ทีเด็ด"ช้างศึก"กับยุทธการดับฝันฟิลิปปินส์

หลังจากทัพ"ช้างศึก"ทีมชาติไทย โชว์ผลงานได้สวยหรู เก็บ 9 แต้มเต็มผ่านเข้ารอบรองฯ ในสถานะแชมป์กลุ่มบี ได้สมราคาทีมเต็งรายการนี้ หลังเหินห่างคำว่า"แชมป์"นานถึง 12 ปี

และกับนัดล่าสุดในศึก "ซูซูกิคัพ 2014" ที่ทีม "ช้างศึก" ต้องออกไปเยือน "แดนตากาล็อก" ในนัดแรกของรอบรองฯ ซึ่งถือว่าเป็นงานหนักเอาการมิใช่น้อย แต่ก็สามารถทำได้ดีในระดับหนึ่ง กับผลเสมอ 0-0 ทั้งที่เราเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน ตั้งแต่นาทีที่ 70

บางคนก็รับได้ บางคนก็รับไม่ได้...ส่วนคนที่รับได้ผมก็เข้าใจนะ (คงไม่อยากคิดเยอะเพราะยังไงก็ต้องเชียร์ต่อไป) ส่วนคนที่รับไม่ได้ อันนี้ก็เข้าใจเหมือนกัน อาจเพราะตั้งความหวังไว้สูง แต่รู้มั้ยครับกับผลเสมอที่เราได้มันก็ถือว่าโอเคแล้วครับ

เพราะขนาดเรายังไม่ลงเตะก็เสียเปรียบแทบจะทุกด้านอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศกองเชียร์, พื้นหญ้าเทียมที่ไม่คุ้นเคย, รวมถึงรูปร่างของนักเตะที่เล็กกว่าเห็นได้ชัด

แต่สำหรับในเกมวันนี้ที่สนามราชมังฯ เรากลับมาได้เปรียบทันที แน่นอนคงจะเป็นเรื่องใดไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เสียงเชียร์อันกึกก้องของแฟนบอลชาวไทยในสนาม ที่พร้อมจะกดดันคู่แข่งให้หงอยเหมือนแมวหง่าวกันเลยทีเดียว

และมันจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ โดยดูจากตั๋วเข้าชมการแข่งขัน ที่ถูกจำหน่ายหมดเกลี้ยงเพียงไม่กี่วัน และมันบอกได้เลยว่า "กระแสของบอลไทย" กลับมาพีคเต็มกำลัง

อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญที่เราได้เปรียบในเรื่องของพื้นสนามหญ้าจริงที่คุ้นเคย แต่จะไม่มีสองหัวหอกตัวหลักอย่าง กีรติ เขียวสมบัติ (ที่เจ็บ) และ อดิศักดิ์ ไกรษร (ติดโทษแบน)

นี่คือองค์ประกอบที่ "โค้ชโก้" จะต้องนำมาใช้เป็นส่วนช่วยและเปลี่ยนระบบการเล่นของทีมไทย แต่ผมว่ามันก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรมากมาย เพราะนักเตะที่ "ซิโก้" เลือกมาทุกคนสามารถทดแทนกันได้อยู่แล้ว

!!นั้นผมขอพูดถึงกลยุทธของทีมไทยที่จะพิชิตชัยดับฟิลิปปินส์วันนี้เลยละกัน จากที่ได้ติดตามข่าวสารมาได้รับข้อมูลว่า ทีมชาติไทยวันนี้จะเล่นในระบบ 4-3-3 โดยใช้ "เจ้าเจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ ลงเป็นกองหน้าตัวเป้า ความจี๊ดจ๊าดของ "เจ้าเจ" จะทำให้แผงหลังฟิลิปปินส์สติแตกอย่างแน่นอน

และมี เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ กับ มงคล ทศไกร ที่คอยสนับสนุนแนวรุกด้านข้างได้อย่างดีอีกต่างหาก ส่วนแผงมิดฟิลด์ ยังคงยึด สารัช อยู่เย็น ที่มีทักษะดีเยี่ยมทั้งเกมรุกและรับ กับ ชาริล ชัปปุยส์ ที่เล่นได้เนียนตาสุดๆ แถมถูกวางเป็นตัวทีเด็ดในการสังหารจุดโทษอีกด้วย และมี ประกิต ดีพร้อม กองกลางจอมขยันจาก ทีโอที เอสซี เป็นตัวสอดแทรก

ส่วนแผงหลังน่าจะตามนี้นะ แบ็กซ้าย พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา คู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ ธนบูรณ์ เกศารัตน์ ยืนคู่กับ สุทธินันท์ พุกหอม แบ็กขวา นฤบดินทร์ วีระวัฒน์โนดม และผู้รักษาประตูเป็น กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ที่ทำผลงานได้ดีมาตลอด

หากเกมส์นี้ในเวลาเสมอแบบไม่มีสกอร์ 0-0 จะต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที และหากไม่มีผู้ชนะจะตัดสินด้วยการยิงจุดโทษ แต่ถ้าหากเสมอกันด้วยการมีสกอร์ฟิลิปปินส์จะเข้ารอบด้วยกฎประตูทีมเยือน

ส่วนผมแล้วคิดว่า เรามีจุดเด่นในเรื่องการเล่นบอลกับพื้น ถ้าเราเล่นบอลเร็วไม่ครองบอลนาน "เห็นแล้วให้ ให้แล้วไป จ่ายตามช่อง ลอดหว่างขาบ้าง" มันจะเป็นเกมที่ไหลลื่นตลอดอย่างแน่นอน

ที่สำคัญเราอย่าไปกังวลว่าเขาจะเล่นยังไง ขอแค่เราเล่นในสไตล์ของเรา "เล่นให้สนุก เล่นให้มันส์ เล่นให้เต็มที" เท่านี้ก็พอ และผมก็เชื่อว่าคนไทยอยากเห็นการเล่นแบบนี้เหมือนกัน

ส่วนเรื่องของ อะมานี อะกินัลโด้ นักเตะที่มีปัญหากับ อดิศักดิ์ ผมก็ขอให้แฟนบอลชาวไทยลืมๆ มันไปซะ รวมถึงนักเตะด้วย ถือว่าเรามาเริ่มกันใหม่ เพราะมันเป็นเกมแรกในบ้านนัดแรกของเราในรายการนี้ด้วย

สุดท้ายนี้ผมขอฝากเรื่อง สิ่งที่ต้องห้ามนำเข้าสนามในวันนี้ด้วย

- อาวุธที่ทำให้เกิดอันตรายทุกชนิด

- ยาเสพย์ติด สิ่งของมึนเมา ที่เป็นฉนวนทำให้เกิดการทะเลาะวิวาท

- ขวดน้ำ และกระป๋องน้ำ

- พลุ แฟลร์

- เสาธง เนื่องจากสามารถใช้ในการทำร้ายร่างกายได้

- ก้านสำหรับใช้ถ่ายรูป หรือไม้เซลฟี่

- กล้อง DSLR สามารถนำเข้าได้เพียงเลนส์ฟิกซ์ หรือฟิชอายเท่านั้น

- กล้องถ่ายภาพเคลื่อนไหว หรือกล้อง VDO

ยังไงก็ขอให้แฟนบอลชาวไทยที่รับชมทางบ้านและในสนาม ขอให้เชียร์กันอย่างสนุก "รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย" ให้เป็นตัวอย่างที่ดีในเอเซียไปเลย

 

โดยจะเตะกันในวันนี้ *ช่อง7 สี ถ่ายทอดสด เวลา 19.00 น

เรื่องโดย : มิดไนท์