30 ปีไม่มีวันตาย : คริส เจอริโก กับการเป็นนักมวยปล้ำที่แฟนตกหลุมรักนาน 3 ทศวรรษ

30 ปีไม่มีวันตาย : คริส เจอริโก กับการเป็นนักมวยปล้ำที่แฟนตกหลุมรักนาน 3 ทศวรรษ

30 ปีไม่มีวันตาย : คริส เจอริโก กับการเป็นนักมวยปล้ำที่แฟนตกหลุมรักนาน 3 ทศวรรษ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คริส เจอริโก คือหนึ่งในนักมวยปล้ำที่มีบทบาทมากที่สุด ในช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมา มีนักมวยปล้ำเพียงไม่กี่คน ที่ยืนหยัดในวงการมวยปล้ำ นับตั้งแต่ปี 1990 จนถึงปี 2020 ด้วยการเป็นนักมวยปล้ำระดับแถวหน้าของวงการตลอดเวลา  

ไม่ใช่เรื่องง่ายกับการรักษาสถานะการเป็นนักมวยปล้ำระดับสูง ยาวนานกว่า 20 ปี แต่คริส เจอริโก สามารถทำให้ชื่อของเขาเป็นอมตะของวงการมวยปล้ำ ชนิดที่เรียกว่าคว้าตำแหน่งนักมวยปล้ำยอดเยี่ยมประจำปี และเข็มขัดแชมป์โลกมาครอง ทั้งที่อายุกำลังจะอย่างเข้าเลข 5 โดยยังคงเป็นที่รักของแฟนมวยปล้ำไม่มีเปลี่ยนแปลง

คริส เจอริโก มีเคล็ดลับอะไร ที่ทำให้เขากลายเป็นตำนานไม่มีวันตายของวงการมวยปล้ำ ติดตามไปพร้อมกับเรา

ทำงานอย่างมืออาชีพ 

30 ปีที่ผ่านมา คริส เจอริโก ทุ่มเทร่างกาย และจิตใจของเขา ให้กับวงการมวยปล้ำ แม้จะมีช่วงเวลาที่เขาพักเบรก เพื่อไปทำวงดนตรีส่วนตัว (วง Fozzy) แต่ทุกครั้งที่เขาก้าวขึ้นสู่สังเวียนในฐานะนักมวยปล้ำ การทำงานอย่างเต็มร้อยเปอร์เซนต์เท่านั้น คือสิ่งที่เขามอบให้กับผู้ชม


Photo : wwe.com

ตลอด 3 ทศวรรษ คริส เจอริโก ผ่านบทบาทที่หลากหลายในวงการมวยปล้ำ เขาเคยเป็นนักมวยปล้ำในสมาคมอินดี้, ย้ายไปเก็บประสบการณ์ในเม็กซิโก และญี่ปุ่น, กลายเป็นนักมวยปล้ำที่ติดแหงกอยู่ในรุ่นครุยเซอร์เวท, ชนะเดอะ ร็อค และสโตนโคล สตีฟ ออสติน ในค่ำคืนเดียวกัน จนกลายเป็นแชมป์โลก 2 เส้น, เป็นนักมวยปล้ำตลก เป็นบันไดให้นักมวยปล้ำรุ่นหลัง หรือการกลับมาเป็นแชมป์โลกอีกครั้ง ในวัย 48 ปี

แต่ไม่ว่าจะได้รับบทบาทอะไร ก็ไม่สำคัญสำหรับ คริส เจอริโก เพราะเขาจะทำงานอย่างเต็มที่ตามบทบาทที่ได้รับ แม้หลายครั้งเขาจะออกมายอมรับว่า เขาไม่ชอบ และไม่เห็นด้วย กับสคริปท์ที่ทีมงานวางไว้ให้เขา แต่ท้ายที่สุดเจอริโก้มองว่า การทำงานตามหน้าที่ของตัวเอง คือเรื่องสำคัญในวงการมวยปล้ำ 

"ผมไม่เคยมีปัญหากับการทำงานหนัก ถ้าคุณมีโอกาสเข้ามา ไม่ว่ามันจะเป็นอะไร คุณต้องรับเอาไว้ นี่คือสิ่งที่ถูกต้อง เพราะถ้าคุณปฏิเสธมัน ผลเสียจะกลับมาหาคุณ" 

