สัจธรรมชีวิต : กุน อเกวโร.. การสร้างสิ่งมหัศจรรย์ท่ามกลางความอิจฉา, นินทา และคนรอซ้ำ

สัจธรรมชีวิต : กุน อเกวโร.. การสร้างสิ่งมหัศจรรย์ท่ามกลางความอิจฉา, นินทา และคนรอซ้ำ

สัจธรรมชีวิต : กุน อเกวโร.. การสร้างสิ่งมหัศจรรย์ท่ามกลางความอิจฉา, นินทา และคนรอซ้ำ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

10 ปีอันยิ่งใหญ่ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เซร์คิโอ อเกวโร ได้รับการประกาศว่า ปาร์ตี้กำลังจะสิ้นสุดลงหลังจบฤดูกาล 2020-21 ท่ามกลางความใจหาย, ความผูกพัน และความรัก

10 ปีแห่งตำนานกว่าจะผ่านมาถึงตรงนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย จากวันแรก การย้ายทีมที่ทั้งสโมสรและนักเตะโดนแซวเละเทะ แต่วันนี้ทุกอย่างได้เปลี่ยนไป 

และนี่คือเรื่องการลบล้างคำนินทา ด้วยการสถาปนาตัวเป็นตำนานอันดับ 1 ของ แมนฯ ซิตี้ ของ กุน อเกวโร

การเริ่มต้นที่โดนดูถูก

เรื่องราวบทแรกระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เซร์คิโอ อเกวโร นั้นเต็มไปด้วยคำเย้ยหยัน ย้อนกลับไปเมื่อ ณ ตอนนั้น ปี 2011 หลายสิ่งหลายอย่างแตกต่างไปจากตอนนี้อย่างสิ้นเชิง 

แมนฯ ซิตี้ โดนล้อเลียนว่าเป็นทีม "พลาสติก" กล่าวคือทีมที่ไร้ประวัติศาสตร์ฟุตบอล ลืมตาอ้าปากได้ก็เพราะว่ามีเศรษฐีมาซื้อทีม ขณะที่ฝั่ง อเกวโร ก็โดนมองในแง่ลบพอสมควร แม้เขาจะเก่งกาจมาจาก แอตเลติโก มาดริด แต่การเป็นนักเตะอเมริกาใต้นั้นมีภาพลักษณ์ที่ไม่ดีเอาเสียเลยในวงการฟุตบอลอังกฤษ ทุกคนคุ้นชินกับนักเตะอเมริกาใต้ในแง่ลบ เช่น ปรับตัวไม่ได้ วินัยหย่อนยาน และเป็นตัว Toxic ในทีม ซึ่งในรายของ อเกวโร เองก็โดนมองว่าจะเป็นเหมือนกับหลาย ๆ คนที่เข้ามาอยู่กับทีมเพราะเงิน ... ซึ่งนั่นถูกแค่ครึ่งเดียว


Photo : www.premierleague.com

เขายากจนจริง ๆ บ้านของ อเกวโร อยู่ในเขตชานเมืองของกรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา พ่อของเขาเป็นคนขับแท็กซี่ มีรายได้ที่ตีเป็นเงินไทยก็ราว ๆ 860 บาทต่อสัปดาห์ เมืองของพวกเขามีประชากร 60,000 คน และครึ่งหนึ่งเป็นผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ดังนั้นไม่แปลกที่พวกเขาจะโตมากับการต้องปากกัดตีนถีบ และเมื่อมีโอกาสที่ดี เขาก็ต้องคว้าไว้ 

"ผมโตมากับช่วงเวลาที่เลวร้าย เพื่อนของผม 90% ติดคุกในเวลานี้ แทบทุกคนไม่มีใครอยู่บ้านแล้ว" อเกวโร เล่าย้อนความ

 

การเซ็นสัญญากับ แมนฯ ซิตี้ ทำให้เขาได้สัญญาเป็นค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ 8.6 ล้านบาท เทียบกันเงินที่พ่อเขาเคยหามาจุนเจือครอบครัวเมื่อวัยเด็ก คือห่างกัน 1 พันเท่า ... ดังนั้นคุณจะคิดว่าเงินเป็นเหตุผลส่วนหนึ่ง มันก็ไม่ผิดนัก 

ว่ากันว่า ณ เวลานั้น อเกวโร่ ที่อายุ 23 ปี ได้รับความสนใจจากทั้ง ลิเวอร์พูล, เชลซี และ ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ แต่การที่เขาย้ายมาเล่นให้ ซิตี้ ในฤดูกาล 2011-12 ก็เพราะว่า ซิตี้ ยอมจ่ายมากกว่าทีมอื่น ๆ โดยยอมทุ่มเงินสูงถึง 35 ล้านปอนด์


Photo : www.skysports.com

ฝั่งหนึ่งก็พร้อมทุ่มแหลกทุกทางเพื่อให้ได้สิ่งทีเรียกว่า "ความยิ่งใหญ่" ขณะที่อีกคนก็รับเงินเดือนมากมายตั้งแต่อายุยังน้อยโดยปฏิเสธทีมที่ใหญ่และมีประวัติศาสตร์มากกว่า ... ทั้งที่ความจริงนั้นมันคือดีลที่เรียกว่า วิน-วิน สโมสรได้นักเตะที่ต้องการ ส่วนนักเตะก็ได้ผลตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อ แต่สัจธรรมของชีวิตคนเราข้อหนึ่ง ว่ากันว่า "พอจน ก็ย่ำยี พอมี ก็อิจฉา อยู่เฉย ๆ ยังนินทา นี่แหละหนาคนเรา" จากการ วิน-วิน ก็กลายเป็นการโดนมองในแง่ลบ

ไร้คลาสใช้แต่เงินเพื่อปาดหน้าทุกทีม ... อีกฝ่ายก็โดนมองว่าเห็นแก่เงิน ถ้าเล่นไม่ดีก็กินเงินสโมสรไปฟรี ๆ ถ้าเล่นดีมีทีมสนใจก็พร้อมย้ายหนีทุกเวลา ณ เวลานั้นมีการขุดคำสัมภาษณ์ของ อเกวโร สมัยที่เขายังเป็นดาวรุ่งอยู่ ซึ่งในตอนนั้นเขาบอกว่าเขาเป็นแฟนบอลของ ลิเวอร์พูล พันธุ์แท้ ...

 

มาถึงตรงนี้ผิดทุกประการ เพราะประวัติศาสตร์ของสโมสรแห่งนี้ได้เริ่มต้นตั้งแต่วันนั้นแล้ว

Aguerooooooo! 

สิ่งที่ แมนฯ ซิตี้ ได้จาก อเกวโร ตั้งแต่วันแรกคือความเป็นมืออาชีพ เขาไม่เคยมีปัญหาเรื่องพฤติกรรมแง่ลบ วินัยในการฝึกซ้อมยอดเยี่ยม แม้จะย้ายมาตั้งแต่อายุ 23 ปี แต่ก็สามารถปรับตัวกับชีวิตความเป็นอยู่และฟุตบอลอังกฤษได้อย่างรวดเร็ว 


Photo : France24

เรื่องภาษาที่ว่ายากก็ไร้ปัญหา แม้ อเกวโร จะพูดไม่ค่อยได้ในระดับคล่องแคล่วมากมายนัก แต่เขาก็พยายามพูดอังกฤษโดยไม่ต้องมีล่ามแปลภาษา ครั้งหนึ่งในเกมที่ แมนฯ ซิตี้ ชนะ เวสต์แฮม 3-1 ในช่วงที่เขามาอยู่กับทีมใหม่ ๆ การสัมภาษณ์หลังเกมของเขาก็กลายเป็นที่เฮฮาและให้เพื่อนร่วมทีมได้แซวเรื่อยมาก เขาเข้าสัมภาษณ์พร้อมกับ ไมกาห์ ริชาร์ดส์ ทว่าเมื่อนักข่าวถามว่า "รู้สึกอย่างไรกับการโหม่งประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ?" ไมกาห์ ก็ปล่อยให้ อเกวโร โซโล่เดี่ยวต่อหน้ากล้องทันที

 

"I don't know... but yes my first goal the head Ok. I'm Very Happy." ซึ่งนั่นเรียกเสียงฮาให้ทุกคนในวันนั้น 

"ผมหวังเสมอที่จะเป็นหนึ่งเดียวกับทีม มันเป็นนิสัยของผมอยู่แล้ว แม้แฟน ๆ ของ ซิตี้ จะแตกต่างกับแฟนของ แอตฯ มาดริด แต่ในแง่ความรู้สึกนั้นมันเหมือนเดิม ไม่ว่าใครจะคิดอย่างไร แต่ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับแฟน ๆ ถือเป็นสิ่งพิเศษสุด มันทำให้อุ่นใจ และเป็นแรงบันดาลใจของผมเสมอ"  

ทัศนคติของ อเกวโร่ ถือว่าผ่านฉลุย และเรื่องฝีเท้าก็โดดเด่นเกินคาด เขาเป็นคนสำคัญในทุก ๆ เกมที่ลงสนาม ยิงประตูสำคัญ ๆ ช่วยทีมมากมาย และสิ่งสำคัญที่สุด คือการซัดประตูชัยในนาทีสุดท้ายที่ แมนฯ ซิตี้ ชนะ ควีนส์พาร์ก เรนเจอร์ส 3-2 และเป็นเกมที่ทำให้ ซิตี้ คว้าแชมป์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบ 44 ปี 


Photo : ESPN 

เขาเป็นเหมือนปรากฏการณ์ของ แมนฯ ซิตี้ ที่มีความคงเส้นคงวาเสมอ รักษามาตรฐานการเล่นได้ยาวนานถึง 10 ปีเต็ม ๆ ที่อยู่กับสโมสร ไม่ว่าจะ โรแบร์โต มันชินี, มานูเอล เปเยกรินี และ เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือคนไหน ๆ ต่างก็บอกว่า อเกวโร คือดาวยิงที่ดีที่สุดเท่าที่สโมสรแห่งนี้เคยมี และแน่นอนว่าไม่มีใครกล้าเถียง

 

"เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยเล่นด้วย ไม่ใช่เพราะเขาเป็นคนยิงประตูได้เท่านั้น แต่มันคือเรื่องของทัศนคติ เขาใส่เต็มทุกเกมเพื่อทีม และพาทีมไปข้างหน้า" นีคือสิ่งที่ ดาบิด ซิลบา อดีตจอมทัพชาวสเปนของ ซิตี้ ชื่นชม อเกวโร ในฐานะอันดับ 1 ตลอดกาล 

แม้กระทั่งในวันที่ทุกคนมองว่าเขาใหญ่เกินสโมสร เก่งเกินว่าความสำเร็จและเกียรติยศที่ ซิตี้ จะมอบให้ได้ อเกวโร ก็ยังแสดงออกและยืนยันท่าทีชัดเจนเสมอว่า "เขาจะอยู่กับทีมต่อไป และร่วมคว้าความสำเร็จด้วยกัน" 

"เป้าหมายของผมคือการก้าวหน้าไปพร้อมกับทีม เราพัฒนาขึ้นในทุก ๆ ปี เราเติบโตและทำงานไปในทิศทางเดียวกัน ผมอยู่ที่นี่มา 5 ปี และบอกตรง ๆ ว่าเราเดินมาไกลมากจากวันแรกที่ผมมาถึงที่นี่" 

"ผมมีความสุขกับชีวิตที่นี่ อากาศไม่ได้แย่ ไม่ได้หนาวอย่างที่คิด เรามีโปรเจกต์ร่วมกัน ผมและครอบครัวมีความเห็นตรงกัน คือที่นี่เป็นเหมือนบ้าน และผมยืนยันอีกครั้งว่า ผมจะมอบทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมมีให้กับสโมสรแห่งนี้ ให้เราประสบความสำเร็จมากกว่าที่เคย" อเกวโร กล่าวหลังเกมที่ แมนฯ ซิตี้ โดน บาเยิร์น มิวนิค ถล่มเละคาบ้าน 1-3 ในเกม แชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มฤดูกาล 2013-14 จนหลายคนปรามาสว่า ทีมเรือใบสีฟ้าคงไม่มีทางไปเป็นเจ้ายุโรปอย่างที่เคยขายฝัน


Photo : Goal

 

ไม่มีการหนีหายไปไหน มีแต่การร่วมหัวจมท้ายและทำให้ทุกคนคิดผิด 257 ประตูจากการลงสนาม 384 นัด ทำลายสถิติมากมายทั้งในสโมสรและในเกาะอังกฤษ แชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัย, แชมป์ เอฟเอ คัพ 1 สมัย, แชมป์ ลีก คัพ อีก 5 สมัย และรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีกอีก 2 ฤดูกาล 

ตอนนี้ไม่มีใครพูดถึงเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ อีกต่อไปแล้ว ไม่มีใครบอกว่าซิตี้ไร้คลาส พวกเขาคือสโมสรในลีกอังกฤษที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดใน 5 ปีหลัง และเขาคือหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญของยุคสมัยใหม่ของเรือใบสีฟ้าอย่างแท้จริง

10 ปีแห่งความยิ่งใหญ่กำลังจะปิดฉากลงหลังจบฤดูกาล 2020-21 เมื่อมีการยืนยันแล้วว่าพวกเขาจะไม่มีการเซ็นสัญญากันเพิ่มเติมต่อจากนี้ ... อเกวโร ลาจากทีมจริง ๆ แต่ไม่ได้ลาไปในแบบที่คนอื่นคาดไว้ เขามาอย่างมีข้อกังขา และจากไปอย่างตำนาน 

"สิ่งที่ เซร์คิโอ ทำไว้ให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตลอด 10 ปีที่ผ่านมามันไม่สามารถกล่าวอะไรได้เกินจริง ตำนานของเขาจะฝังลึกอยู่ในความทรงจำของทีมคนที่รักสโมสรแห่งนี้ หรือแม้แต่คนที่รักฟุตบอลจริง ๆ" คัลดูน อัล มูบารัค ประธานสโมสรกล่าว

7 ปีที่แล้ว เขากล่าวคำยืนยันกับสโมสรไว้เช่นไร ทุกวันนี้ อเกวโร ยังคงกล่าวคำเดิม นั่นคือการยืนยันว่าเขาจะนำความยิ่งใหญ่มาสู่ทีม ... แม้กระทั่งรู้ว่าตอนจบจะมาถึงแล้วก็ตาม 

"ผมมีความสุขและเป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้เล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาตลอด 10 ฤดูกาล มันเป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดาสำหรับนักฟุตบอลอาชีพในปัจจุบันนี้ ตลอด 10 ซีซั่นพร้อมกับความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ตลอดไปจนถึงการที่ผมได้เป็นดาวซัลโวสูงสุดในหน้าประวัติศาสตร์สโมสร"


Photo : Goal 

"ผมจะทุ่มเทอย่างเต็มที่ในช่วงที่เหลืออยู่ของฤดูกาลนี้ เพื่อคว้าแชมป์ให้ได้มากที่สุด และนำความสุขมาสู่แฟนบอล หลังจากนั้น สำหรับเวทีใหม่พร้อมกับความท้าทายใหม่จะเริ่มต้น และผมพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งเหล่านี้ด้วยแรงปรารถนาและความเป็นมืออาชีพ ซึ่งผมพร้อมทุ่มเทอย่างเต็มที่ให้กับการแข่งขันในระดับสูงเสมอ" อเกวโร กล่าวทิ้งท้าย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook