เนท โรบินสัน : ชายสูง 175 ซม. กับเคล็ดลับพิชิตแป้นบาส 3 เมตรสู่ตำนานสแลมดังค์

สแลมดังค์ คอนเทสต์ ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมของ NBA ที่ได้รับความสนใจจากแฟนบาสอยู่ตลอด เพราะเป็นโอกาสดีที่จะได้เห็นผู้เล่นระดับโลก โชว์การกระโดดยัดลูกลงบนห่วงที่มีความสูงจากพื้นกว่า 3 เมตร

แต่สิ่งที่หลายคนคาดไม่ถึง คือ ชายที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดของการแข่งขัน สแลมดังค์ คอนเทสต์ กลับมีความสูงเพียง 175 เซนติเมตร อย่าง เนท โรบินสัน 

ถึงแม้ส่วนสูงของเขาจะเสียเปรียบผู้เข้าแข่งขันทุกคน แต่ผู้เล่นธรรมดาอย่างเขา กลับชนะขีดจำกัดร่างกาย คิดค้นเคล็ดลับที่ทำให้ตัวเอง เหินเวหาปล่อยลีลาสุดเร้าใจดังก์ลูกบาส จนกลายเป็นตำนานเล่าขานมาถึงปัจจุบัน

ณัฐนนท์ จันทร์ขวาง นักเขียนแห่ง Main Stand ผู้สนใจในอเมริกัน เกมส์ จะพาทุกคนไปค้นพบความลับของคนธรรมดาอย่าง เนท โรบินสัน

ส่วนสูงไม่ใช่ปัญหา ?

หากพูดถึงการดังค์ (Dunk) หรือกระโดดยัดลูกบาสลงห่วง ภาพที่หลายคนคิดถึงคือการกระโดดให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ และฟาดลูกลงไปสุดแรงเกิด เพื่อความสะใจของแฟน ๆ

เพราะการจะทำท่าดังค์ให้สมบูรณ์แบบ ต้องลอยตัวกระโดดให้มืออยู่เหนือห่วง จากนั้นค่อยยัดลูกบาสลงไป ไม่แปลกหากคนทั่วไปจะเข้าใจว่า "ส่วนสูง" เป็นปัจจัยจำเป็นสำหรับนักบาสที่อยากทำท่านี้ 

ความจริงก็เป็นเช่นนั้น ในการแข่งขันบาส ไม่มีทางที่ผู้เล่นร่างจิ๋ว จะมาเทียบรัศมีการดังค์ของนักบาสร่างโตได้แม้แต่น้อย

ดูได้จากผลงานสุดโดดเด่นของ แชคีล โอนีล จอมยัดห่วงระดับตำนานตำแหน่งเซนเตอร์ ที่ขึ้นชื่อในการดังค์ทำแต้มเป็นอย่างมาก เขามีส่วนสูงถึง 216 เซนติเมตร ทำให้การดังค์กลายเป็นเครื่องหมายการค้าของ "แชค" มาจนถึงปัจจุบัน

นักบาสตัวเล็กจึงเสียเปรียบนักบาสตัวใหญ่ จากการแข่งขันระดับอาชีพ เพราะพวกเขาไม่สามารถกระโดดเอาชนะผู้เล่นระดับสูงกว่า 2 เมตร ถ้าทางไม่โล่งโปร่งสบาย ไร้ผู้เล่นทีมรับคอยขัดขวางจริง ๆ การดังค์โชว์ของจอมยัดห่วงร่างจิ๋วแทบไม่มีทางเกิดขึ้น

แต่พอเป็นการแข่งขัน "สแลมดังค์ คอนเทสต์" มันไม่เหมือนกับการดังค์ในการแข่งขันปกติ เพราะนี่ไม่ใช่การแข่งขันว่า ใครจะทำแต้มจากการดังค์ได้มากที่สุด แต่เป็นการแข่งขันว่า ใครกระโดดส่งลูกบาสลงห่วงด้วยท่วงท่าที่สวยงามมากสุด 

อีกทั้ง "สแลมดังค์ คอนเทสต์" ยังไม่มีผู้เล่นคนไหน มาคอยขัดขวางการดังค์ของผู้เข้าแข่งขัน พูดง่าย ๆ คือทุกคนสามารถโชว์ลีลาการยัดห่วงได้อย่างเต็มที่ ไม่มีเรื่องของความสูงมาเป็นอุปสรรคอีกต่อไป เพราะนักบาสระดับ NBA ทุกคน ต่อให้จะตัวระดับ 175 เซนติเมตร หรือสูงเป็นยักษ์แบบแชค พวกเขาก็กระโดดถึงห่วงกันทุกคน

ด้วยเหตุนี้สิ่งที่วัดการให้คะแนนของการแข่งดังค์ จึงพิจารณาจากความคิดสร้างสรรค์ และความสวยงามท่าที่ใช้ดังค์ ดังนั้นความสูงจึงไม่ใช่ปัจจัยตั้งแต่แรก กับการชิงความเป็นเบอร์ 1 ในสแลมดังค์ คอนเทสต์

 

Photo : www.startup.golf

"ทั้งหมดมันเป็นเรื่องของศิลปะ เป็นเรื่องของการสร้างสรรค์ … ความคิดสร้างสรรค์คือตัวตนของเรา เราไม่ดังค์ด้วยการกระโดดสูง ๆ ทำท่าแบบนั้นซ้ำ ๆ มันขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนใช้ความคิดสร้างสรรค์อย่างไร (กับการดังค์)" ไมเคิล จอร์แดน นักบาสระดับตำนาน แชมป์สแลมดังค์ คอนเทสต์ ในปี 1987 และ 1988 กล่าวถึงเคล็ดลับสำคัญ หากอยากจะเอาชนะการแข่งขันนี้

ไอเดียต้องบรรเจิด

ในทุก ๆ ปี นักยัดห่วงที่ตัดสินใจเข้าร่วมแข่งขัน สแลมดังค์ คอนเทสต์ ทุกคนล้วนรู้ดีอยู่แล้วว่า ไอเดียสร้างสรรค์คือส่วนสำคัญที่ช่วยเรียกคะแนนจากคณะกรรมการ เพิ่มโอกาสที่จะได้เป็นผู้ชนะในการประลอง ซึ่งจะจัดขึ้นทุกปีพร้อมในช่วงเกมออลสตาร์

หนึ่งในจอมดังค์ที่มีไอเดียสุดแจ่ม คือ เนท โรบินสัน พอยต์การ์ดร่างเล็กสูงเพียง 175 เซนติเมตร ที่ถูกดราฟต์เข้าสู่ NBA ในฤดูกาล 2005-06 โดยทีม นิวยอร์ก นิคส์ ซึ่งนักบาสรายนี้ไม่สนใจเรื่องส่วนสูงตัวเอง แต่ขอลงแข่งขัน สแลมดังค์ คอนเทสต์ ตั้งแต่ปีแรกที่เข้าสู่ลีกอาชีพ เพราะมั่นใจว่า ถึงสรีระจะเล็กกว่าคนอื่น แต่เรื่องสติปัญญาไม่เคยเป็นสองรองใคร

 

"ถ้าอยากจะชนะ คุณแค่ต้องคิดให้ออกว่า ท่าดังค์แบบไหนที่ยังไม่เคยมีใครใช้บ้าง" โรบินสัน กล่าวถึงเคล็ดลับการแข่งขัน สแลมดังค์ คอนเทสต์

"นักบาสส่วนใหญ่ ชอบลอกเลียนท่าดังค์ของคนอื่นมา ผมหมายถึงเอาของเก่ามาประยุกต์ให้ดีขึ้น ซึ่งผมก็ไม่มีปัญหานะ มันไม่สำคัญหรอก เพราะผมคิดแค่ว่า ท่าไหนที่ทำให้เด็ก ๆ ต้องลุกจากเก้าอี้ หรือทุกคนในสนามจะต้องจับจ้องมาที่ผม ท่าแบบนั้นแหละ ที่ผมจะเอามาใช้" 

