สปอนเซอร์หน้าอกทีมฟุตบอล ที่กลายเป็นภาพจำฝังแน่นในใจคุณ
เสื้อฟุตบอล คือหนึ่งในส่วนสำคัญของวัฒนธรรมเกมลูกหนัง ที่ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องแต่งกายสวมใส่ลงสนามของผู้เล่น แต่รวมถึงภาพแทนของแต่ละสโมสร ซึ่งสะท้อนตัวตนของทีมในแต่ละช่วงเวลาออกมาได้เป็นอย่างดี
สิ่งหนึ่งที่มีบทบาทบนเสื้อแข่งขันมาอย่างยาวนาน คือสปอนเซอร์คาดหน้าอก นอกจากหน้าที่หลักคือการเป็นเครื่องมือหารายได้ให้กับสโมสร เหล่าโฆษณาบนเสื้อแข่งยังเป็นเหมือนอีกสัญลักษณ์ ที่ทำให้แฟนฟุตบอลจดจำแต่ละสโมสรได้เป็นอย่างดี
บางสโมสรเกิดมาเพื่อคู่กับแบรนด์เพียงหนึ่งเดียว ที่หากได้มารวมตัวกันบนเสื้อแข่งฟุตบอล จะไม่มีทางถูกลืมเลือน หรือแยกจากกันได้อีก ในฐานะสปอนเซอร์ที่ติดตาแฟนบอล ต่อให้มีผลิตภัณฑ์เจ้าใหม่ขึ้นมาแทนที่ ก็ไม่สามารถลบเลือนภาพแห่งความทรงจำเหล่านี้ไปได้
SHARP - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (1982-2000)
เริ่มต้นที่ Sharp แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าจากประเทศญี่ปุ่น ที่ก้าวเข้ามาเป็นสปอนเซอร์คาดหน้าอกเจ้าแรก ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 1982 ซึ่งทันทีที่ Sharp เข้ามา ทัพปีศาจแดงประสบความสำเร็จทันที ด้วยการคว้าแชมป์ เอฟเอคัพ ในฤดูกาล 1982-83
ความสำเร็จเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ Sharp กลายเป็นสปอนเซอร์ที่ถูกจดจำของทัพปีศาจแดง เพราะในช่วงที่แมนฯ ยูไนเต็ด ก่อร้างสร้างตัวล่าความสำเร็จ จนกลายเป็นมหาอำนาจของวงการลูกหนัง ทุกครั้งที่พวกเขาชูถ้วย Sharp คือสปอนเซอร์ที่อยู่บนเสื้อแข่งเสมอ
แฟนฟุตบอลของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จำนวนมากในปัจจุบัน จึงเติบโตมากับ การได้เห็น Sharp เป็นสปอนเซอร์คาดหน้าอก ตำนานนักฟุตบอลมากมายของสโมสรแห่งนี้ เคยผ่านการสวมเสื้อที่มีตัวอักษร Sharp อยู่บนหน้าอก ไม่ว่าจะเป็น ไบรอัน ร็อบสัน, เอริก คันโตนา, ปีเตอร์ ชไมเคิล, เดวิด เบ็คแฮม, รอย คีน, พอล สโคลส์, ไรอัน กิ๊กส์ เป็นต้น
นอกจากนี้ โลโก้ของ Sharp ที่เป็นเพียงตัวอักษรภาษาอังกฤษอันเรียบง่าย ทำให้ Sharp เข้าเป็นส่วนหนึ่งกับเสื้อแข่งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้เป็นอย่างดี ทำให้ Sharp จึงเป็นเหมือนเครื่องปรุงที่ชูรสชาติความสวยงาม ให้กับเสื้อแข่งของแมนฯ ยูไนเต็ด
เสื้อแข่งหลายตัวของแมนฯ ยูไนเต็ด ที่มี Sharp เป็นสปอนเซอร์ กลายเป็นเสื้อแข่งระดับตำนาน เป็นที่ต้องการของนักสะสม ในปัจจุบัน
JVC - อาร์เซนอล (1981-1999)
