OnThisDay 11 มี.ค. 2019 : "ซีเนอดีน ซีดาน" กลับมาคุม เรอัล มาดริด รอบที่สอง
ในช่วงปี 2016-2018 เส้นทางชีวิตของซีเนอดีน ซีดาน ในฐานะผู้จัดการทีมของเรอัล มาดริด นับว่ารุ่งโรจน์สุดๆ ด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ลาลีกา 1 สมัย, แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 สมัยติดต่อกัน รวมถึงแชมป์รายการอื่นๆ อีก 5 โทรฟี่
แต่หลังจากความสำเร็จในการคว้าแชมป์ถ้วยใหญ่ของยุโรป เมื่อปี 2018 ซีดานได้ประกาศข่าวช็อกวงการฟุตบอล ด้วยการขอลาออกจากตำแหน่งแบบกะทันหัน ท่ามกลางความสงสัยของแฟนฟุตบอลว่า ทำไมเขาถึงตัดสินใจเช่นนั้น?
ฤดูกาล 2018/19 เรอัล มาดริดได้แต่งตั้งฆูเลน โลเปเตกี เป็นกุนซือคนใหม่ แต่คุมทีมในลาลีกาได้เพียงแค่ 10 นัด ก็ถูกปลดในช่วงปลายเดือนตุลาคม หลังจากแพ้คู่ปรับตลอดกาลอย่างบาร์เซโลน่า ขาดลอยถึง 1-5 ในศึก "เอล กลาซิโก้"
ซานติอาโก้ โซลารี่ ได้เข้ามาสานต่องานโค้ชให้กับราชันชุดขาว แต่การแพ้บาร์ซ่า 2 นัดติด ทั้งในลาลีกา กับโคปา เดล เรย์ รวมถึงแพ้อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นั่นทำให้โซลารี่ ต้องถูกปลดออกจากตำแหน่ง
วันที่ 11 มีนาคม 2019 ซีเนอดีน ซีดาน ผู้พาราชันชุดขาว คว้าแชมป์ 9 รายการ ในรอบ 2 ปีครึ่ง ได้ตัดสินใจหวนกลับมารับงานเทรนเนอร์ในถื่นซานติอาโก้ เบอร์นาเบว อีกครั้ง เพื่อเข้ามากอบกู้สโมสร หลังเจอแต่ความย่ำแย่มาตั้งแต่เปิดซีซั่น
การกลับมาคุมทีมเดิมเป็นครั้งที่สอง แม้จะพาทีมคว้าแชมป์ลาลีกาได้อีกครั้ง ในฤดูกาล 2019/20 แต่ผลงานในเวทียุโรปยังคงล้มเหลว เมื่อแพ้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทั้ง 2 นัด ตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย 2 ฤดูกาลติดต่อกัน
สำหรับในซีซั่น 2020/21 เรอัล มาดริด ออกสตาร์ทซีซั่นได้ไม่ดีนัก แพ้ไปถึง 3 จาก 10 เกมแรก แต่ 16 เกมหลังจากนั้น แพ้เพียงแค่เกมเดียวเท่านั้น โดยเกมลีกนัดล่าสุด เสมอกับแอตเลติโก้ มาดริด 1-1 ในศึก "เอล มาดริด ดาร์บี้"
สถิติของซีเนอดีน ซีดาน ในการคุมทีมเรอัล มาดริด รอบสอง ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา คุมทีมในลาลีกาทั้งหมด 75 นัด ชนะ 47 เสมอ 17 แพ้ 11 ยิงได้ 130 ประตู และเสีย 60 ประตู