การนำไอเดียของผู้ชนะในอดีตมาต่อยอด คือสิ่งที่ เนท โรบินสัน นำมาใช้ … ย้อนไปในปี 2001 เดสมอนด์ เมสัน เอาชนะการแข่งขัน ด้วยการกระโดดข้ามชายที่ยืนก้มตัวลง เพื่อขึ้นไปดังค์ ตามด้วย จอช สมิธ ในปี 2005 ที่กระโดดข้ามชายนั่งเก้าอี้ ก่อนจะยัดบอลลงห่วงกลางอากาศอย่างสวยงาม

การกระโดดข้ามใครสักคน เพื่อขึ้นไปดังค์ กลายเป็นสิ่งที่โรบินสัน นำมาต่อยอด เพราะเขาไม่ได้แค่กระโดดข้ามชายที่ยืนก้ม หรือคนนั่งเก้าอี้ แต่เขาเลือกกระโดดข้ามหัว สปัด เว็บบ์ อดีตนักบาสเกตบอล เจ้าของส่วนสูง 168 เซนติเมตร และแชมป์สแลมดังค์ปี 1986 ก่อนจะกระโดดคว้าบอลกลางอากาศ ที่เว็บบ์โยนขึ้น แล้วดังค์ลงไปอย่างงดงาม

การดังค์ครั้งนี่เรียกเสียงเฮไปทั่วสนาม และได้รับ 50 คะแนนเต็มจากคณะกรรมการ ก่อนที่สุดท้าย เนท โรบินสัน จะเป็นผู้ชนะการแข่งขัน สแลมดังค์ คอนเทสต์ 2006 ไปในที่สุด

 

ความทุ่มเทที่จะเอาชนะ

ขึ้นชื่อว่ากีฬา ผู้เข้าแข่งขันทุกคนล้วนอยากเป็นผู้ชนะ เพื่อบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ ไม่มีทางไหนจะดีไปกว่าการฝึกซ้อม ไม่เว้นแม้กระทั่งสแลมดังค์ คอนเทสต์

ชีวิตนักบาสของ เนท โรบินสัน ไม่ได้เป็นที่จดจำนัก เขาไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงของทีมได้ เพราะต้องยอมรับว่าเขาตัวเล็กเกินไป ซึ่งเจ้าตัวรู้ถึงจุดอ่อนนี้ดี ตั้งแต่ช่วงระยะแรกที่เข้ามาสู่ NBA

 

เนท โรบินสัน รู้ดีว่า เขาคงไม่ใช่ซูเปอร์สตาร์ดาวค้างฟ้าที่จะเล่นอยู่ในลีกไปอีก 20 ปี แต่การก้าวขามาสู่ NBA ครั้งหนึ่งในชีวิต จอมยัดห่วงร่างเล็กต้องการจะเป็นที่ถูกจดจำ มีเรื่องราวเล่าขานให้คนรุ่นหลังจำได้ว่า ชายคนนี้เคยอยู่ในลีกบาสเกตบอลที่ดีที่สุดในโลก

"ผมไม่ได้มาเล่นใน NBA เพื่อเงิน ผมมาเพื่อพิสูจน์ว่า ผมดีพอกับ NBA ผมคือคนที่สูงไม่ถึง 180 เซนติเมตร และโค้ชก็ไม่ค่อยอยากส่งผมลงสนามเท่าไหร่นัก" โรบินสัน กล่าว

เมื่อโอกาสพิสูจน์ตัวเองในสนามมีไม่เยอะ เขาจึงต้องพิสูจน์ตัวเองนอกการแข่งขันปกติ สแลมดังค์ คอนเทสต์ จึงกลายเป็นสิ่งที่เข้ามาตอบโจทย์ ให้นักบาสร่างเล็กได้แสดงให้โลกเห็นว่า เขามีดีในแบบของเขา

การแข่งขัน สแลมดังค์ คอนเทสต์ ปี 2009 โรบินสันได้ทำการแข่งขันด้วยความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะ และคราวนี้เขางัดไม้เด็ดกว่าเดิม ด้วยการกระโดดข้าม ดไวท์ ฮาเวิร์ด นักบาสสูง 208 เซนติเมตร ซึ่งเป็นคู่แข่งของเขาในปีนั้น พาลูกไปลงห่วงได้อย่างงดงาม

เจอแบบนี้ ฮาเวิร์ดจึงต้องขอยอมแพ้ ยกแชมป์ให้โรบินสันไปโดยปริยาย ซึ่งเวลาต่อว่า เว็บไซต์กีฬาชื่อดัง อย่าง Bleacher Report ยกให้การดังค์ของ เนท โรบินสัน เป็นการโชว์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ของ สแลม ดังค์ คอนเทสต์

เนท โรบินสัน ไม่หยุดความสำเร็จของเขาไว้แค่นี้ เพราะเจ้าตัวสามารถป้องกันแชมป์ได้ในปี 2010 ทำให้นักบาสร่างเล็กรายนี้ เป็นผู้เล่นคนแรกในประวัติศาสตร์ NBA ที่ชนะ สแลมดังค์ คอนเทสต์ ได้ถึง 3 สมัย

ความสำเร็จที่เกิดขึ้น ทำให้ชายสูง 175 เซนติเมตรถูกจดจำในฐานะ สุดยอดมือดังค์ ในการแข่งขัน สแลมดังค์ คอนเทสต์ ซึ่งเจ้าตัวก็พอใจ กับฉายานี้ เพราะอย่างน้อยชื่อของเขายังคงถูกจดจำโดยแฟนบาสเกตบอลได้ แม้จะไม่ประสบความสำเร็จมากมาย ในฐานะนักบาสอาชีพ

"ผมไม่ค่อยได้ดังค์บ่อยหรอกเวลาแข่งจริง เพราะผู้เล่นตัวใหญ่ไม่ยอมให้ผมได้ดังค์เลย จนผมอยากจะบอกว่า 'ปล่อยให้กูได้โชว์บ้างเถอะ ไอ้พวกบ้า'"

"แต่ถ้าเป็นสแลมดังค์ คอนเทสต์ ก็อีกเรื่องนะ ผมมุ่งมั่นกับมัน อยากให้ทุกคนยอมรับว่า คนตัวไม่สูงแบบผม ก็เป็นสุดยอดได้"

"คุณรู้ไหม ผมมีไมเคิล จอร์แดน เป็นไอดอล และผมดูเขาชนะการแข่งขันนี้ (สแลมดังค์ คอนเทสต์) ผมอยากเป็นแบบนั้นบ้าง นี่คือโอกาสผมจะเป็นแบบนั้น กลายเป็นผู้ชนะ" เนท โรบินสัน กล่าว

สิ่งที่นักบาสรายนี้พูด เป็นคำตอบที่ชัดเจนในตัวแล้วว่า เหตุใดเขาถึงทำผลงานได้โดดเด่น ในสแลมดังค์ คอนเทสต์ 

เพราะนี่คือการแข่งขันที่มีความหมายอย่างมากสำหรับเขา เพราะมันคือโอกาสเดียวที่ทำให้ชื่อของ "เนท โรบินสัน" ถูกจดจำไม่เลือนหายไปจากความทรงจำของผู้คน

เนท โรบินสัน จึงเป็นตัวอย่างที่ดี ไม่ใช่แค่กับนักบาสเกตบอลที่ต้องการมีชื่อเสียง แต่ยังรวมถึงคนทั่ว ๆ ไป ในฐานะชายผู้ไม่ยอมจำนนต่อข้อจำกัดที่ตนเองมี 

เขาเชื่อมั่นในความคิดสร้างสรรค์ พยายายามคิดหาหนทาง และฝึกฝนทำมันอย่างจริงจัง ก่อนจะลงมือทำในสิ่งที่คนอื่นคิดว่าเป็นไปไม่ได้ (ที่คนสูง 175 เซนติเมตรจะเป็นผู้ชนะสแลมดังค์ คอนเทสต์) ให้กลายเป็นจริง