"ถึงบางครั้งคุณจะได้รับบทบาทที่ห่วยแตก แต่อย่างน้อยการได้ลองทำ ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีให้กับคุณ สำหรับผม ผมเลือกจะทำเสมอ เพราะอย่างน้อยก็ดีกว่าไม่ได้ลอง" คริส เจอริโก กล่าว

ความเป็นมืออาชีพคือทัศนคติที่เจอริโกยึดมั่น จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาร่วมงาน กับสมาคมมวยปล้ำระดับโลกมาแล้วมากมาย ทั้ง WWE, WCW, ECW, CMLL, NJPW และ AEW 

การทำงานหนักของเจอริโก ทำให้เขาได้รับความเคารพอย่างมากจากคนในวงการ ไม่ว่าจะเป็นในหมู่เพื่อนนักมวยปล้ำ ไปจนถึงระดับผู้บริหาร การได้ร่วมงานกับคริส เจอริโก คือเกียรติของนักมวยปล้ำทุกคน ที่จะได้เรียนรู้ทัศนคติที่ยอดเยี่ยม จากนักมวยปล้ำระดับตำนานคนนี้

"เขาคือตำนาน คุณก็รู้ไม่ใช่เหรอ ผมให้ความเคารพเขาอย่างมาก ในฐานะคนบ้านเดียวกัน ผมมีเขาเป็นต้นแบบเสมอ การได้ต่อสู้กับเขา ถือเป็นเกียรติสำหรับผม" เคนนี โอเมกา นักมวยปล้ำรุ่นน้องชาวแคนาดา กล่าวถึงคริส เจอริโก


Photo : www.thesun.co.uk

ด้วยชื่อเสียงจากการทำงานหนัก และความเป็นมืออาชีพ ทำให้คริส เจอริโก มีทางเลือกมากมาย สามารถร่วมงานกับสมาคมใดก็ได้ ในวงการมวยปล้ำตามที่เขาต้องการ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยพาอาชีพนักมวยปล้ำของเขากลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง

หลังจากถูก WWE ลดบทบาท กลายเป็นนักมวยปล้ำระดับกลาง หรือมิดการ์ดอยู่นานหลายปี … คริส เจอริโก อำลาสมาคมอู่ข้าวอู่น้ำ ย้ายกลับไปหาความท้าทายที่ญี่ปุ่น กับสมาคม NJPW 

เขาได้แสดงให้แฟนมวยปล้ำทั้งโลกเห็นว่า คริส เจอริโก ยังคงเป็นสุดยอดนักมวยปล้ำคนเดิม ด้วยการปล้ำแมทช์สุดโหด กับ เคนนี โอเมกา ในศึก Wrestle Kingdom 12 … ด้วยวัย 47 ปี ในเวลานั้น คริส เจอริโก ไม่สนเรื่องการถนอมร่างกาย เขายอมเสี่ยงกับความเจ็บปวด ด้วยการตกจากเวทีไปฟาดกับโต๊ะไม้ ที่เป็นโต๊ะไม้จริง ๆ ไม่ใช่โต๊ะปลอมแบบของ WWE, ถูกจับฟาดเอาหัวปักลงกับกองเก้าอี้ เพื่อให้แมทช์นี้ออกมาดีที่สุด

แม้จะต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แต่ผลลัพธ์ที่ออกมายิ่งกว่าคุ้มค่า คริส เจอริโก ได้รับแมทช์ 5 ดาวแมทช์แรก จากนิตยสาร WON และทำให้เขากลับมาเป็นท็อปสตาร์อย่างสมบูรณ์ จนทำให้เขากลายเป็นแชมป์โลกคนแรกของสมาคม AEW ด้วยวัย 48 ปี


Photo : cultaholic.com

ปัจจุบันเจอริโกไม่ได้ทำงานหนักแค่หน้าฉาก แต่เขายังรับบทบาทเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับ AEW ในการออกแบบโชว์ให้กับสมาคม คอยออกไอเดียต่าง ๆ เพื่อให้ทุกอย่างที่ถูกนำเสนอผ่านหน้าจอของสมาคมหน้าใหม่แห่งนี้ ออกมาดีที่สุด

จากวันแรกที่เขาเป็นนักมวยปล้ำ จนอีก 30 ปีถัดมาที่คริส เจอริโก กลายเป็นบุคคลที่คนทั้งวงการมวยปล้ำยอมรับ เขายังคงทำงานหนักเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง ในทุกบทบาทที่เขาได้รับมอบมาย ซึ่งกลายเป็นหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้ชื่อของเขา ได้รับการยกย่องให้เป็นที่รัก และเคารพ ของแฟนมวยปล้ำไม่มีเปลี่ยนแปลง

แต่ไม่ใช่แค่การทำงานหนักของเจอริโกเท่านั้น ที่ทำให้เขากลายเป็นนักมวยปล้ำที่ได้รับความนิยมมาหลายทศวรรษ เขายังมีวิธีการทำงานอันเป็นเอกลักษณ์ ที่ก้าวนำและตามสมัยตลอด 30 ปีที่ผ่านมา

 

ชีวิตที่ไม่เคยหยุดนิ่ง 

"คริส เจอริโก คือนักมวยปล้ำที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล แน่นอนมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมอบตำแหน่งนี้ให้กับใคร แต่ถ้าเป็นผม ผมขอเลือกคริส เจอริโก" จอน ม็อกลีย์ นักมวยปล้ำเบอร์ 1 ของสมาคม AEW กล่าวชื่นชมเพื่อนร่วมงานของเขา

"คุณดูสิ่งที่เจอริโกทำตั้งแต่ยุค 90’s มายุค 2000’s จนถึงปัจจุบัน ทุกอย่างยังยอดเยี่ยมเหมือนเดิม ทัศนคติของเขาไม่เคยเปลี่ยนแปลง และเขาทำสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ แม้กระทั่งในปี 2020 นี่คือเหตุผลที่ทำให้เขาเป็นสุดยอดตลอดกาล"


Photo : 411mania.com

คริส เจอริโก รับบทบาทบนเวทีมวยปล้ำมามากมาย และส่วนใหญ่สร้างชื่อเสียงให้กับเขา ดีกรีนักมวยปล้ำยอดเยี่ยมประจำปี 3 สมัยจากนิตยสาร WON รับประกันความยอดเยี่ยมของเขาได้เป็นอย่างดี 

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะประสบความสำเร็จ กับกิมมิคใดก็ตาม เขาไม่เคยคิดที่จะหยุดนิ่ง สำหรับชายที่ชื่อคริส เจอริโก เขาต้องการรับบทบาทใหม่ ๆ อยู่เสมอ และต้องไม่ซ้ำเดิม กับเส้นทางที่เคยผ่านมาของเขา

"ผมสร้างสิ่งที่ได้รับความนิยมในวงการมวยปล้ำ ยาวเป็นหางว่าวเลยละ แต่ผมไม่ชอบเอามันมาใช้งานซ้ำกัน เพราะผมโฟกัสไปกับการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ และนำเสนอมันออกมาด้วยคุณภาพที่เยี่ยมที่สุด"

"มันไม่ง่ายที่จะทิ้งบทบาทเก่าของเรา รวมถึงคำพูดที่เคยใช้ แต่มันคือโอกาสให้เราเริ่มสิ่งใหม่ ๆ ถ้าคุณมัวแต่ยึดติดกับของเก่า ๆ คุณก็จะจมอยู่กับอดีตไปตลอด" คริส เจอริโก กล่าว

การมุ่งมั่นตั้งใจทำสิ่งใหม่ ๆ ทำให้เจอริโกพร้อมสร้างความท้าทายให้กับตัวเองเสมอ เขามีโอกาสได้ต่อสู้กับนักมวยปล้ำบนสังเวียนมากกว่าคนอื่น เพราะเขาไม่เคยย้ำอยู่กับที่ พอใจกับรายได้ก้อนโตที่ได้รับ สำหรับชายคนนี้ การได้ทำอะไรสนุก ๆ บนเวที สำคัญกว่าทุกสิ่ง ในฐานะนักมวยปล้ำ

"ผมสู้กับนักมวยปล้ำมามากมาย เดอะ ร็อค, อัลติโมะ ดรากอน, เรย์ มีสเตอริโอ, แลนซ์ สตรอม เป็นคู่แท็กทีม กับบิก โชว์ หรือชอว์น ไมเคิล ผมสู้กับคนมาเยอะมาก ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา จนผมไม่รู้แล้ว่า ยังเหลือใครบางที่ผมไม่เคยได้สู้กับเขา สำหรับนักมวยปล้ำระดับเดียวกันกับผม"