JVC คือสปอนเซอร์เจ้าแรกของทีมดังจากลอนดอนเหนือ อยู่คู่กันยาวนานถึง 18 ปี ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากแฟนบอลของทัพปืนโต จะจดจำสปอนเซอร์เครื่องใช้ไฟฟ้าจากประเทศญี่ปุ่นได้มากที่สุด
ไม่ต่างจากกรณีของ Sharp กับแมนฯ ยูไนเต็ด ... JVC เข้ามาในช่วงที่อาร์เซนอล ก่อร่างสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับสโมสร อาร์เซนอลคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก, ลีกคัพ และ ยูฟ่า คัพ วินเนอร์ คัพ ครั้งแรกภายใต้สปอนเซอร์คาดอกเป็น JVC
รวมถึงนักเตะระดับตำนานของอาร์เซนอล ทั้ง โทนี่ อดัมส์, ลี ดิกซัน, เดนนิส เบิร์กแคมป์, เดวิด ซีแมน, ปาทริค วิเอรา ล้วนผ่านการสวมเสื้อที่คาดหน้าอกด้วยแบรนด์นี้มาแล้วทั้งสิ้น
นอกจากนี้ ความเป็นตัวอักษร JVC อันเรียบง่ายที่อยู่บนเสื้ออาร์เซนอล ทำให้เสื้อแข่งของทัพปืนโต ตลอดยุค 80s และ 90s เต็มไปด้วยความงดงาม และถูกจดจำมาจนถึงทุกวันนี้
CARLSBERG - ลิเวอร์พูล (1992-2010)
ลิเวอร์พูลคือหนึ่งในสโมสร ที่มีสปอนเซอร์คาดหน้าอก ซึ่งได้รับการจดจำหลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น Candy หรือ Crown Paints จากยุครุ่งเรืองของสโมสร แต่ไม่มีสปอนเซอร์ไหนที่เปรียบเสมือนตัวแทนของสโมสรแห่งนี้ มากไปกว่า Calsberg แบรนด์เครื่องดื่มจากประเทศเดนมาร์ก
เหตุผลสำคัญที่ทำให้ Calsberg เป็นที่จดจำของแฟนบอลลิเวอร์พูล คือความสำคัญที่เป็นมากกว่าพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ แต่เปรียบเสมือนเพื่อนที่ร่วมหัวจมท้ายกันมาอย่างยาวนาน แบรนด์เครื่องดื่มจากประเทศเดนมาร์ก อยู่คู่กับสโมสรแห่งนี้เสมอ แม้ในวันที่ทีมร้างจากความสำเร็จอย่างยาวนาน ไม่รุ่งเรืองแบบในอดีต แต่ Calsberg ไม่เคยคิดจะทิ้งลิเวอร์พูลไปสนับสนุนสโมสรอื่น
นอกจากนี้ ความเป็นชนชั้นแรงงานของลิเวอร์พูล ทำให้ไม่มีสปอนเซอร์ไหนที่จะเข้ากับกลุ่มแฟนบอล มากไปกว่าเครื่องดื่มจากข้าวบาร์เลย์อีกแล้ว ดังนั้น Calsberg จึงเปรียบเสมือนภาพแทนของสโมสรแห่งนี้ ในอีกรูปแบบหนึ่ง
ปัจจุบัน Calsberg ยังคงเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักของลิเวอร์พูล แม้จะไม่ได้เป็นสปอนเซอร์คาดหน้าอกเหมือนในอดีต แต่ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น ทำให้แฟนบอลไม่มีทางลบภาพ Calsberg ไปจากลิเวอร์พูลได้เลย
PIRELLI - อินเตอร์ มิลาน (1995-2021)
หากนึกถึงสปอนเซอร์ของ อินเตอร์ มิลาน เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่นึกถึง Pirelli แบรนด์ยางรถยนต์ที่อยู่คู่กับสโมสรแห่งนี้ ยาวนานถึง 26 ปี
