ธันยพร พฤกษากร : การเดินทาง 18 ปี, 4 โอลิมปิก เกมส์ กับเป้าหมายเหรียญรางวัลแรก
กล่าวถึงนักกีฬายิงปืนระดับแถวหน้าของทีมชาติไทย "ธันยพร พฤกษากร" คงเป็นหนึ่งในนั้น จากประสบการณ์ 18 ปี ในนามทีมชาติ
ตลอด 18 ปีที่ผ่านมา ธันยพรประสบความสำเร็จมากมายในการแข่งขันหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็น 5 เหรียญทอง และ 3 เหรียญเงิน จากมหกรรมกีฬาซีเกมส์ รวมถึง 1 เหรียญทองชิงแชมป์อาเซียน เมื่อปี 2003 ที่นครไทเป และ 1 เหรียญเงินชิงแชมป์โลก เมื่อปี 2012 ที่ประเทศเยอรมัน
รวมถึงเคยผ่านประสบการณ์ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก เกมส์ ถึง 3 สมัย เริ่มจาก ปักกิ่ง เกมส์ เมื่อปี 2008, ลอนดอน เกมส์ เมื่อปี 2012 และริโอ เกมส์ เมื่อปี 2016 และล่าสุดเธอสามารถตั๋ว โตเกียว เกมส์ ส่งผลให้เธอเป็นนักกีฬาชาวไทยเพียงไม่กี่คนที่กำลังได้ลุยโอลิมปิกถึง 4 ครั้ง
แม้ ธันยพร จะยังไม่เคยคว้าเหรียญรางวัลจากโอลิมปิก เกมส์ ตลอด 3 ครั้งแรก แต่นั่นก็อาจไม่หยุดความฝันที่ไปยืนบนโพเดี้ยมของเธอได้
ย้อนกลับไปในวัยเด็ก ธันยพร เติบโตขึ้นมาโดยมีนิสัยติดโทรศัพท์ เธอใช้เวลาหลายชั่วโมงของแต่ละวันในการพูดคุยกับเพื่อน จนแทบไม่ได้ไปทำกิจกรรมอย่างอื่น
พฤติกรรมของลูกสาวเริ่มสร้างความวิตกแก่คุณพ่อชัย พฤกษากร และคุณแม่ปราณี พฤกษากร ทั้งสองจึงแก้ปัญหาโดยการพาธันยพรไปออกกำลังกาย ทดลองเล่นมาหลายประเภท แต่ก็ไม่มีกีฬาไหนเลยที่จะมัดใจสาวน้อยคนนี้
กระทั่งเธอได้ลองสัมผัสความรู้สึกของการลั่นไก ธันยพรตกหลุมรักกีฬายิงปืนเข้าอย่างจัง เธอวางโทรศัพท์ และหันมาใช้เวลาหลายชั่วโมงกับการยิงปืน ตั้งแต่อายุ 11 ปี
Photo : สมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
ธันยพรพัฒนาฝีมือตัวเองอย่างรวดเร็ว ด้วยการฝึกซ้อมอย่างหนัก และพรสวรรค์ที่ซ่อนอยู่ในตัว เธอใช้เวลาเพียงสองปีในการก้าวสู่รั้วทีมชาติ และลงแข่งขันรายการซีเกมส์ 2003 ที่ประเทศเวียดนาม นับเป็นก้าวแรกในฐานะนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทยของเธอ
ความฝันของธันยพรไม่ต่างจากนักกีฬาทั่วไป นั่นคือ การสัมผัสบรรยากาศโอลิมปิก เกมส์ สักครั้ง เธอใช้เวลา 5 ปีหลังจากนั้น พยายามจนในที่สุด ธันยพร ก็คว้าตั๋วก้าวสู่มหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2008 ได้สำเร็จ
และเธอก็สร้างเซอร์ไพรส์ได้ ด้วยการหลุดเข้าสู่รอบไฟนอล 8 คนสุดท้าย ทั้งที่ไม่มีใครคาดหวังว่า นักแม่นปืนสาวดาวรุ่งวัยแค่ 18 ปีจากประเทศไทย จะไปได้ไกลขนาดนั้น
จากประสบการณ์จากโอลิมปิก เกมส์ 2008 พัฒนา ธันยพร ให้มีความนิ่ง และรับมือกับความตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น เธอจึงประสบความสำเร็จอย่างมากในซีเกมส์ 2009 ที่กรุงเวียงจันทน์ ประเทศลาว จากการกวาด 4 เหรียญทอง
ในปี 2011 ซีเกมส์ ที่เมืองปาเลมบัง ประเทศอินโดนีเซีย แม้จะพลาดเหรียญทองในการแข่งขันปืนสั้นอัดลม 10 เมตรให้กับ กนกกาญจน์ ไชยมงคล เพื่อนร่วมชาติ แต่ก็ยังมีเหรียญทองแดงติดมือกลับบ้าน
ธันยพร ทำฟอร์มและสามารถคว้าโควต้าโอลิมปิก เกมส์ 2012 ที่กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ด้วยสถานะที่แตกต่างออกไป เธอไม่ใช่นักกีฬาหน้าใหม่ แต่เป็นนักกีฬาฝีมือดีที่เคยผ่านมหกรรมกีฬาโอลิมปิก เกมส์ มาแล้ว 1 สมัย
ธันยพรแสดงให้เห็นถึงศักยภาพนั้น จากการทำคะแนนอย่างยอดเยี่ยมในการแข่งขันรอบแรก จนมีสิทธิจะคว้าเหรียญจากรอบไฟนอลแต่
ความตื่นเต้นกลับมาสู่หัวในของธันยพรอีกครั้ง เธอเอาแต่คิดถึงเหรียญรางวัลที่รออยู่ปลายทาง จนลืมการแข่งขันเบื้องหน้า ท้ายที่สุดผลงานในรอบชิงชนะเลิศจึงไม่เป็นอย่างที่หวัง ธันยพร ต้องกลับบ้านมือเปล่า เพราะความผิดพลาดของตัวเอง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น กลายเป็นบทเรียนที่ธันยพรจำฝังใจจนถึงวันนี้ เธอหวังแก้ตัวจากความผิดพลาดในโอลิมปิก เกมส์ 2016 แต่ท่ามกลางการแข่งขันสูงที่เจอกับ นักแม่นปืนมือดีกว่า บวกกับความนิ่งของผู้เข้าแข่งขันรายอื่นที่มากกว่า ก็ทำให้ ธันยพร พลาดเหรียญอีกครั้ง
Photo : Thai Olympian | T Sports Channel
โตเกียว เกมส์ 2020 จึงเป็นโอกาสครั้งที่สี่ของธันยพรในการคว้าเหรียญโอลิมปิก ที่คราวนี้ เธอเกือบตกขบวนอดเข้าร่วมการแข่งขัน เนื่องจากตั๋วที่เธอได้ มาจากโควต้าสุดท้าย ในการควอลิฟายอีเวนต์สุดท้าย จนเธอถึงกับหลั่งน้ำตาแห่งความดีใจออกมา
18 ปีที่ผ่านมาในรั้วทีมชาติ กับโอลิมปิก เกมส์ ครั้งที่ 4 น่าสนใจอย่างยิ่งว่า ธันยพร พฤกษากร จะนำประสบการณ์ และบทเรียนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต แปรเปลี่ยนเป็นเหรียญโอลิมปิกแรกแก่ตัวเองได้หรือไม่ ? แต่หลังจากที่เราได้เห็นการต่อสู้ที่ไม่ยอมแพ้ จนนาทีสุดท้ายของเธอในรอบคัดเลือกแล้ว เชื่อว่าธันยพรจะเต็มที่กับการแข่งขันครั้งนี้อย่างแน่นอน