คริส เจอริโก เลือกจะท้าทายตัวเอง ด้วยการออกจาก WWE สมาคมที่เขาร่วมงานด้วยยาวนานถึง 18 ปี เพื่อออกไปปล้ำที่ญี่ปุ่น และได้เจอกับคู่ต่อสู้หน้าใหม่ที่รอเขาอยู่ในอีกซีกโลก

"ผมโคตรตื่นเต้นกับโอกาสตรงนี้" เจอริโก กล่าวถึงการไปปล้ำที่ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญที่ทำให้เขาได้สร้างคาแรคเตอร์ของตัวเองขึ้นมา ตามใจที่ตัวเองต้องการ


Photo : GreatnessGD

"ตอนแรกที่ผมจะไปสู้กับเคนนี โอเมกา พวกเขาอยากให้ผมมาในฐานะ ‘อดีตนักมวยปล้ำของ WWE’ แต่ผมไม่อยากเป็นแบบนั้น ผมอยากเป็นบรุยเซอร์ โบรดี (หมายถึงการเป็นนักมวยปล้ำโหด ดิบ เถื่อน เล่นงานคู่ต่อสู้จนเลือดสาด) เพราะผมดูเขาปล้ำมาตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก และเขาคือนักมวยปล้ำที่ทรงอิทธิพลมากในญี่ปุ่น"

"ผมเอาคาแรคเตอร์ตรงนั้น มาใช้กับตัวของผม ช่วงที่สู้กับเคนนี โอเมกา ผู้ชมทุกคนต้องหวาดกลัวผม ... หลังจากนั้น ผมเปลี่ยนไปสู้ กับเท็ตซึยะ ไนโตะ (Tetsuya Naito) ผมก็ต้องทำตัวให้บ้าขึ้นอีก เลือกที่จะเพนท์หน้าตัวเอง"

"ตอนที่ผมสู้กับคาซุจิกะ โอคาดะ (Kazuchika Okada) เขามีฉายาว่า ‘Rainmaker’ ผมก็เปลี่ยนตัวเองเป็น ‘Painmaker’ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยทำมาก่อน ที่ผมจะบอกคือ สิ่งเหล่านี้ที่ผมได้ทำมา ช่วยยืดอาชีพนักมวยปล้ำของผมได้อีก 10 ปีเป็นอย่างน้อย"

"ผมคิดว่าเหตุผลที่คาแรคเตอร์ของผมต้องเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ก็เพราะว่าคนเราในชีวิตจริง เปลี่ยนแปลงตัวเองตลอดเช่นกัน … แฟนมวยปล้ำบางคนชอบกิมมิค Y2J มาก ทุกวันนี้พวกเขาก็เรียกผมด้วยชื่อนี้ แต่สำหรับผม Y2J เป็นแค่อดีต"

"ผมแค่อยากให้ทุกคนมีความสุขให้มากที่สุด กับทุกบทบาทที่ผมได้รับ เพราะวันไหนที่มันจบลง มันจะไม่กลับมาอีก" คริส เจอริโก กล่าว

ไม่ใช่แค่ชีวิตของตัวเองที่ไม่เคยหยุดนิ่ง แต่คริส เจอริโก ยังมีบทบาทสำคัญกับการผลักดัน ให้วงการมวยปล้ำก้าวไปข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มต้นจัดโชว์มวยปล้ำบนเรือสำราญ รวมถึงเป็นส่วนหนึ่งของการให้กำเนิดสมาคม All Elite Wrestling หรือ AEW ค่ายมวยปล้ำคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อกับ WWE ค่ายแรกในรอบเกือบ 20 ปี


Photo : wwe.com

"ไม่ใช่ว่าทุกไอเดียที่เจอริโกทำจะดี แต่อย่างน้อยเขาก็ลองทำอะไรเยอะมาก … ย้อนไปตอนปี 2005 เจอริโกกลายเป็นนักมวยปล้ำธรรมดา ๆ แล้วนะ เพราะเขาไม่ได้รับการผลักดันมายาวนาน"

"เขาก็มีไอเดียใหม่ ๆ อยู่เสมอ เช่น The List แต่ถ้าเขาไม่ออกจาก WWE มาปล้ำกับเคนนี โอเมกา (ที่ NJPW) เขาอาจจะกลายเป็นนักมวยปล้ำแก่ ๆ ตกยุคไปแล้วก็ได้ เพราะ WWE ไม่มีทางปั้นให้เขาเป็นนักมวยปล้ำระดับสูงอีกแล้ว"