การจับมือกันอย่างยาวนานของทั้งสององค์กร ทำให้ไม่ว่าจะเป็นแฟนบอลยุคไหน ล้วนต้องคุ้นชินกับการเห็นเสื้ออินเตอร์ ที่มีโลโก้ของ Pirelli อยู่บนหน้าอก ผ่านการสวมใส่ของนักเตะชื่อดัง ทั้ง ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ, โรนัลโด้, อาเดรียนโน, คริสเตียน วิเอรี, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, เวสลีย์ สไนเดอร์ มาจนถึง โรเมลู ลูกากู ในยุคปัจจุบัน
นอกจากนี้ Pirelli คือสปอนเซอร์ที่คอยซัพพอร์ทด้านการเงิน ให้กับ อินเตอร์ มิลาน มาโดยตลอด จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทั้งสองฝ่าจะมีความสัมพันธ์ที่ดีมาก จนถึงขั้นที่ว่า ทัพงูใหญ่เคยออกแบบเสื้อแข่งโดยมียางรถยนต์ของ Pirelli เป็นไอเดียของงานมาแล้ว นั่นคือ เสื้อแข่งชุดที่สาม ประจำฤดูกาล 2019-20
น่าเสียดายที่ฤดูกาล 2020-21 จะเป็นปีสุดท้ายที่ Pirelli คาดหน้าอกให้กับอินเตอร์ มิลาน เนื่องจากสโมสรแห่งนี้กำลังจะเปลี่ยนสปอนเซอร์ เพื่อเข้าสู่ยุคใหม่อย่างเต็มตัว
7UP - ฟิออเรนตินา(1992–1994)
บางสิ่งอาจอยู่คู่กันไม่นาน แต่มีตำนานให้เล่าขานตลอดไป นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น ระหว่างฟิออเรนตินา กับแบรนด์เครื่องดื่มในเครือ Pepsi จากประเทศสหรัฐอเมริกา
แตกต่างจากกรณีอื่น ทั้งสององค์กรไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง และร่วมงานกันเพียง 2 ปี แต่ทุกเสื้อแข่งที่ออกมาในช่วงเวลานั้นทุกตัว ล้วนกลายเป็นเสื้อแข่งระดับตำนาน เป็นที่ต้องการของนักสะสมเสื้อฟุตบอลมาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสื้อแข่งชุดสวัสดิกะ หรือชุดเยือนในปี 1992-93 ซึ่งเป็นที่จดจำของวงการเสื้อฟุตบอลมาจนถึงปัจจุบัน
โลโก้ 7up ที่อยู่บนเสื้อแข่ง ไม่ได้มาอย่างเรียบง่าย เหมือน Sharp หรือ JVC แต่มาพร้อมกับโลโก้ของแบรนด์ใหญ่มหึมา แต่กลับลงตัวอย่างเหลือเชื่อ บนเสื้อของฟิออเรนตินา จนไม่รู้สึกว่าน่าเกลียด หรือเป็นส่วนเกินของเสื้อ
อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ 7up ถูกจดจำในฐานะสปอนเซอร์ของฟิออเรนตินา คือการได้อยู่บนหนังสือ การ์ตูน วีว่า กัลโช ซึ่ง โย ชิอินะ (หรือ โย ชีนา) ตัวเอกของเรื่องเป็นนักเตะฟิออเรนตินา ในช่วงที่ 7up เป็นสปอนเซอร์คาดหน้าอกอยู่
UNICEF - บาร์เซโลนา (2006-2011)
บาร์เซโลนา คือสโมสรชื่อดังระดับโลกทีมสุดท้าย ที่มีสปอนเซอร์คาดหน้าอก เนื่องด้วยความอนุรักษ์นิยมของสโมสร ที่จะไม่ยอมให้แบรนด์ด้านการค้า มาใช้ผลประโยชน์บนชุดแข่งของทีม
อย่างไรก็ตาม ธรรมเนียมเก่าแก่ยาวนานของบาร์เซโลนา ได้ยุติลงในปี 2006 เมื่อทีมตัดสินใจมีสปอนเซอร์คาดอกเป็นครั้งแรก ซึ่งทำให้เรื่องราวน่าจดจำยิ่งขึ้นกว่าเดิม
เพราะแทนที่จะเป็นแบรนด์ด้านธุรกิจ บาร์เซโลนา เลือกให้องค์กรไม่แสวงผลกำไรอย่าง Unicef มาคาดหน้าอก แถมยังต้องเสียเงินบริจาคเข้าองค์กร แทนที่จะได้รับเงินสปอนเซอร์อีกด้วย เพราะอย่างน้อย ทีมเชื่อว่าถึงจะทำลายธรรมเนียมของสโมสร แต่ก็ได้ช่วยตอบแทนสังคมคืนกลับเอกลักษณ์อันพิเศษนี้ ทำให้ Unicef กลายเป็นสปอนเซอร์ที่น่าจดจำของบาร์เซโลนา
นอกจากนี้ ในช่วงที่บาร์เซโลนา มีสปอนเซอร์ Unicef คาดหน้าอก คือช่วงเวลาเดียวกับที่ทัพอาซูลกรานา กลายเป็นสโมสรฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ภายใต้การนำของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา และสุดยอดนักเตะอย่าง ลิโอเนล เมสซี่, ชาบี เอร์นานเดซ และ อันเดรส อิเนียสตา
ดังนั้น ภาพของชุดแข่งบาร์ซาโลนา ที่มีโลโก้ Unicef คาดอก จึงแผ่กระจายไปทั่วโลก และถูกจดจำมาจนถึงปัจจุบัน
NEWCASTLE BROWN ALE - นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด (1995-2000)
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด คือสโมสรที่แตกต่าง เพราะเป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่ทีมของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ร่วมหัวจมท้ายกับสปอนเซอร์ท้องถิ่น ทั้งที่เป็นทีมระดับแถวหน้าของลีก กับ Newcastle Brwon Ale แบรนด์เครื่องดื่มชื่อดังประจำเมือง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้โลโก้ Newcastle Brwon Ale เป็นที่จดจำ คือความแปลกของตัวโลโก้ ที่มาพร้อมกับวงรีอันใหญ่ยักษ์ มีดาวสีน้ำเงินอยู่ตรงกลาง แต่กลับมีความลงตัว เข้ากับเสื้อลายขาวดำของนิวคลาสเซิล ได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ การที่ Newcastle Brwon Ale ถูกสวมใส่โดย อลัน เชียเรอร์ กองหน้าเบอร์ 1 ของประเทศอังกฤษในช่วงเวลานั้น พร้อมกับยุคทองของสโมสร ยิ่งทำให้โลโก้ของ Newcastle Brwon Ale อยู่ในความทรงจำของผู้คน และแฟนสาลิกาดงไปตลอดกาล
WALKERS - เลสเตอร์ ซิตี้ (1987-2001)
เลสเตอร์ ซิตี้ คืออีกหนึ่งสโมสรที่ใช้บริการแบรนด์ท้องถิ่น อย่าง Walkers แบรนด์มันฝรั่งทอด ที่ดังไกลไปในเวทีระดับโลก
เวลา 14 ฤดูกาลที่ร่วมงานกัน จึงไม่แปลกหาก Walkers จะถูกจดจำคู่กับ เลสเตอร์ ซิตี้ แต่ที่สำคัญไปกว่านั้น คือความแตกต่างระหว่างทั้งสองแบรนด์นี้
Walkers คือแบรนด์ขนมระดับโลก (Lay's ที่บ้านเราคุ้นเคย ใช้ชื่อ Walkers ทำตลาดในประเทศอังกฤษ) แต่ เลสเตอร์ ซิตี้ เป็นเพียงทีมบ้าน ๆ ที่เลื่อนชั้น และตกชั้นอยู่ตลอดเวลา ทว่า Walkers กลับเลือกที่จะสนับสนุนทีมบ้านเกิด แทนที่จะไปคาดอกให้สโมสรระดับหัวตาราง ทำให้เรื่องราวของ Walkers และเลสเตอร์ ซิตี้ กลายเป็นความผูกพัน ที่ไม่อาจถูกลืมเลือนไปจากความทรงจำของแฟนบอล
