนี้เขาก็ได้ย้ายกลับไปบ้านเก่าที่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
6. แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ (12 ล้านปอนด์ จาก เชลซี)
จากความตกอับตอนอยู่กับ เชลซี เหมือน สเตอร์ริดจ์ จะได้เจอกับทางที่ใช่เสียที เมื่อได้ปลงใจโยกมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล เมื่อช่วงต้นปี 2013 และก็ได้กลายเป็นที่รักของสาวก "เดอะ ค็อป" ทันที
หลังจากได้เบิกสกอร์แรกในสีเสื้อ "หงส์แดง" โดยใช้เวลาเพียงแค่ 3 เกมเท่านั้น ก่อนที่จบฤดูกาลเจ้าตัวนั้นส่งบอลเข้าตุงตาข่ายไปทั้งสิ้น 11 ประตูจาก 16 เกมรวมทุกรายการ ถือว่าผลงานดีไม่เบาเลยทีเดียว
เขาเข้าขากับ หลุยส์ ซัวเรซ เป็นอย่างดีจนได้นิกเนมว่าเป็นคู่ดูโอ้ "SAS" พอถึงซีซั่น 2013-14 สเตอร์ริดจ์ ก็ยิ่งทำให้แฟนๆ ลิเวอร์พูล รักเขามากขึ้นไปอีก หลังจากยิงได้ 24 ประตูจาก 33 เกมรวมทุกรายการ
และมีส่วนสำคัญทำให้ "หงส์แดง" มีลุ้นคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ครั้งแรกในรอบ 24 ปีอีกด้วย และถึงแม้ปีนี้จะเจ็บหนักจนสถานการณ์ของทีมคับขัน แต่ผลงานโดยรวมถือว่ายอดเยี่ยมมาก "ให้ผ่าน"
7. ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ (8.5 ล้านปอนด์ จาก อินเตอร์ มิลาน)
การได้ตัว คูตินโญ่ มาร่วมทีมถือว่าคุ้มมากๆเลยทีเดียว เพราะตอนนี้เขาเป็นเหมือนมันสมองของทีม
เขาเป็นเหมือน หลุยส์ การ์เซีย เมื่อยุคก่อน ทั้งเรื่องเทคติก, ความคล่องแคล่ว, การจ่ายบอล ถ้าเปรียบเป็นผลสอบก็คงต้องติ๊ก A ให้ทั้งหมด จะขาดก็แต่เรื่องของการยิงประตูเท่านั้น
แต่อย่างไรก็ตาม แค่นี้มันก็ไม่รู้จะดียังไงแล้ว แค่นี้ก็สร้างปัญหาให้กับคู่แข่งปวดหัวปวดตับจะตายแล้ว จากคำพูดที่ยกยอเช่นนี้มันต้อง "ให้ผ่าน" แน่นอน
8. ติอาโก้ อิลอรี่ (7 ล้านปอนด์ จาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน)
นับว่าเป็นการย้ายตัวที่มีค่าตัวแพงมากสำหรับนักเตะดาวรุ่งวัย 21 ปีที่ขนาดอยู่กับทีมเก่ายังแทบไม่ค่อยได้โอกาสลงเล่นเลย
แน่นอนว่าการย้ายมาและจะแจ้งเกิดกับทาง ลิเวอร์พูล ได้เลยนั้นคงเป็นไปไม่ได้ เพราะจะต้องเรียนรู้ และปรับตัวอะไรอีกเยอะ ปีแรกที่ย้ายมาก อิลอรี่ ก็ยังไม่ได้ลงเล่นให้กับ "หงส์แดง" แม้แต่เกมเดียว
และจากนั้นก็ถูกปล่อยตัวไปอยู่กับ กรานาด้า แบบยืมตัว และซีซั่นนี้ก็อยู่ที่ บอร์กโดซ์ แบบยืมตัวเช่นกัน
9. อาลี ซิสโซโก้ (ยืมตัว จาก บาเลนเซีย)
หลังจากที่ โฆเซ่ เอ็นริเก้ ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าอย่างหนักจนต้องเข้ารับการผ่าตัดรักษา ลิเวอร์พูล ก็ได้จัดการยืมตัว ซิสโซโก้ มาร่วมทีม
แต่ดูเหมือนจะปรับตัวและเล่นเข้ากับทีมไม่ค่อยได้ ก่อนที่ตัวเลือกก่อนหน้าเขาจะตกเป็น จอห์น ฟลานาแกน ที่โชว์ฟอร์มได้ดีกว่า ดังนั้นการปรับตัวและเล่นร่วมกันไม่ได้มันก็ "ไม่ผ่าน" นะจ๊ะ
