เปิดเส้นทางสู่จ่าฝูงของ "เรือใบสีฟ้า" (คอลัมน์สนุกมือ/ ธีรพัฒน์ อัครเศรณี)
ระหว่างที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ย่องเงียบแซง ลิเวอร์พูล ขึ้นสู่จ่าฝูงพรีเมียร์ลีกครั้งแรกในรอบ 3 ปีเศษๆ สร้างความยินดีปรีดาให้กับแฟนปีศาจแดงทั่วโลกยิ่งนัก ก่อนเกมที่ทั้งสองทีมปะทะกันในศึกแดงเดือดวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้
แต่ ณ มุมหนึ่งของการวิเคราะห์และคาดการณ์ว่าทีมใดจะไปถึงแชมป์นั้น บริษัทรับพนันอย่างถูกกฎหมายในอังกฤษขยับให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลับไปเป็นเต็ง 1 อีกครั้ง แบบไม่ได้เกรงอกเกรงใจทั้งหงส์และผีเอาเสียเลย
ทั้งๆที่ตอนนี้ "เรือใบสีฟ้า" คะแนนยังตามหลังจ่าฝูงอยู่ถึง 4 แต้ม แต่ด้วย 1 เกมในมือ บวกกับบารมีของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา และการที่ เซร์คิโอ อเกวโร ซึ่งถือเป็นคีย์แมนสำคัญในการคว้าแชมป์ลีกทุกครั้งของซิตี้ตั้งแต่สมัย โรแบร์โต้ มันชินี, มานูเอล เปเยกรินี หรือในยุคของเป๊ปเองก็ตาม กำลังจะคัมแบ็กกลับมาลงสนามได้
เที่ยวนี้ว่าไปแล้วอาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายของ "เอล กุน" เองเสียด้วยซ้ำ เพราะสัญญากับเรือใบใกล้หมดแค่สิ้นซีซั่นนี้ ส่วนอายุอานามของเขาเองก็เลยช่วงพีกมาแล้ว เจ้าตัวน่าจะตั้งใจสั่งลาให้โลกได้จำความสามารถในการระเบิดประตูเป็นเที่ยวสุดท้ายก่อนย้ายลีก
นอกเหนือจากนั้น ปัจจัยที่พวกเขากลับมาน่ากลัวอีกครั้งคือ เกมรับ ที่สถิติระยะหลังบ่งบอกชัดเจนว่าปรับปรุงความเหนียวแน่นได้ดีขึ้นมากๆ เก็บคลีนชีตได้เป็นว่าเล่น 8 นัดหลังในลีก เรือใบเสียไปเพียงแค่ 2 ประตูเท่านั้น ด้วยผลงานของ เอแดร์ซอน และแผงแบ็กโฟร์ที่ค่อนข้างลงตัวแล้วอย่าง เจา กานเซโล, จอห์น สโตนส์, รูเบน ดิอาส และ โอเล็ก ซินเชนโก
พูดง่ายๆว่า หลังแน่นแล้ว กลางก็ดีอยู่มี เควิน เดอ บรอยน์ เป็นแม่ทัพ แถมหน้าจะได้ดาวยิงตัวเก๋ากลับมาอีก แต่ถึงจะยังไม่ได้ เป๊ปเองก็โนสนโนแคร์อยู่แล้ว เพราะเกมล่าสุดที่เฉือนชนะไบรท์ตันมาได้ พวกเขาเองก็จัดทัพแบบไม่มีศูนย์หน้าอาชีพลงเลยแม้แต่คนเดียว โดยใช้สามประสานในแดนหน้าเป็น ริยาด มาห์เรซ, เควิน เดอ บรอยน์ ซึ่งรับบทเป็นฟอลส์ไนน์ และ ฟิล โฟเดน อีกหนึ่งคน ปล่อย กาเบรียล เชซุส นั่งสำรองเสียอย่างนั้น
ขณะที่ "ผี" กับ "หงส์" ต้องเผชิญหน้าและมีโอกาสตัดแต้มกันเอง โปรแกรมของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในช่วงนี้กลับเอื้อให้พวกเขายิ่งนัก ไม่เชื่อลองไปดูกัน
18 ม.ค. 64 แมนฯ ซิตี้ - คริสตัล พาเลซ
21 ม.ค. 64 แมนฯ ซิตี้ - แอสตัน วิลล่า
27 ม.ค. 64 เวสต์บรอมวิช - แมนฯ ซิตี้
30 ม.ค. 64 แมนฯ ซิตี้ - เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด
3 ก.พ. 64 เบิร์นลี่ย์ - แมนฯ ซิตี้
จะเห็นได้ว่า 5 เกมข้างหน้าหนทางสะดวกเหลือเกินสำหรับเรือใบ ก่อนจะไปเจอของแข็งคือหงส์แดงในวันที่ 6 ก.พ. ซึ่งถึงวันนั้น ซิตี้อาจจะลอยลำขึ้นจ่าฝูงไปแล้วก็ได้
เพราะฉะนั้น หากลิเวอร์พูลหวังจะยึดจ่าฝูงคืนหรือทำการป้องกันแชมป์ในระยะยาว พวกเขาคงต้องเร่งรีดฟอร์มเก่งออกมาให้ได้เร็วที่สุดในตอนนี้
มิฉะนั้นมีโอกาสถูกอีกหนึ่งทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์แซงแบบไม่รู้ตัว