นอกจากนี้ โลโก้ขนมมันฝรั่งทอด ที่อยู่บนเสื้อฟุตบอลสีน้ำเงินเข้มของทัพจิ้งจอก กลายเป็นภาพติดตาของแฟนบอลเป็นอย่างดี เพราะจนปัจจุบันนี้ แบรนด์ระดับโลกอย่าง Walkers ไม่เคยจะกลับไปคาดหน้าอกให้กับสโมสรไหนอีกเลย ทั้ง ๆ ที่หากมีโอกาสได้ไปชมเกมในสนามบอลที่อังกฤษจะพบว่า นี่คือมันฝรั่งทอดที่คุณจะต้องได้เจอ
ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น ทัพจิ้งจอก และ Walkers ยังได้ออกรุ่นพิเศษตามวาระต่าง ๆ ขายหรือแม้กระทั่งแจกฟรีใน คิง เพาเวอร์ สเตเดียม ให้แฟนบอลตามเก็บซองอยู่เป็นประจำถึงทุกวันนี้
OPEL - เอซี มิลาน (1994-2006)
Opel แบรนด์รถยนต์จากประเทศเยอรมัน เป็นที่จดจำในฐานะสปอนเซอร์คาดหน้าอกทีมฟุตบอลกับหลายสโมสร เช่น บาเยิร์น มิวนิค, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง หรือแม้กระทั่งทีมชาติไอร์แลนด์ แต่ไม่มีทีมไหนจะถูกจดจำมากไปกว่า เอซี มิลาน
ความคลาสสิคด้วยเสื้อสีแดงดำของทีม ผสมผสานกับโลโก้ที่มีความหรูหราตามสไตล์รถยุโรปแบบ Opel ทำให้เสื้อของเอซี มิลาน ในยุคนั้นเป็นที่จดจำ
ผนวกกับความสำเร็จของทีมตลอดยุคสมัย ทั้งการคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก และกัลโช เซเรีย อา พร้อมกับยุคสมัยที่เต็มไปด้วยแข้งทองของแท้ ทั้ง เปาโล มัลดินี, อันเดรีย ปีร์โล, เจนนาโร กัตตูโซ, คาฟู, อเลสซานโดร เนสตา, อันเดร เชฟเชนโก และ กาก้า ทำให้นี่คือยุคสมัยแห่งความยิ่งใหญ่ของทัพปีศาจแดงดำอย่างแท้จริง
จึงไม่แปลกหาก Opel กับเสื้อเอซี มิลาน จะยังอยู่ในความทรงจำของแฟนบอลทั่วโลก
CHANG - เอฟเวอร์ตัน (2004-2017)
ชาวต่างชาติอาจไม่รู้สึกอะไรกับเคสนี้ แต่เชื่อได้เลยว่า แฟนบอลชาวไทยจะไม่มีทางลืม การคาดหน้าอกของ CHANG หรือ ช้าง แบรนด์เครื่องดื่มชั้นนำของไทย ที่โกอินเตอร์ไปไกล ถึงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กับเอฟเวอร์ตัน
Chang กลายเป็นแบรนด์ไทยแบรนด์แรก ที่ได้คาดอกสโมสรฟุตบอลระดับลีกสูงสุดของอังกฤษ เท่านั้นยังไม่พอ Chang ยังเป็นสปอนเซอร์คาดอกที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรแห่งนี้อีกด้วย
ถึงจะไม่ได้มีเรื่องราวมากมายนัก แต่การได้เห็นแบรนด์จากประเทศไทย อยู่บนเสื้อแข่งของทีมฟุตบอลในพรีเมียร์ลีก ตลอด 13 ปี ถือเป็นอะไรที่น่าจดจำสำหรับคอลูกหนังชาวไทย อย่างน้อยก็ดีกว่า สปอนเซอร์ที่เป็นเว็บพนัน แบบไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ อย่างแน่นอน