สุธาสินี เสวตรบุตร : นักตบลูกเด้งจอมสยบมือวางระดับโลก

ย้อนกลับไปเมื่อ 6 ปีก่อน “สุธาสินี เสวตรบุตร” นักกีฬาเทเบิลเทนนิสทีมชาติไทย ทำให้คนสิงคโปร์ทั้งประเทศช็อกไปตาม ๆ กัน  

เมื่อเธอสามารถเขี่ย “เฟิง เทียน เหว่ย” นักกีฬาเจ้าภาพ ดีกรีเจ้าของ 1 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง ให้ตกรอบแรกในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ 2015 ที่ประเทศสิงคโปร์ อย่างเหนือความคาดหมาย 

32 ปีที่ก่อนหน้านี้ ทัพนักตบปิงปองไทยประเภทหญิงเดี่ยว ไม่เคยได้เหรียญทองซีเกมส์เลยแม้แต่ครั้งเดียว นับตั้งแต่พัชรินทร์ ลอยไสว ทำได้ในซีเกมส์ ครั้งที่ 12 หรือเมื่อปี 1983 เนื่องจาก สิงคโปร์ ครองความเป็นชาติผู้ยิ่งใหญ่ในกีฬาชนิดนี้ โดยเฉพาะประเภทหญิง กระทั่ง สุธาสินี ล้างอาถรรพ์นั้นได้สำเร็จ  และเดินหน้าสร้างบันทึกหน้าใหม่ ให้กับวงการเทเบิลเทนนิสไทย

 

เธอยังเป็นนักตบลูกเด้งสาวไทย ที่ฝีมือดีเข้าตาสโมสรอาชีพต่างแดนดึงตัวไปร่วมทีม และในมหกรรมกีฬา “โตเกียว เกมส์” ครั้งนี้ สุธาสินี เสวตรบุตร พร้อมที่จะเป็นอีกหนึ่งม้ามืดประจำทัวร์นาเมนต์ ที่บรรดามือวางอันดับโลก ประมาทเธอไม่ได้

สิบตำรวจโท สุธาสินี เสวตรบุตร มีชื่อเล่น หญิง เกิดเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2537 ภูมิลำเนาเป็นชาวจังหวัดระนอง บิดาชื่อ ดาบตำรวจ ศักดิ์ชาย เสวตรบุตร มารดาชื่อ นิตยา เสวตรบุตร มีน้อง 1 คนชื่อ จิณห์นิภา เสวตรบุตร เป็นนักกีฬาเทเบิลเทนนิสทีมชาติไทยเช่นเดียวกัน 

สุธาสินี เริ่มต้นหัดเล่นปิงปองตั้งแต่อายุ 6 ขวบ แม้ส่วนสูงตอนนั้นจะยังแทบไม่พ้นขอบโต๊ะด้วยซ้ำ แต่เธอก็มีความสุขทุกครั้งที่ได้จับไม้เดาะลูกปิงปอง และฝึกฝนทักษะอื่น ๆ ที่เด็กวัยนั้นสามารถทำได้

เทเบิลเทนนิส จึงเปรียบเสมือนเพื่อนที่อยู่กับ สุธาสินี มาตั้งแต่วัยเยาว์ เป็นอะไรที่ขาดกันไม่ได้ และเพื่อนคนนี้ก็นำพาเธอก้าวไปสู่สมรภูมิแข่งขันระดับเยาวชนที่เฟ้นหาดาวรุ่งหัวกะทิทั่วฟ้าเมืองไทย ซึ่ง สุธาสินี ก็ฉายแววความเก่งเกินวัยมาโดยตลอด 

จนได้เป็นตัวแทนทีมชาติไทยเข้า ยูธ โอลิมปิก และถูกเรียกเข้ามาเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่กับทีมชาติไทย ตั้งแต่เธออายุแค่ 15 ปีเท่านั้น 

เมื่อเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น สุธาสินี เสวตรบุตร เลือกที่จะเดิมพันอนาคตตัวเอง ด้วยการตัดสินใจออกจากการศึกษาในระบบ ไปเรียน กศน. (การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย) แทน เพื่อจะได้มีเวลาโฟกัสกับกีฬาเป็นหลัก 

เธอกลายเป็นนักกีฬาที่อายุน้อยสุดในแคมป์ปิงปองทีมชาติไทย สุธาสินี จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องลงซ้อม และแข่งขันแย่งชิงตำแหน่งตัวหลักกับบรรดานักตบรุ่นพี่ฝีมือดีหลายราย

ขณะเดียวกัน สุธาสินี ก็ต้องยอมเสียสละช่วงชีวิตแบบวัยรุ่นที่ไม่มีทางได้คืนกลับมา เพื่อเก็บตัวแรมเดือน แรมปี เพราะเธอเลือกแล้วว่าจะเอาดีด้านนี้ แม้ไม่มีทางรู้เลยว่า อีกนานแค่ไหนกว่าเธอจะได้รับโอกาสเป็นตัวจริงทีมชาติไทย ? แต่ทุก ๆ วัน สุธาสินี ก็ยังคงเต็มที่กับการฝึกซ้อม 6 ชั่วโมง เพื่อยกระดับตัวเอง

ในปี 2558 สุธาสินี เสวตรบุตร วัย 21 ปี (ขณะนั้น) ถูกเลือกเป็นตัวแทนทีมชาติไทย ลงแข่งซีเกมส์ ที่ประเทศสิงคโปร์ ชาติที่เป็นเจ้าเหรียญทองเทเบิลเทนนิสระดับภูมิภาค มีนักกีฬาก้าวไปสู่ระดับท็อปของโลก หนึ่งในนั้นคือ เฟิง เทียน เหว่ย นักกีฬาโอนสัญชาติฝีมือฉกาจ 

เฟิง เทียน เหว่ย เคยคว้าเหรียญเงินหญิงใน โอลิมปิก เกมส์ 2008 และ 2 เหรียญทองแดง ในปี 2012  เธอจึงเป็นนักกีฬาขวัญใจเจ้าถิ่น และเป็นความหวังที่จะหยิบเหรียญรางวัลชนะเลิศ ในการแข่งขันมหกรรมกีฬาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

รอบแรก สุธาสินี แจ็คพ็อตจับฉลากเจอกับ เฟิง เทียน เหว่ย ที่มีศักดิ์ศรีเป็นถึงมือวางอันดับ 4 ของโลกในประเภทหญิงเดี่ยว แต่หลังจบเกมชื่อของ “สุธาสินี” ก็ดังกระหึ่ม เพราะสาวน้อยจากจังหวัดระนองเขี่ยนักตบความหวังของสิงคโปร์ ร่วงตกรอบแรก 

เดินหน้าเก็บชัยชนะ ก้าวสู่แชมป์หญิงเดี่ยวซีเกมส์ได้สำเร็จ เป็นครั้งแรกรอบ 32 ปี หลังจากนั้น สุธาสินี เสวตรบุตร ก็เดินหน้าสร้างบันทึกหน้าใหม่ ๆ แก่วงการนักตบลูกเด้งไทยมาตลอด อาทิ เหรียญทองคู่ผสมซีเกมส์ ครั้งแรกรอบ 32 ปี, เหรียญทองหญิงคู่ซีเกมส์ ครั้งแรกรอบ 34 ปี

 

รวมถึงแชมป์หญิงคู่ “ไทยแลนด์ โอเพ่น 2018” ซึ่งเป็นครั้งแรกที่นักกีฬาไทยทำได้ ในรายการเก็บคะแนนสะสมโลก ผงาดขึ้นสู่ตำแหน่ง ราชินีนักตบเทเบิลเทนนิส มือวางอันดับ 1 ของเมืองไทยอย่างไม่ต้องสงสัย

นอกจากนี้ ด้วยความสามารถที่โดดเด่นของ สุธาสินี ยังทำให้เธอได้รับการทาบทามให้ไปเล่นในสโมสร และลีกอาชีพต่างแดนหลายแหล่ง อาทิ ญี่ปุ่น, มาเลเซีย, เช็ก, ตุรกี รวมถึงเคยได้รับทุนให้ไปฝึกศาสตร์ด้านเทเบิลเทนนิสที่ สวีเดน อีกด้วย 

และในการแข่งขันรอบคัดเลือก โอลิมปิก เกมส์ 2020 สเตจที่ 2 “สุธาสินี เสวตรบุตร” โชว์ยอดเยี่ยม ทะลุเข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ ก่อนเอาชนะ เซียว มาเรีย จากสเปน ขาดลอย 4-1 เกม ตีตั๋วผ่านเข้าสู่ โตเกียว เกมส์ ได้สำเร็จ

น่าติดตามอย่างยิ่งว่าใน โอลิมปิก เกมส์ ครั้งนี้ สุธาสินี นักตบจอมสร้างประวัติศาสตร์ไทย จะไปได้ไกลขนาดไหน ? เพราะที่ผ่านมา มือวางระดับโลกอย่างเฉิง ไอ ชิง จากไต้หวัน , ลี โฮ ชิน จากฮ่องกง , หยางฮา อึน เกาหลีใต้ , เฟิง เทียน เหว่ย จากสิงคโปร์ ก็เคยพ่ายเธอมาแล้ว