"โปรเหมียว" ปภังกร ธวัชธนกิจ : ในวันที่ความฝันกลายเป็นจริง

"เหมียว" ปภังกร ธวัชธนกิจ สาวไทยวัย 21 ปี โด่งดังไปชั่วข้ามคืน เมื่อชื่อของเธอถูกจารึกลงบนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการกอล์ฟไทย ทันทีที่เธอผงาดคว้าแชมป์กอล์ฟรายการ "เอเอ็นเอ อินสปิเรชั่น" ซึ่งเป็น 1 ใน 5 ของรายการระดับเมเจอร์ 

แชมป์สุดยิ่งใหญ่ของ "น้องเหมียว" ทำให้เธอกลายเป็นนักกอล์ฟไทยคนที่ 2 ที่คว้าแชมป์รายการในระดับเมเจอร์ได้สำเร็จ ต่อจาก "โปรเม" เอรียา จุฑานุกาล ทำได้ 2 รายการ วีเมนส์ โอเพ่น ในปี 2016 และ ยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น 2018
นอกจากนี้ เหมียว ยังเป็นนักกอล์ฟไทยคนที่ 4 ที่คว้าแชมป์อาชีพในการแข่งขัน แอลพีจีเอ ทัวร์ ต่อจาก เอรียา จุฑานุกาล (10 ครั้ง)  , โมรียา จุฑานุกาล (1 ครั้ง) และ โปรจัสมิน สุวัณณะปุระ (2 ครั้ง)

ล่าสุด ในการประกาศจัดอันดับคะแนนสะสมโลกกอล์ฟหญิงล่าสุด เมื่อวันจันทร์ที่ 5 เมษายน 2564 "โปรเหมียว" อันดับโลกพุ่งพรวดถึง 90 อันดับ จากเดิมอยู่อันดับ 103 ของโลก แต่เวลานี้ เธอกระโดดขึ้นไปอยู่ในอันดับ 13 ของโลก เป็นที่เรียบร้อย
การก้าวไปสู่ฝันของตัวเองได้สำเร็จอย่างรวดเร็วในวัยเพียง 21 ปี นี่คือตัวชี้วัดที่สำคัญของความมุ่งมั่นตั้งใจของมนุษย์คนหนึ่ง ที่ไม่ได้มีต้นทุนสูง แต่ด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจฝึกซ้อมอย่างหนัก จนไต่ระดับจากเด็กหญฺิงที่หัดเล่นกอล์ฟมือสมัครเล่นจนก้าวสู่มืออาชีพ พร้อมกับแรงผลักดันจากครอบครัว ทำให้เธอขึ้นมายืนในระดับโลกได้

"ทิพยรัตน์ ธวัชธนกิจ" ผู้เป็นแม่ ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมงานสนุกว่าตัวเขาเองดีใจจนพูดไม่ออกที่ลูกทำฝันสำเร็จ และ ยินดีพร้อมกับภูมิใจไม่น้อยเลย ที่ตัวเธอเองได้เป็นฟันเฟืองเล็กๆที่คอยขับเคลื่อนให้ลูกสาวอันเป็นแก้วตาดวงใจทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ได้
แม่ของโปรเหมียว คือคนที่คอยดูแลทั้งเรื่องการจองตั๋วเดินทาง จัดเตรียมอุปกรณ์ ทำแม้กระทั้งเช็กอันดับของลูกในทัวร์นาเม้นท์ต่างๆ  รวมไปถึงการเตรียมตัว ดูแลสิ่งเล็กๆน้อยๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในการออกทัวร์นาเม้นท์ ทั้งไทยและทั่วโลกของโปรเหมียว

สิ่งที่คุณแม่ทำอาจจะดูมันเล็กน้อย แต่ลองนึกภาพตามว่า เรื่องจิปาถะแบบนี้ ถ้าไม่ละเอียดรอบคอบ อาจเกิดข้อผิดพลาดตามมาได้ ซึ่งคุณแม่ทิพยรัตน์ กลับดูแลเรื่องการจัดการเบื้องหลังได้อย่างดี เพื่อให้ลูกสาวได้มีสมาธิสำหรับจดจ่ออยู่กับการฝึกซ้อมและลงแข่งขันได้อย่างไม่ต้องห่วงอะไรทั้งสิ้น 
ส่วนคุณพ่อธนธัช ก็คือคนที่คอยอยู่เคียงข้างลูกเสมอมา เพราะวินาทีที่ลูกสาวเลือกเดินเมื่อ 10 กว่าปีก่อน มันคือจุดที่เขาคิดเสมอว่า "เอาก็เอา...ลุยก็ลุย!!!" 

ด้วยฐานะของครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวย แค่พออยู่พอกินแบบนี้ แต่เมื่อเห็นแววและพรสวรรค์ของลูกสาวที่มีความมุ่งมั่นกับการเล่นกอล์ฟที่ชัดเจน ก็พร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ และยอมรับกับสิ่งที่เลือก เพราะ "กีฬากอล์ฟ" ไม่ใช่ว่าทุกคนจะวิ่งชนความสำเร็จ ได้ทุกคน

โปรเหมียวรู้จักกอล์ฟครั้งแรกตอนอายุ 9 ขวบ จากการลงแข่งขันไดรฟ์กอล์ฟที่โรงเรียน ซึ่งในตอนนั้นเองโปรเหมียวเป็นผู้ชนะการแข่งตีไกล หลังจากนั้นเธอจึงสนใจกอล์ฟมากขึ้นและติดตามดูการแข่งกอล์ฟในโทรทัศน์ โดยมี ไทเกอร์ วูดส์ เป็นไอดอล จากนั้นไม่นานโปรเหมียวก็ได้ขอพ่อเรียนกอล์ฟอย่างจริงจัง
ด้วยความมุ่งมั่นและพรสวรรค์ทำให้เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว หลังจากเรียนทักษะจนชำนาญโปรเหมียวเริ่มลงแข่งขันรายการเยาวชนในประเทศ โดยมีทั้งคุณพ่อและคุณแม่คอยดูแลไปรับไปส่ง พร้อมทั้งจัดการค่าใช้จ่ายทุกอย่างเองทั้งหมด

จนเมื่ออายุได้ 12 ปี ก็มีจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญ ที่เล็งเห็นถึงแววในเส้นทางการเป็นนักกีฬากอล์ฟของเธอ และเข้ามาสนับสนุนเพื่อให้ได้ไปสู่เป้าหมายได้สะดวกขึ้น
"ในวันที่ได้รับโอกาสจากทางสิงห์ ที่เข้ามาซัพพอร์ทค่าใช้จ่ายในช่วงนั้น  ก็ถือว่าเป็นเรื่องราวดีๆ ของครอบครัวของผม ซึ่งคุณสันติ ไม่เคยบอกเลยนะว่าทำไม่ถึงสนับสนุนลูกสาวผม ท่านแค่ขอให้ลูกสาวผมตั้งใจเล่นและทำให้เต็มที่ที่สุดเท่านั้น" นี่คือคำให้สัมภาษณ์ของคุณพ่อโปรเหมียว

กว่าจะมาถึงจุดนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะโปรเหมียวใช้เวลากว่า 10 ปี  กับการฝึกฝนอย่างหนักและตระเวณเข้าร่วมแข่งขันตามทัวร์นาเม้นท์ต่างๆทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อไต่ระดับขึ้นมาแข่งในรายการนี้ และในวันที่เธอคว้าแชมป์ ประโยคแรกที่คุณพ่อได้บอกกับโปรเหมียวหลังได้ชูโทรฟี่ คือ "การเป็นแชมป์ก็ดีใจแค่วันเดียวพอนะลูก และถ้าไม่ได้แชมป์ก็ให้เสียใจแค่วันเดียวเช่นกัน"

"จากนี้ไปก็ขยัน และทุ่มเทให้มากกว่าเดิมขึ้นไปอีก ไม่มีความสำเร็จไหนหรอกนะ ที่มันจะคงอยู่กับเราไปตลอด หากเราไม่วิ่งไปหามันด้วยสิ่งที่เราทำมันด้วยตัวเราเอง" นี่คือประโยคเตือนใจที่คุณพ่อได้พูดทิ้งท้ายใว้

การได้แชมป์ในครั้งนี้ถือเป็นรางวัลให้กับ ครอบครัว "ธวัชธนกิจ" ที่มุ่งมั่นและตั้งใจทำมากว่า 10 ปี
วันนี้ชื่อของ "ปภังกร ธวัชธนกิจ" ได้ถูกจารึกชื่อบนลีเดอร์บอร์ดว่าเธอคือ "แชมป์เปี้ยน" และเป็น "แชมป์เปี้ยน" ในรายการระดับเมเจอร์ที่ยิ่งใหญ่มากเสียด้วย 

และนี่คือบททดสอบ ว่าความไฝ่ฝันที่ยิ่งใหญ่ ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่มันล้วนมาจากคนที่เต็มไปด้วยความตั้งใจและความมุ่งมั่น และเป็นแรงบันดาลใจให้กับครอบครัวอื่นๆที่กำลังทำตามฝัน ให้มุ่งมั่นต่อไป

แน่นอน นาทีนี้ ชั่วโมงนี้ ต้องยกให้เธอคนนี้จริงๆ "เหมียว" ปภังกร ธวัชธนกิจ