"แดเนียล คินาฮาน" : หัวหน้าแก๊งมาเฟียไอริชอันดับ 1 ในยุโรป ผู้ชุบชีวิต "ไทสัน ฟิวรี"

"แดเนียล คินาฮาน" : หัวหน้าแก๊งมาเฟียไอริชอันดับ 1 ในยุโรป ผู้ชุบชีวิต "ไทสัน ฟิวรี"

"แดเนียล คินาฮาน" : หัวหน้าแก๊งมาเฟียไอริชอันดับ 1 ในยุโรป ผู้ชุบชีวิต "ไทสัน ฟิวรี"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ไทสัน ฟิวรี นักมวยเฮฟวี่เวตชาวอังกฤษ ถือเป็นนักชกที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับในแง่การตลาดมากที่สุด ณ ปัจจุบัน ซึ่งการจะมาถึงจุดนี้ได้นั้นฝีมืออย่างเดียว.. ไม่พอ

เบื้องหลังความเป็นนักมวยที่ "ขายได้" ของ ฟิวรี มาจากอดีตจิ๊กโก๋อันดับ 1 แห่งไอร์แลนด์ หัวหน้าแก๊งอาชญากรนาม "คินาฮาน คาร์เทล" 

ชื่อของเขาคือ แดเนียล คินาฮาน.. ชายผู้เป็นกุนซือของ ฟิวรี คนนี้มีดีอย่างไร? ทำไมเขาจึงมีโลก 2 ใบ ทั้งขาวและดำในเวลาเดียวกัน? ติดตามได้ที่นี่

ผลผลิตจากแก๊ง 

"มาเฟียไอริช" คือหนึ่งในกลุ่มอาชญากรที่มีชื่อเสียงระดับโลกมาเสมอ ความชัดเจนในความดิบเถื่อนนั้นทำให้ในภาพยนตร์และซีรี่ส์หลายๆเรื่อง ต้องโยงเอาเรื่องของพวกเขามาเกี่ยวข้องด้วยทั้งนั้น ไม่ว่าจะ Son of Anarchy, Peaky Blinders หรือแม้กระทั่งหนังมาเฟียชั้นครูอย่าง The Godfather ก็ล้วนมีแต่การกล่าวถึงกลุ่มมาเฟียไอริชด้วยกันทั้งนั้น

1

ความโหดและดิบแบบไอริช คือต้นเหตุของการถือกำเนิดทารกที่ชื่อว่า แดเนียล คินาฮาน ในปี 1977 ณ เวลานั้น คริสตี้ คินาฮาน พ่อของเขาคือหัวหน้าแก๊ง "คินาฮาน คาร์เทล" แก๊งยาเสพติดเบอร์ใหญ่ของประเทศไอร์แลนด์ ก่อคดีมามากมาย จนถึงขั้นขนาดสังหารเจ้าหน้าที่ตำรวจมาแล้ว

ใครบอกสภาพแวดล้อมไม่สำคัญ คนจะดีจะชั่วขึ้นอยู่กับตัวเอง.. ตรรกะนี้อาจไม่ถูกนักหากคุณเทียบกับชีวิตของ แดเนียล คินาฮาน ที่เติบโตมาด้วยสภาพแวดล้อมและการดูแลจากแก๊งอาชญากร เขาเป็นเด็กแสบแต่เด็ก มีนิสัยเป็นลูกเจ้าพ่อตัวจริงเสียงจริง 

ไม่เคยกลัวใคร ยึดมั่นในศักดิ์ศรี และพร้อมแก้ปัญหาด้วยความรุนแรงเสมอ หากการเจรจาโดยสันติไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เขามีความเหมือนพ่อตรงที่ต่อให้เป็นอาชญากรแต่ก็เป็นคนที่มีความรู้ ตามรอย คริสตี้ ที่เรียนจบปริญญาขณะต้องโทษจำคุก 6 ปี จากคดีค้าเฮโรอีนในปี 1980 และเอาวิชาทั้งหมดที่ได้เรียนมา รวมถึงการสอนภาษาที่จำเป็นอีกมากมายทั้ง สเปน กับ รัสเซีย มาใช้ต่อนอกคุก

2

จำเป็นในที่นี้คือ "จำเป็นสำหรับธุรกิจมืด" เพราะแก๊ง คินาฮาน คาร์เทล นั้นถือเป็นแก๊งที่มีพันธมิตรจากแก๊งอาชญากรทั้งที่ประเทศโคลอมเบีย, รัสเซีย และ สเปน นั่นเอง 