10. วิคเตอร์ โมเสส (ยิมตัว จาก เชลซี)
จากการที่ไม่อยู่ในแผนการทำทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่ เชลซี ทำให้ โมเสส ต้องดันทุรังตัวเองออกมา และก็มี ลิเวอร์พูล ที่อาสารับเลี้ยงไว้
และก็โชว์ฟอร์มได้ดีอีกด้วยในช่วงแรกด้วยการยิงประตูใส่ สวอนซี ซิตี้ แต่แล้วโอกาสของเขาก็ต้องถูกจำกัดลงไป เมื่อ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ได้งัดฟอร์มอันยอดเยี่ยมออกมา
และตั้งแต่นั้นเขาก็เป็นตัวหลักจนถึงทุกวันนี้ จึงทำให้ โมเสส นั้นต้องได้รับการประเมินว่า "ไม่ผ่าน" ในที่สุด
11. มามาดู ซาโก้ (18 ล้านปอนด์ จาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง)
ตอนอยู่กับ "เปแอสเช" ซาโก้ นั้นถือว่าเป็นกำลังสำคัญเลยนะ แต่พอได้ย้ายมาอยู่ในถิ่น แอนฟิลด์ ก็ดูเหมือนจะเงอะงะจับบอลไม่ค่อยอยู่กับเท้า หรือเรียกสั้นๆว่า ไม่ค่อยคล่องตัวนั่นเอง
ที่ยิ่งไปกว่านั้นเวลาเขาได้บอลจากเพื่อนหรือเบียดปะทะกับคู่แข่งมักจะทำให้สาวก "เดอะ ค็อป" ใจตกไปอยู่ตาตุ่มตลอดเลย
แม้จะเป็นถึงกัปตันทีมตอนอยู่กับ ฝรั่งเศส แต่กับ ลิเวอร์พูล เขาดูไม่ค่อยจะเป็นที่น่าเชื่อถือสักเท่าไหร่ ผลงานอ้อนแอ้นแบบนี้ "ไม่ผ่าน" นะ
12. โคโล่ ตูเร่ (ฟรีเอเยนต์ จาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
ตอนแรกดูเหมือนจะเป็นนักเตะที่คุ้มค่าสำหรับการเสริมทัพของ ร็อดเจอร์ส เนื่องจากได้ตัวมาแบบฟรีๆ แถมยังมีประสบการณ์มาโชกโชนอีกด้วย
แต่แล้วมันก็ไม่เป็นแบบนั้นเพราะพี่แกเล่นทำผิดพลาดเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นการทำเข้าประตูตัวเองในเกมกับ ฟูแล่ม, จ่ายบอลพลาดให้ วิคเตอร์ อนิเชเบ้ ยิงได้ในเกมกับ เวสต์บรอมฯ
จากนั้นเขาก็แทบไม่ได้รับความไว้วางใจให้ยืนเฝ้าหลังบ้านอีกเลย จะมาได้เล่นก็ต่อเมื่อผู้เล่นขาดอะไรประมาณนั้น แต่เขาก็มาโชว์ฟอร์มได้ดีในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที แพ้ เรอัล มาดริด แค่ 0-1 (ต้องย้ำว่าแค่ 0-1 เพราะสำรองทั้งทีม)
ซึ่งวันนั้นดูเหมือนพี่แกจะเอา คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้อยู่หมัดเลยทีเดียว แต่โดยรวมก็ยัง "ไม่ผ่าน"
13. ซิมง มินโญเล่ต์ (9 ล้านปอนด์ จาก ซันเดอร์แลนด์)
มินโญเล่ต์ เปิดตัวกับ ลิเวอร์พูล ได้อย่างยอดเยี่ยม หลังโชว์เซฟจุดโทษอันสวยหรูในนาทีที่ 89 เกมที่ชนะ สโต๊ค ซิตี้ 1-0 ซึ่งปีนั้นเขาผลงานดีมาก ป้องกันลูกยากได้มากมายและมีส่วนสำคัญอย่างมากที่ช่วยให้ทีมมีถึงลุ้นแชมป์ลีกอีกด้วย
แต่ผลงานในฤดูกาลนี้มันตรงกันข้ามเสียจริง ส่วนหนึ่งเลยอาจจะเป็นเพราะฟอร์มการเล่นของทีมโดยรวมที่ดร็อปลงไป ซึ่งถ้าวัดกันแล้ว ทาง "เดลี่เมล" เขาไม่ให้ผ่านอะ...
14. ยาโก้ อาสปาส (7.2 ล้านปอนด์ จาก เซลต้า บีโก้)
ตอนย้ายมาอยู่กับ "หงส์แดง" ใหม่ๆ อาสปาส ก็แผลงฤทธิ์ทันที หลังจากโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในช่วงทัวร์ปรีซีซั่น ยิงประตูได้มากมาย แต่สุดท้ายมันก็ตรงกับสำนวนไทยที่ว่า "สิงห์สนามซ้อม"
เพราะเมื่อถึงบททดสอบจริงในช่วงที่ หลุยส์ ซัวเรซ ยังติดโทษแบน เจ้าตัวกลับโชว์เก่งไม่ออกเลย ยิงประตูไม่ได้สักลูกเดียว แถมยังไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับทีมอีกด้วย จนสุดท้ายเมื่อ ซัวเรซ กลับมา อาสปาส ก็ต้องนั่งดองยาวไป ดังนั้นเขาคือการเซ็นสัญญาที่ "ไม่ผ่าน"
15. หลุยส์ อัลเบร์โต้ (6.8 ล้านปอนด์ จาก เซบีย่า)
นี่ก็ถือเป็นนักเตะดาวรุ่งอีกคนหนึ่งของ ลิเวอร์พูล ที่ย้ายทีมมาด้วยค่าตัวที่ค่อนข้างแพง อัลเบร์โต้ ไม่ค่อยได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงกับ "หงส์แดง" โดย 10 นัดที่ได้ลงเล่นเมื่อปีที่แล้วเป็นสำรองก่อนทั้งหมด
แม้จะเอาชนะใจ ร็อดเจอร์ส ไม่ได้ในสังเวียนทีมชุดใหญ่ แต่เมื่อได้ลงไปเล่นให้ทีมสำรองเจ้าตัวเล่นดีมาก แถมยังเคยกดแฮตทริกได้อีกด้วย ดังนั้นก็เป็นอีก 1 นักเตะที่ต้องใช้เวลาพัฒนาฝีเท้าต่อไป ดังนั้นตอนนี้ยัง "ไม่ผ่าน" นะ
16. ริคกี้ แลมเบิร์ต (4 ล้านปอนด์ จาก เซาธ์แฮมป์ตัน)
แม้จะผลงานแจ่มระเบิดระเบ้อแค่ไหนกับทัพ "นักบุญ" แต่อย่างที่บอกไปการที่ ลิเวอร์พูล ได้ดึงตัวเขามาร่วมทีมนั้นเหมือนมาเป็นตัวอะไหล่ของ บาโลเตลลี่ และ สเตอร์ริดจ์
เนื่องจากว่ามีอายุเยอะแล้ว ซึ่งความจริงหลายคนคงคิดถ้า "บีร็อด" ส่งเขาลงสนามบ่อยๆ ผลงานของทีมอาจจะไม่แย่แบบนี้ก็เป็นได้
โดยเรื่องของผลงานนั้นจะดีหรือไม่นั้นยังไม่มีใครรู้ แต่การที่ไม่ถูกส่งลงเล่นก็นับว่า "ไม่ผ่าน" เช่นกัน
17. อดัม ลัลลาน่า (25 ล้านปอนด์ จาก เซาธ์แฮมป์ตัน)
อาจจะเป็นเรื่องที่ผิดพลาดก็เป็นได้เมื่อ ลัลลาน่า ได้ย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล เพราะย้ายมาปุ๊บก็เจออาการบาดเจ็บเล่นงานปั๊บ ต้องพักไปราวๆ 6 สัปดาห์เลยทีเดียว
แต่เขาก็ค่อยๆ กลับคืนสู่ทีมได้แล้ว และได้ลงเล่นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลัง แต่ผลงานนั้นยังไม่เปรี้ยงปร้างเหมือนตอนอยู่กับ เซาธ์แฮมป์ตัน ฉะนั้น ลิเวอร์พูล และ "เดอะ ค็อป" ต้องให้เวลาเขาหน่อย
