รัฐบาล ตื่นแล้วจ้า รับยิงสดไทยลีกปีหน้า

ขณะที่รัฐบาลเพิ่งตื่น รับเป็นเจ้าภาพยิงสดลูกหนังไทยพรีเมียร์ลีกฤดูกาลหน้า ทุกวันที่มีเกมดวลเกือกให้ช่อง 11 เป็นแม่ข่าย

ด้านการแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก ความคืบหน้าล่าสุด นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลกรมประชาสัมพันธ์ ได้เชิญ บังยี วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย มร.โอเค องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการ พร้อมด้วย บังมาด สามารถ มะลูลีม อุปนายก เข้าหารือที่รัฐสภา โดยสรุปได้ว่าในฤดูกาลหน้ารัฐบาลจะรับเป็นเจ้าภาพในการถ่ายทอดสดฟุตบอลไทย พรีเมียร์ลีกทุกวันที่มีการแข่งขันทั้งสุดสัปดาห์และนัดกลางสัปดาห์ โดยจะยึดเวลาตามโปรแกรมการแข่งขัน ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเวลาเพื่อถ่ายทอดสด เวลา 16.00 น.เหมือนที่ผ่านมา
ทั้งนี้การถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยพรีเมียร์ ลีกทางฟรีทีวี ฤดูกาลหน้านั้น รัฐบาลจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด พร้อมมอบหมายให้ สทท.11 เป็นแม่ข่าย และบางสัปดาห์อาจมีช่อง 9 อสมท เข้าร่วมถ่ายทอดสดด้วย

นอกจากนี้เมื่อวันที่ 24 กันยายน ที่ผ่านมา ตัวแทนของทีม บลูมาร์ลิน ศรีราชา เอฟซี ยื่นหนังสือต่อ ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธาน บ.ไทยพรีเมียร์ลีก ให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในเกมที่ศรีราชา เอฟซี บุกไปแพ้ ทีโอที เอฟซี 0-1 โดยประธานไทยพรีเมียร์ลีกกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ต้องส่งเรื่องต่อไปให้คณะกรรมการผู้ตัดสิน เพราะการพิจารณาการทำหน้าที่และการลงโทษผู้ตัดสินเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการ ผู้ตัดสินที่จะตัดสินชี้ขาดต่อไป เช่นเดียวกับกรณีของผู้ช่วยผู้ตัดสินในเกมที่ราชนาวี-ระยองแพ้ บางกอกกล๊าส เอฟซี ที่มีการร้องเรียนว่าผิดพลาด

ดร.วิชิต ยังกล่าวอีกว่า ได้สั่งให้ทุกสนามเพิ่มการรักษาความปลอดภัยผู้ตัดสินและป้องกันความวุ่นวาย ในสนามให้มากขึ้นแล้ว โดยจะเพิ่มสารวัตรทหาร 4 นายมาดูแลผู้ตัดสิน รวมถึงมีรถรับส่งผู้ตัดสินเพื่อป้องกันการทุบรถหรือทำร้ายผู้ตัดสิน ส่วนสนามไหนที่รองรับคนดูไม่พอ ได้แนะนำไปแล้วว่าควรจะมีทีวีโปรเจกเตอร์ไว้รองรับจำนวนแฟนบอลที่ไม่สามารถ เข้าไปชมในสนาม
นอกจากนี้ ดร.วิชิต ยังเผยอีกว่า สำหรับการตัดแต้มความประพฤติของนักเตะจะขยายจากเดิมที่เมื่อหักแต้มครบ 24 คะแนนแล้วถูกลงโทษแบน 2 นัดจะขยายเป็น 30 คะแนนแล้วถึงจะถูกลงโทษ เนื่องจากแต่ละทีมต้องเตะกันถึง 30 นัดต่อฤดูกาล พร้อมเสนอแนวคิดให้ยกเลิกรางวัลนักเตะต่างชาติยอดเยี่ยมแล้วเปลี่ยนเป็นนัก เตะยอดเยี่ยมแทน ซึ่งรางวัลนี้อาจจะเป็นนักเตะไทยหรือต่างประเทศก็ได้