เมื่อช่วงเวลาของ คริสตี้ ผู้เป็นพ่อเหลือน้อยลง เขาดันลูกชายอย่าง แดเนียล ขึ้นมาเป็นลูกพี่ใหญ่ของแก๊งเอง และเมื่อ แดเนียล คินาฮาน ก้าวขึ้นมาเป็นบิ๊กบอส แก๊งของพวกเขาก็ใหญ่โตขึ้นมาก มีบทความเกี่ยวกับแก๊งนี้เมื่อ แดเนียล มาเป็นหัวหน้าเต็มตัว เขียนโดย พอล เรย์โนลด์ ผู้สื่อข่าวอาชญากรรม บอกว่า คินาฮาน คาร์เทล ไม่ใช่แค่บู๊กับมาเฟียด้วยกันเท่านั้น แต่พวกเขายังผูกสัมพันธ์กับตำรวจ จนถึงขั้นรู้นอกออกในของกองบัญชาการตำรวจในไอร์แลนด์และสเปนเลยทีเดียว 

เมื่อดังเกินไป ก็ย่อมถูกจับตาโดยรัฐบาลและเอฟบีไอ พวกตำรวจเล่นงานแก๊งของ คินาฮาน ได้ในขณะที่พวกเขากำลังทำสิ่งที่เรียกว่า "งานใหญ่" ระหว่างอยู่ที่สเปน การจับกุมและทลายแก๊ง คินาฮาน ครั้งนั้น มีการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 200 คน และถูกสอบสวนคดีค้ายาเสพติดข้ามชาติในเวลาต่อมา  

3

การโดนจับครั้งนั้นเป็นบทเรียนที่สอนให้ แดเนียล คินาฮาน รู้ว่า "โลกใบเดียว" มันไม่พอสำหรับชีวิตของเขา เขาต้องการโลกอีกใบที่ปลอดภัยยิ่งกว่าการถูกรู้จักในฐานะอาชญากรผู้ค้ายาเสพติด แต่เขาต้องทำให้ถูกคนอื่นเรียกว่า "นักธุรกิจ" ให้ได้

โลกใบที่ 2

ในปี 2012 แดเนียล คินาฮาน หาเวย์ของตัวเองจนได้ในท้ายที่สุด มันคือกีฬาที่ถูกผูกกับแก๊งมาเฟียมาตั้งแต่ยุคหลายสิบปีก่อน นั่นคือ "มวยสากล" นั่นเอง.. เขาได้ร่วมหุ้นกับอดีตนักมวยอาชีพอย่าง แมทธิว แมคลิน เปิดบริษัทโปรโมเตอร์ที่ชื่อว่า MGM (ย่อมาจาก Macklins Gym Marbella ค่ายมวยของ แมคลิน ที่ประเทศสเปน) เพื่อสร้างโลกอีกใบ ทว่าจากปัญหาชื่อซ้ำกับ MGM แกรนด์ รีสอร์ท & คาสิโน ทำให้พวกเขาต้องเปลี่ยนชื่อเป็น MTK Global (ย่อมาจาก Mack The Knife Global) ในเวลาต่อมา

4

วงการมวยโลกนั้นกำเนิดขึ้นอย่างจริงจังที่สหรัฐอเมริกาตั้งแต่ช่วงยุคปี 1920s ณ เวลานั้น มวยคือสัญลักษณ์ของ "แก๊ง" แก๊งไหนมีนักมวยเก่งๆ พวกเขาจะพาขึ้นมาซัดกันบนเวทีและเดิมพันกันด้วยอะไรหลายๆอย่าง มันเหมือนสงครามขนาดย่อมโดยไม่ต้องยิงปืน จะว่าเแบบนั้นก็คงไม่ผิดนัก 

เนื่องจาก "ราก" ของนักมวยคือการได้รับการสนับสนุนจากผู้มีอิทธิพล สิ่งนี้จึงถูกสานต่อมาเรื่อยๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งปัจจุบัน "การเลี้ยงนักมวย" ยังคงมีให้เห็นบ่อยๆ ไม่เว้นแม้แต่ในประเทศไทยของเราเอง ที่กลุ่มนักการเมือง, เศรษฐี หรือ ผู้มีอิทธิพล มักจะมีค่ายมวยและนักมวยในการดูแลของตัวเอง