ดังนั้นนี้ถือว่ายัง "ไม่ผ่าน" ไปก่อนนะ เพราะตอนแรกหลายฝ่ายคาดหวังกันเอาไว้เยอะว่าเขานั้นจะย้ายมาและปรับตัวได้ทันที
18. เอมเร่ ชาน (10 ล้านปอนด์ จาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น)
เช่นเดียวกับ ลัลลาน่า เลย เพราะ ชาน นั้นย้ายมาปุ๊บก็เจ็บปั๊บเช่นกัน ด้วยวัยแค่ 20 ปีแต่กลับโชว์ฟอร์มได้ดีเหลือเกินตอนอยู่ที่ เยอรมัน
ชาน เป็นนักเตะที่มีร่างกายแข็งแรงและคล่องแคล่วมาก และตอนนี้เขาก็เริ่มมีบทบาทมากขึ้นแล้วกับ ลิเวอร์พูล เพียงแต่ต้องให้เวลากันอีกสักหน่อย ด้วยวัยแค่นี้ยังพัฒนาฝีเท้าได้อีกเยอะ
19. ฆาเบียร์ มานกีโญ่ (ยืมตัว มาจาก แอตเลติโก มาดริด)
แบ็กขวาดาวรุ่งรายนี้ยังคงด้อยประสบการณ์ดังในเกมใหญ่ๆ หรือการเล่นในเกมที่ต้องรับมือกับความกดดันสูง เพราะตอนอยู่กับ "ตราหมี" เขาก็แทบไม่ได้โอกาสลงเล่นสักเท่าไหร่ 3 ปีรวมกันยังได้เล่นไม่ถึง 20 เกมเลย
ฉะนั้นไม่แปลกถ้ามาอยู่กับ ลิเวอร์พูล แล้วจะยังดูเกร็งๆ และไม่ค่อยจะทันเพื่อน แต่ถ้าเกิดมองแววในการเล่นเกมรุกและรับนั้น ถ้าพัฒนาได้มากกว่านี้อีกหน่อยนับว่าโอเคเลย สามารถแทน เกล็น จอห์นสัน ได้ ถ้าเกิดได้ตัวมาร่วมทีมในอนาคต
20. อัลแบร์โต้ โมเรโน่ (12 ล้านปอนด์ จาก เซบีย่า)
ถ้าพูดถึง โมเรโน่ ช็อตที่ทุกคนน่าจะจำได้คือจังหวะตัดบอลจากคู่แข่งและลากลุยเดี่ยวขึ้นมาจากแดนของตัวเอง ก่อนยิงเต็มข้อ บอลเลียดไปที่เสาไกลเข้าตุงตาข่ายไปในเกมที่ชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 3-0
แต่ถ้าดูที่เกมอื่นดีๆ เขามักจะหลุดตำแหน่งบ่อยครั้ง บุกขึ้นไปและลงมารับไม่ทันบ้างแหละ แถมยัง "เหลี่ยมไม่ค่อยดี" เบียดปะทะกับคู่แข่งไม่ค่อยจะชนะสักเท่าไหร่ ดังนั้นเรื่องไม่ดีมากกว่า "เดลี่เมล" เลยประเมินมาว่า "ไม่ให้ผ่าน"
21. ดิว็อค โอริกี้ (10 ล้านปอนด์ จาก ลีลล์)
"หงส์แดง" ได้ตัว โอริกี้ มาครอบครองแล้วก็จริง แต่ก็ปล่อยให้ ลีลล์ ยืมต่ออีก 1 ปี หัวหอกวัย 19 ปีโชว์ฟอร์มได้ดีกับ "ตราหมา" เมื่อซีซั่นที่แล้ว ยิงได้ 6 ประตูจาก 35 เกม ซึ่งถือว่าใช้ได้กับอายุแค่นี้
แต่ตอนนี้ตะบันไปแล้ว 4 ประตู ซึ่งแน่นอนว่าดีขึ้นกว่าปีก่อน แต่จากการที่นักเตะยังไม่ลองบททดสอบกับ ลิเวอร์พูล ก็ยังถือว่า "ไม่ผ่าน" ไปก่อนนะ
22. เดยัน ลอฟเรน (20 ล้านปอนด์ จาก เซาธ์แฮมป์ตัน)
ลิเวอร์พูล ยอมทุ่มเงินก้อนโตคว้าตัว ลอฟเรน มาร่วมทีม เพื่อหวังที่จะแก้ไขปัญหาในแนวรับที่ค่อนข้างรั่ว และยังเพื่อเป็นการหาผู้เล่นหน้าใหม่ที่ยังหนุ่มยังแน่นเข้ามาแทนที่ ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ อีกด้วย
แต่เมื่อดูจากผลงานของทีมในตอนนี้ เก็บคลีนชีทได้แค่ 2 จาก 12 เกม ดูแล้วตอนนี้ ลอฟเรน ก็ยังช่วยทีมแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ไม่ได้ ดังนั้นเอา "ไม่ผ่าน" ไปแล้วกัน
23. ลาซาร์ มาร์โควิช (20 ล้านปอนด์ จาก เบนฟิก้า)
นี่ก็เป็นนักเตะอายุน้อยอีกคนหนึ่งที่ ลิเวอร์พูล ยอมจ่ายเงินถึง 20 ล้านปอนด์ (100 ล้านบาท) และตอนแรกดูเหมือนจะฝากผีฝากไข้นักเตะรายนี้ได้นะ
เพราะช่วงทัวร์ปรีซีซั่นนั้นผลงานสุดยอดมากๆ ทั้งการโชว์เทคนิคและความว่องไว แต่ก็เหมือนกับ อาสปาส แหละที่เป็น "สิงห์สนามซ้อม"
พอถึงเวลาจริงๆ ก็เล่นไม่ออก ได้แต่เลี้ยงเอาแต่วิ่งก้มหน้าก้มตา และเล่นร่วมกับทีมได้ไม่ค่อยดี ซึ่งค่าตัวเท่านี้และผลงานแบบนี้ ยังไงก็ "ไม่ผ่าน" แหละคับ
24. มาริโอ บาโลเตลลี่ (16 ล้านปอนด์ จาก เอซี มิลาน)
พอมาถึงเจ้าตัวนี้เล่นเอาปวดหัวเลยทีเดียว ก่อนจะย้ายมานั้น โอ้โห! แต่ละคนต่างก็อวยว่า จะมาแทนที่ หลุยส์ ซัวเรซ ได้อย่างแน่นอน เพราะเป็นนักเตะที่มีชื่อชั้นระดับโลก
แต่พอเอาเข้าจริงๆ 12 เกมผ่านไปยังคงหาประตูแรกในเกมลีกไม่เจอเลย และนับตั้งแต่ย้ายมาจนถึงตอนนี้ก็มีเรื่องให้วิจารณ์ตลอด ทั้งพฤติกรรมเกรียน เรื่องฟอร์มการเล่น รวมถึงเรื่องทัศนคติ
จนตอนนี้ "เจ้าเกรียนโอ้" ได้ชื่อว่าเป็นกองหน้าที่ห่วยที่สุดในตอนนี้ จะเอาไปเปรียบเทียบกับคนอื่นว่าใครกากกว่า ส่วนมาก ณ ปัจจุบัน ก็จะตอบไอเนี่ยแหละ จะไปถามใครว่าอยากได้ บาโลเตลลี่ ไปร่วมทีมไหม? มีแต่คนเงียบใส่ บางคนก็ส่ายหัว
ซึ่งความหมายแบบนี้น่าจะเข้าใจกันดี แต่จะทำไงได้ก็ต้องทนและค่อยๆ หาทางแก้ไขกันต่อไป ดังนั้นผลการประเมินที่จะออกมาว่า "ผ่าน" หรือ "ไม่" นั้นก็คงเดากันได้นะ...
***เห็นได้ชัดว่า การเสริมทัพของ "บีร็อด" ทั้ง 24 คน นักเตะที่คุ้มค่าที่สุดกลับมีแค่ 2 คนเท่านั้น ซึ่งได้แก่ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ และ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ซึ่งถ้า เบรนแดน ร็อดเจอร์ ยังเรียนอยู่ ผลการเรียนที่ออกมาถือว่าเขานั้น "สอบตกสุดๆ"
HaMu