"แต่เมื่อเขาย้ายมาปล้ำที่ NJPW เขากลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง อันที่จริงต้องบอกว่า เขายอดเยี่ยมที่สุด ตั้งแต่ที่เคยเป็นมาในอาชีพนักมวยปล้ำ มันน่าเหลือเชื่อนะ ที่เขายังเป็นซูเปอร์สตาร์ของวงการมวยปล้ำ ด้วยวัย 49 ปี ยืนอยู่จุดสูงสุดมามากกว่า 20 ปี และยังอยู่ตรงนี้ต่อไป" เดฟ เมลท์เซอร์ (Dave Meltzer) กูรูมวยปล้ำชื่อดัง กล่าวย้อนรำลึกถึงอาชีพของคริส เจอริโก

ดังที่เดฟ เมลท์เซอร์ กล่าว มีหลายช่วงเวลาที่คริส เจอริโก เจอปัญหา เขาไม่ได้รับการผลักดันจากสมาคมมวยปล้ำ อยู่ในจุดที่สุ่มเสี่ยงจะถูกแฟนมวยปล้ำมองข้ามในฐานะสุดยอดนักมวยปล้ำ แต่จนถึงตอนนี้เขายังผ่านอุปสรรคตรงนั้นมาได้ และยังคงเป็นซูเปอร์สตาร์ของวงการจนถึงปัจจุบัน

 

แพ้อย่างไรให้ชนะ

นักมวยปล้ำที่มีชื่อเสียงหลายคน มักสร้างความวุ่นวายให้กับสมาคมมวยปล้ำด้วยปัญหาเดียวกัน นั่นคือ "อีโก้" เหล่านักมวยปล้ำระดับสูงมีอำนาจมากด้านหลังฉากของวงการมวยปล้ำ พวกเขาเลือกที่จะไม่ทำตามคำสั่งของสมาคมก็ได้ บางคนไม่ยอมแพ้ให้กับนักมวยปล้ำรุ่นน้อง และเลือกจะเก็บชัยชนะเพียงอย่างเดียว เพื่อสร้างตัวเองให้เป็นซูเปอร์สตาร์ตลอดกาล แต่นั่นไม่ใช่กับคริส เจอริโก


Photo : www.ewrestling.news

"WWE เลือกเอาคริส เจอริโก ไปมีบทกับนักมวยปล้ำที่พวกเขาอยากผลักดันตลอด ซึ่งแต่ละเนื้อเรื่องก็ไม่เคยผลักดันเขาเลย แต่เจอริโกก็สร้างนักมวยปล้ำเหล่านั้นอย่างเต็มที่" เดฟ เมลท์เซอร์ กล่าว

ด้วยชื่อเสียงระดับคริส เจอริโก เขาจะเลือกไม่ขึ้นปล้ำเพื่อแพ้ให้กับนักมวยปล้ำรุ่นใหม่ได้อย่างง่ายดาย แต่เขายอมขึ้นสังเวียน เพื่อโดนนักสู้รุ่นน้อง จับกดนับ 3 ครั้งแล้วครั้งเล่า

นักมวยปล้ำอย่าง ซีเอ็ม พังค์, เควิน โอเวน, เอเจ สไตล์ส, ดอล์ฟ ซิกเลอร์ หรือออเรนจ์ แคสซิดี ล้วนเคยผ่านการเอาชนะคริส เจอริโก เพื่อยกระดับตัวเองในฐานะนักมวยปล้ำ อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะแพ้สักกี่ครั้ง ความเป็นสตาร์ของเจอริโกไม่เคยจางหายไปไหน

"คุณต้องให้เครดิตกับเขานะ (คริส เจอริโก) ที่เขายังคงแข็งแกร่งอยู่ ตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ทั้งที่เขามีช่วงเวลาที่ดี และไม่ดี" 

"เจอริโกเข้าใจวงการมวยปล้ำ และรู้จักมันดีพอ เขาถึงปั้นนักมวยปล้ำหน้าใหม่อยู่เสมอ สำหรับผู้ชายที่อายุย่าง 50 ปี เขารู้ตัวดีว่าสุดท้าย เขาต้องเป็นบันไดให้กับรุ่นน้อง และเขาทำได้ดีมาตลอด" เดฟ เมลท์เซอร์ ชื่นชมการทำงานของคริส เจอริโก

"ผมไม่สามารถเป็นนักมวยปล้ำระดับสูงไปตลอดหรอก และผมก็ไม่อยากเป็นแบบนั้นด้วย ผมถึงผลักดันนักมวยปล้ำรุ่นใหม่ ให้ก้าวขึ้นมาเป็นท็อปสตาร์ในอนาคต และผมรักที่จะทำแบบนี้" คริส เจอริโก กล่าวถึงเหตุผลที่เขาผลักดันนักมวยปล้ำรุ่นน้องอยู่เสมอ


Photo : www.essentiallysports.com

ความพ่ายแพ้ในวงการมวยปล้ำไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก เพราะยิ่งแพ้มากเท่าไหร่ ภาพในความทรงจำของแฟนมวยปล้ำ จะยิ่งดูอ่อนแอมากเท่านั้น เมื่อถึงจุดหนุึ่งแฟนมวยปล้ำ จะไม่มองนักมวยปล้ำขี้แพ้รายนั้น เป็นซูเปอร์สตาร์ของวงการอีกต่อไป

คริส เจอริโก เคยมีช่วงเวลาที่แพ้ติดต่อกันบนสังเวียนมวยปล้ำ เพื่อผลักดันนักมวยปล้ำรุ่นน้อง แต่เขาได้แสดงความพิเศษออกมา ด้วยการยังคงรักษาความเป็นสตาร์ของตัวเองเอาไว้ และรอวันที่มันจะกลับมาผลิบานอีกครั้ง ในขณะที่สมาคมมวยปล้ำก็ได้ประโยชน์ จากการที่เขาย่อมสร้างสตาร์รายใหม่คนแล้วคนเล่า ขึ้นมาประดับวงการ

"ผมมองว่ามันเป็นงานของผม เหมือนกับถ้าผมเล่นหนังแล้วตัวละครของผมตาย ผมควรจะไม่เล่นบทนี้งั้นเหรอ ? ผมแพ้ให้กับนักมวยปล้ำทุกคนได้นะ แต่ผมจะไม่ดูอ่อนแอหรอก"

เจอริโกเข้าใจธุรกิจนี้ และเขารู้ดีว่ามวยปล้ำ ไม่ใช่กีฬาที่สู้แค่ในสังเวียน แต่รวมถึงเรื่องของคาแรคเตอร์ และการพูดโปรโมบนเวที นักมวยปล้ำรายนี้มักจะจับจุดบางอย่างได้เสมอ สร้างคำพูดที่ติดหูคนดู จนทำให้เขาสามารถกลายเป็นที่นิยมได้ โดยไม่ต้องชนะบนสังเวียนด้วยซ้ำ

รางวัลยอดนักพูดประจำปีของวงการมวยปล้ำ ถึง 4 สมัยจากนิตยสาร WON รับประกันได้อย่างดีว่า คริส เจอริโก ไม่ได้ยอดเยี่ยมเฉพาะการโชว์ฝีมือบนเวที แต่รวมถึงการพูดจาเพื่อสร้างความน่าสนใจให้กับตัวเอง


Photo : www.mandatory.com

นี่คือสิ่งสำคัญที่ทำให้คริส เจอริโก ได้รับการยกย่องจากแฟนมวยปล้ำจนถึงทุกวันนี้ เพราะแฟนรู้ดีว่าเจอริโกเสียสละตัวเองมากขนาดไหน กับการยอมแพ้บนเวที เพื่อผลักดันนักมวยปล้ำรุ่นใหม่ แต่เขาก็ยังคงแสดงให้เห็นว่า สามารถชนะใจผู้ชมได้เสมอ ด้วยวิธีการที่แตกต่างออกไป

สุดท้ายแล้ว คำตอบของคำถามที่ว่า เหตุใดคริส เจอริโก จึงยังคงเป็นสุดยอดของวงการมวยปล้ำตลอด 30 ปีที่ผ่านมา เราคงบอกได้ว่าผู้ชายคนนี้ ทุ่มเททุกอย่างในชีวิตให้กับวงการมวยปล้ำ และเขารักวงการนี้อย่างสุดหัวใจ 

ทุกสิ่งที่เขาทำให้กับวงการจึงออกมาด้วยความตั้งใจ และมีเป้าหมายเดียวคือมอบความสุขให้กับคนดูทุกคน 

ทำให้ชื่อของ "คริส เจอริโก" เป็นที่รักของแฟนมวยปล้ำ นับตั้งแต่ปีแรก จนถึงปีที่ 30 และจะยังคงเป็นเช่นนี้ตลอดไป

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook