มาตามนัด! บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ประกาศคว้า "ธีรศิลป์ แดงดา" ล่าตาข่ายเลกสอง

สโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด จ่าฝูงศึกโตโยต้า ไทยลีก 2020/21 ประกาศยืนยันคว้าตัว "มุ้ย-ธีรศิลป์ แดงดา" กองหน้าทีมชาติไทย จากสโมสรชิมิซุ เอส-พัลส์ ทีมในเจลีก ญี่ปุ่น เข้ามาร่วมทัพอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว หลังนักเตะเดินทางถึงประเทศไทยและเข้ารับการกักตัวตามมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เป็นระยะเวลา 14 วัน

โดยธีรศิลป์จะเข้ามาฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการไล่ล่าแชมป์ไทยลีก 1 ฤดูกาล 2020/21 และการแข่งขันเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2021 รอบแบ่งกลุ่ม โดยจะใส่หมายเลข 28 ล่าตาข่ายให้กับทัพ "เดอะ แรบบิท" ในเลกที่สอง

ธีรศิลป์ แดงดา กล่าวถึงการย้ายมาเล่นในถิ่นลีโอ สเตเดี้ยม ว่า "รู้สึกดีใจครับที่ได้ย้ายมาร่วมทีม บีจี ปทุมฯ ซึ่งสโมสรได้แสดงความชัดเจนที่ต้องการจะประสบความสำเร็จด้วยการดึงนักเตะชื่อดังเข้ามาสู่ทีม และผมรู้สึกเป็นเกียรติที่เป็นหนึ่งในนั้น ดีใจที่จะได้ร่วมงานกับนักเตะที่มีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ไม่น่าจะต้องปรับอะไรมากสำหรับผม"

"เป้าหมายของผม จริงๆแล้วผมมองว่าทีมบีจีเป็นทีมที่ดีอยู่แล้ว ผมหวังเพียงว่าจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งที่ทีมยังขาดในการพาทีมไปสู่ความสำเร็จ ก็ขอฝากเนื้อฝากตัวกับแฟนบอลบีจีพียูด้วยครับ"

สำหรับ ธีรศิลป์ แดงดา ศูนย์หน้าวัย 32 ปี ถือเป็นนักเตะที่ประสบความสำเร็จในเส้นทางค้าแข้ง จนถูกยกย่องให้เป็นนักเตะที่เก่งที่สุดคนหนึ่งของเมืองไทย เคยพา เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ไทยลีกได้ 4 สมัย ในปี 2009, 2010, 2012 และปี 2016 และคว้าดาวซัลโวของลีกได้ 1 สมัย ในปี 2012 นอกจากนี้ยังเคยมีโอกาสไปฝึกซ้อมกับสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ประเทศอังกฤษ และแอตเลติโก มาดริด ที่ประเทศสเปน รวมถึงยังเคยไปค้าแข้งต่างประเทศกับสโมสรอัลเมเรีย สมัยเล่นอยู่ในลาลีกา สเปน เมื่อปี 2014 โดย "มุ้ย" ทำได้ 1 ประตูในเกมฟุตบอลถ้วยโกปา เดล เรย์

จากนั้นในปี 2018 มุ้ยย้ายไปเล่นในเจลีก ประเทศญี่ปุ่น ครั้งแรกกับสโมสรซานเฟรซเซ ฮิโรชิมา โดยลงสนามไปทั้งสิ้น 37 นัดยิงได้ 7 ประตู รวมทุกรายการ ก่อนที่ในปี 2020 ธีรศิลป์ จะได้ไปเล่นเจลีกอีกครั้งกับชิมิซุ เอส-พัลส์ ยิงไป 3 ประตูจาก 25 นัดที่ได้รับโอกาสลงสนาม

ด้านผลงานกับทีมชาติไทย ธีรศิลป์ติดทีมชาติไทยแทบทุกชุด ไม่ว่าจะเป็น 17 ปี, 19 ปี, 23 ปี รวมถึงทีมชาติไทยชุดใหญ่ ซึ่งเจ้าตัวยังเป็น 1 ใน 5 ผู้เล่นประวัติศาสตร์ที่รับใช้ทีมชาติไทยเกิน 100 นัด และยิงไปแล้วถึง 47 ประตู รั้งอันดับ 4 ดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของทีมชาติไทยในปัจจุบัน