มาตามนัด! "เรือใบ" ควง "ชุดขาว" ฉลุยรอบ 8 ทีม ศึกแชมเปียนส์ลีก
การแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2020-21 รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง เมื่อคืนวันพุธที่ 16 มี.ค.64 มีแข่ง 2 คู่ คู่ที่น่าสนใจที่สนามปุสกัส อารีนา (สนามกลาง) “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จากอังกฤษ พบกับ “สิงห์หนุ่ม” โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค จากเยอรมนี โดยนัดแรก แมนฯ ซิตี้ ชนะมาได้ก่อน 2-0
ฝั่งเรือใบสีฟ้า ที่เอาชนะในเลกแรกมา 2-0 นัดนี้ จัดทีมในระบบ 4-3-3 วาง ริยาด มาห์เรซ, เควิน เดอ บรอยน์ และ ฟิล โฟเด้น เป็นสามประสานในแนวรุก
ทางด้านสิงห์หนุ่ม เลือกใช้แผน 4-3-1-2 วาง ลาร์ส สตินด์ล เป็นตัวทำเกม โดยมี มาร์คัส ตูราม จับคู่กับ บรีล เอ็มโบโล ในแดนหน้า
ผลปรากฏว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะ โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค 2-0 ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศด้วยประตูรวม 4-0 โดย “เรือใบสีฟ้า” ได้ประตูจาก เควิน เดอ บรอยน์ นาทีที่ 12 และอิลคาย กุนโดกัน นาทีที่ 18
เกมอีกคู่ที่สนามอัลเฟรโด ดิ สเตฟาโน “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด จากสเปน เปิดบ้านรับการมาเยือนของ อตาลันตา โดยนัดแรก เรอัล มาดริด บุกไปชนะมาได้ก่อน 1-0
ซีเนดีน ซีดาน กุนซือเจ้าบ้าน ซึ่งกุมความได้เปรียบจากการบุกชนะมาได้ก่อนในนัดแรก 1-0 เลือกจัดทัพมาในระบบ 3-5-2 ใช้คู่กองหน้าเป็น วินิซิอุส จูเนียร์ ประสานงานร่วมกับ คาริม เบนเซมา
ด้านทีมเยือนของ จาน ปิเอโร กาสเปรินี ต้องชนะผลต่างเกิน 2 ประตูขึ้นไป หากหวังจะพลิกเข้ารอบ วางหมากมาในแผน 3-4-3 ใช้สามแนวรุกเป็น รุสลัน มาลินอฟสกี้, หลุยส์ มูเรียล และ มาริโอ ปาซาลิช
ผลปรากฏว่า เรอัล มาดริด คว้าตั๋วผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี หลังชนะ อตาลันตา 3-1 คว้าชัยด้วยประตูรวม 4-1 โดย “ราชันชุดขาว” ได้ประตูจาก คาริม เบนเซมา นาทีที่ 34, จากจุดโทษของ เซร์คิโอ รามอส นาทีที่ 60 และมาร์โก อเซนซิโอ นาทีที่ 84 ส่วนทีมเยือนตีไข่แตกได้จาก หลุยส์ มูเรียล นาทีที่ 83
ติดตามผลบอล ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ทุกคู่ที่นี่ https://www.sanook.com/sport/program/
อัลบั้มภาพ 24 ภาพ