เลสเตอร์ บุกโค่น แมนฯยูฯชุดสำรอง 2-1 ยื่นแชมป์ลีกให้ แมนฯ ซิตี้ อย่างเป็นทางการ

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2020/21
  คืนวันอังคารที่ 11 พฤษภาคม 2021
 
 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2 เลสเตอร์ ซิตี้

สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด
 ผู้ตัดสิน : เคร็ก พาวสัน

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ส่งสำรองลงถึง 10 ตำแหน่งโดน เลสเตอร์ บุกมาโค่นได้ถึงถิ่นตามคาด 1-2 ส่งให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นแชมป์ พรีเมียร์ลีก อย่างเป็นทางการ

เลสเตอร์ ครองเกมได้เหนือกว่า ยูไนเต็ด อย่างเห็นได้ชัดในช่วงต้นเกมแต่โอกาสไม่มากนัก

นาทีที่ 10 ลุค โธมัส เติมมายิงวอลเล่ย์จากลูกเปิดจากด้านขวาของ เลสเตอร์ ส่งให้ทีมออกนำไปก่อน 0-1
นาทีที่ 15 แมนฯ ยูไนเต็ด กับโอกาสครั้งแรกก็สามารถตีเสมอได้ทันทีโดย กรีนวู้ด ที่ต้องทั้งชมทักษะของ ดิยัลโล ในการหลอกล่อ โธมัส จนเสียหลักและการจบสกอร์ของ เมสัน ที่คมกริบทีเดียว

จนถึงนาทีที่ 41 กราฟฟิคแสดงให้เห็นว่าต่างฝ่ายต่างมีโอกาสกันคนละหนเท่านั้นในเกมนี้โดยสกอร์ก็ยังคงเสมอกันอยู่ดังเดิม

หมดเวลาการแข่งขันในครึ่งเวลาแรกไปแบบเนือยๆ 1-1

เกมของ ยูไนเต็ด ดูจะตะกุกตะกักกว่าครึ่งแรกพอสมควรและแทบจะไม่สามารถพาบอลขึ้นไปเกินแดนตัวเองได้เลย

นาทีที่ 65 โซยุนชู เทคตัวเอาชนะ มาติช โขกลูกเตะมุมเข้าไปตุงตาข่าย 1-2
เลสเตอร์ ซิตี้ หาโอกาสจบสกอร์ได้เพิ่มอีกถึง 9 ครั้งจนถึงนาทีที่ 81 ในขณะที่ ยูไนเต็ด มีโอกาสเพิ่มมาเพียงหนเดียวเท่านั้นนับตั้งแต่เริ่มครึ่งหลังมา

จนถึงท้ายเกม ยูไนเต็ด ก็ยังคงเร่งเกมไม่ขึ้นและจบเกมด้วยความพ่ายแพ้ของพวกเขาถึงถิ่น  พร้อมกับทำให้แมนฯซิตี้ คว้าแชมป์ไปครองอย่างเป็นทางการ
 
ส่วน เลสเตอร์ ชนะเกมนี้ล้ำค่าขยับขึ้นมาอันดับ 3 และทำแต้มทิ้งห่าง เวสต์แฮม เป็น 8 แต้มและนำหน้า ลิเวอร์พูล อยู่ 9 คะแนนแต่แข่งมากกว่านัดนึง

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

แมนฯยูไนเต็ด  : ดาบิด เด เคอา - แบรนดอน วิลเลียมส์, อาเซล ตวนเซเบ้, เอริก ไบยี่, อเล็กซ์ เตลิส - เนมานย่า มาติช, ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค - อาหมัด ดิยัลโล่ (บรูโน่ แฟร์นันด์ส น.78), ฆวน มาต้า, อ็องโตนี่ เอล็องก้า (มาร์คัส แรชฟอร์ด น.66) - เมสัน กรีนวู้ด (เอดินสัน คาวานี่ น.66)

 เลสเตอร์ ซิตี้   : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล - ทิโมธี กาสตานเญ่, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, คลาการ์ โซยุนคู - มาร์ค อัลไบรท์ตัน, ยูริ ตีเลมันส์, วิลฟรีด เอ็นดิดี้, ลุค โธมัส - อาโยเซ่ เปเรซ (เจมส์ แมดดิสัน น.65) - เคเลชี่ อิเฮียนาโช่, เจมี่ วาร์ดี้ (ฮัมซ่า เชาฮ์ดรี้ น.80)

ติดตามผลบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทุกคู่ที่นี่ https://www.sanook.com/sport/program/