คินาฮาน รู้เรื่องเหล่านี้ และมั่นใจว่ามันจะง่ายหากเขาเข้าสู่วงการมวย แทนที่จะทำธุรกิจอื่นๆ เขาแต่งตั้งตัวเองเป็นโปรโมเตอร์ของค่าย MTK Global และออกจากการเป็นมาเฟียแก๊ง คินาฮาน คาร์เทล แต่เป็นการออกในนามเพื่อให้ไม่มีอะไรสาวมาถึงตัวเขาได้เท่านั้น และใครๆก็รู้ว่าที่จริงแล้ว คินาฮาน คาร์เทล จะเคลื่อนไหวก็ต่อเมื่อ แดเนียล คินาฮาน สั่งการเท่านั้น

ขณะที่โลกของมวย คินาฮาน ก้าวเข้ามาและมีหน้ามีตาในการประกบคู่มวยระดับคู่ใหญ่ๆทั้งนั้นตามสไตล์คนใจถึงและเงินเหลือ.. แน่นอนเขาไม่ต้องการรายได้อะไร เขาแค่ต้องการชื่อเสียงและการยอมรับในฐานะนักธุรกิจคนหนึ่งเท่านั้น งานนี้ไม่มีเสีย มีแต่ได้โดยแท้จริง 

5

"แดเนียล คินาฮาน กับวงการมวย ก็เหตุผลเดียวกับที่ ปาโบล เอสโคบาร์ เข้ามาทำทีมฟุตบอลนั่นแหละ" อีวาน แม็คเคนนา นักเขียนของ The Independent เปรียบเทียบเรื่องราวของ คินาฮาน กับราชาโคเคนอย่าง เอสโคบาร์ 

เข้าหาคนดัง สร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่ เสียเงินเท่าไหร่ไม่ว่า แต่ต้องได้กลับมาด้วยสิ่งที่ต้องการ ซึ่งท้ายที่สุด นักมวยที่ทำให้ชื่อของ แดเนียล คินาฮาน ปรากฎบนหน้าสื่อเป็นประจำก็ปรากฎตัวจนได้.. การพบกันของ 2 จอมผยองคือการแท็คทีมที่ลงตัวเมื่อ แดเนียล คินาฮาน ได้พบกับ ไทสัน ฟิวรี ที่ปัจจุบันเป็นนักมวยแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวต

น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า 

การเจอกันระหว่าง คินาฮาน กับ ฟิวรี ถือเป็นสถานการณ์ที่พอเหมาะพอเจาะ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบมาเฟียยาเสพติดที่เข้ามาชุบตัวในวงการมวยอย่าง แดเนียล

แพ็ดดี้ บาร์นส์ อดีคแชมป์โลกชาวไอริช ที่ทำงานร่วมกับ MTK ยืนยันเสมอว่าเขาไม่ได้ยินดีเท่าไหร่นักที่ทางค่ายของเขาไปจับมือเป็นพันธมิตรกับคนอย่าง คินาฮาน เพราะรู้ทั้งรู้ว่านี่คืออาชญากรที่ทำร้ายประเทศไอร์แลนด์ในทางอ้อมมาอย่างยาวนาน 

"ผมไม่รู้ไม่เห็น ไม่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมใดๆทั้งนั้น แมทธิว แม็คลิน (หุ้นส่วนค่ายอีกคน) ไม่ใช่อาชญากร ผมเองก็เหมือนกัน ดังนั้น หากใครต้องการจะถามหรือพูดถึงพวกเราในแง่พวกนอกกฎหมายหรือถามหาใครก็ตาม ผมคิดว่าพวกเขาควรจะไปถาม แดเนียล คินาฮาน และ คริสตี้ พ่อของเขาให้รู้เรื่องกันไป" บาร์นส์ บอกเล่าสิ่งที่เกิดภายในและเหตุผลที่ แดเนียล คินาฮาน ต้องการพิสูจน์ตัวเอง

ในช่วงเวลาเดียวกัน ไทสัน ฟิวรี ก็ต้องการพิสูจน์ตัวเองเช่นกัน เพราะมีช่วงระยะเวลาหนึ่งที่ ฟิวรี เป็นโรคซึมเศร้า ติดยาเสพติด ปล่อยร่างกายจนอ้วนฉุ และออกจากวงการมวยไปถึง 3 ปี ในช่วงเวลาที่เขาจะคืนวงการ เขาต้องการใครสักคนที่ให้โอกาส.. และนั่นเองคือการเจอกันของพวกเขาทั้งสองคน 

6

"ไทสัน ฟิวรี กำลังสิ้นไร้ไม้ตอก ณ เวลานั้นเขาต้องการใครสักคนที่ให้ความเชื่อใจในตัวของเขา (ก่อนคัมแบ็กปี 2018)" เบน เดวิสัน อดีตผู้ฝึกสอนของ ฟิวรี ในช่วงก่อนปี 2018 ว่าไว้

"หลังจากนั้น แดเนียล คินาฮาน ก็เข้ามา เขาเข้ามาช่วยเคลียร์หลายๆคดีของ ฟิวรี จนเรียบร้อยทั้งหมด เหลือแค่ให้ ฟิวรี เดินเข้าฉากในฐานะนักมวยอีกครั้งเท่านั้นเอง"

"แดเนียล ทำให้เขามีจุดเริ่มต้นใหม่อกครั้ง มองโลกในแง่ดี พร้อมจะกลับสู่เส้นทางสู่ความสำเร็จสูงสุดอีกครั้งสำหรับ ไทสัน ฟิวรี และนั่นคือเรื่องที่สำคัญและยิ่งใหญ่มากในความรู้สึกของ ฟิวรี" 

การเจอกันครั้งนั้นทำให้ ไทสัน ฟิวรี กลับมาเอาจริงเอาจังในฐานะนักมวยได้อีกครั้ง เขาลดน้ำหนัก เลิกยาเสพติด และกลับมาเป็นนักชกแถวหน้าของโลกได้ในเวลาต่อมา เพียงแต่ว่า แดเนียล คิดมาว่ามันยังไม่พอ เขาต้องการให้ ฟิวรี ไปถึงแชมป์โลกให้ได้ และต้องการจัดแมตช์ที่ทำเงินเข้ากระเป๋าอีกมากๆ

7

แดเนียล ออกตัวจัดไฟต์ที่ ฟิวรี ท้าชิงแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวตของ WBC กับ ดีออนเต ไวลเดอร์ ในปี 2018 แม้ในไฟต์นั้นพวกเขาซัดกันไม่ลง จบด้วยการเสมอกันไป แต่ แดเนียล ยังคงมั่นใจในศักยภาพของ ฟิวรี ว่าถ้ามีไฟต์แก้มือเขาจะสามารถชนะได้แน่ จึงมีการจัดรีแมตช์ขึ้นในปี 2020 และสุดท้าย ไทสัน ฟิวรี ก็สามารถเอาชนะ ไวลเดอร์ ได้จริงๆ และกลายเป็นหมายเลข 1 โดยไร้ข้อโต้แย้ง

การจับคู่กันของทั้งคู่ยังคงเดินหน้าต่อไป ฟิวรี เก่งขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ คินาฮาน เริ่มนำพาเอาเงินเข้ามาใส่กระเป๋าได้แบบไม่หยุด หลังจากคว้าแชมป์ได้ คินาฮาน ลุยเจรจาไฟต์ประวัติศาสตร์ของวงการมวยสหราชอาณาจักร ด้วยไฟต์ระหว่าง ไทสัน ฟิวรี่ กับ แอนโธนี โจชัว ยอดนักชกเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก และแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวตของ WBA, IBF, WBO ได้สำเร็จ ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ ฟิวรี่ สะใจเป็นอย่างมาก 

"ผมเพิ่งพูดกับ แดเนียล คินาฮาน จบลง เขาแจ้งข่าวดีว่าผมจะได้ขึ้นชกไฟต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์วงการมวยของอังกฤษ เราเพิ่งตกลงกันได้เมื่อไม่นานมานี้" ฟิวรี กล่าวผ่านวีดีโอคลิปของเขา

วัวสันหลังหวะ 

การเป็นยอดนักเจรจาและโปรโมเตอร์ของ แดเนียล คินาฮาน ได้รับการชื่นชมเป็นอย่างมาก แม้กระทั่ง บ็อบ อารัม โปรโมเตอร์วัยเก๋าจากค่าย ท็อป แรงก์ โปรโมชั่น ยังยอมรับว่า คินาฮาน คือคลื่นลูกใหม่ที่หลักแหลม มีความกล้าได้กล้าเสีย และมีแววจะยิ่งใหญ่กว่านี้ได้ในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ความสนิทสนมและเริ่มปรากฎตัวบนหน้าสื่อที่มากเกินไปของ คินาฮาน ทำให้รัฐบาลไอร์แลนด์เริ่มไม่พอใจ คนสีดำที่มีพื้นที่ในด้านสีขาว เป็นอะไรที่ยากแก่การยอมรับ รัฐบาลไอร์แลนด์ แสดงความรังเกียจต่อวงการมวยที่ให้พื้นที่กับ คินาฮาน และหนนี้พวกเขาเอาจริง ถึงขั้นมีการออกหมายจับ แดเนียล คินาฮาน เพื่อแสดงให้โลกรู้ว่า "เขาไม่ใช่คนดี" 

8

ตัวของ คินาฮาน นั้น แม้จะถอยไปหลังฉากในโลกสีดำด้วยการหนีไปอยู่ที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทว่าชาวไอริชทุกคนรู้ดีว่า การที่แก๊ง คินาฮาน คาร์เทล ยังเดินหน้าไปต่อไปและรุ่งเรืองจนกลายเป็นแก๊งอาชญากรเบอร์ 1 ของยุโรปนั้น ชื่อเสียงของ แดเนียล ที่เข้ามาชุบตัวในวงการมวยพอมีส่วนสำคัญพอสมควรเลยทีเดียว ยิ่งมวยดีเท่าไหร่ งานสีดำของเขาก็ยิ่งดีขึ้นเท่านั้น นั่นคือความสัมพันธ์ที่รัฐบาลไอร์แลนด์อยากจะล้มล้าง 

รัฐบาลไอร์แลนด์แทบพลิกแผ่นดินล่า คินาฮาน ในช่วงปลายปี 2020 พวกเขาติดต่อไปยัง ยูเออี เพื่อสืบหาตัว คินาฮาน ให้เจอ ขณะเดียวกันสื่อฝั่งอังกฤษอย่าง BBC ก็ได้ทำเรื่องราวตีแผ่ความเน่าเฟะหลังฉากยอดโปรโมเตอร์ของ คินาฮาน เป็นหนังสารคดีที่ออนแอร์ในช่อง BBC Panorama อีกด้วย 

การลุกฮือเพื่อไม่ต้องการให้ คินาฮาน มีที่ยืนในสังคม และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีเกินจริงครั้งนั้นถูกจุดติดจนเป็นกระแส คนในวงการมวยที่รู้ทั้งรู้ แต่อยู่กับ คินาฮาน ได้ก็เพราะเหตุผลเรื่องเงิน จึงเริ่มโดนกดดันมากขึ้นเรื่อยๆ ค่ายมวยไหนที่มีชื่อ แดเนียล คินาฮาน เป็นที่ปรึกษา ก็โดนกดดันจนต้องถอดชื่อเขาออกจากค่ายทั้งหมด แม้กระทั่งนักชกคู่ใจที่สร้างกันมาอย่าง ไทสัน ฟิวรี และ บ็อบ อารัม เพื่อนซี้วงการเดียวกัน ก็ยังต้องประกาศยุติความสัมพันธ์กับ แดเนียล คินาฮาน เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองอีกด้วย 

9

ทุกวันนี้ ว่ากันว่าเขายังอยู่ในดูไบ และมีอะไรให้ทำไม่มากนัก แม้การเข้ามาในวงการมวยจะทำให้ชื่อเสียงของเขาเลื่องลือ ได้รู้จักคนใหญ่คนโตและคนดังในวงการกีฬารวมถึงวงการสื่อ แต่ที่แน่ๆ มันได้สอนให้เขารู้ว่า "จงอย่าเด่นจะเป็นภัย" ได้เป็นอย่างดี 

สุดท้าย ความผิดทั้งหมดที่เขาเคยก่อก็ไม่อาจชุบตัวใหม่ด้วยชีวิตในวงการมวยได้ เขาโดนกันฉากออกไปและบีบให้กลับไปใช้ชีวิตในฐานะ "บอส" ของ คินาฮาน คาร์เทล แต่เพียงอย่างเดียว โลกสีขาวหายไป เหลือแต่โลกสีดำเท่านั้นที่พร้อมเปิดต้อนรับคนที่ทำผิดซ้ำซากและไม่กลัวกฎหมายอย่างเขา

สิ่งดีจากการเข้าสู่วงการกำปั้นของ แดเนียล คินาฮาน คือการสร้างกระแสมวยรุ่นใหญ่ให้จุดติดขึ้นมาได้ และเหนือสิ่งอื่นใด คือการสร้าง ไทสัน ฟิวรี ขึ้นมาใหม่จนกลายเป็นยอดมวยราวกับปาฏิหาริย์.. ข้อดีมีเท่านี้จริงๆ 

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ ของ "แดเนียล คินาฮาน" : หัวหน้าแก๊งมาเฟียไอริชอันดับ 1 ในยุโรป ผู้ชุบชีวิต "ไทสัน ฟิวรี"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook