วิเคราะห์ 5 ประเด็นสำคัญ หลังเกม ยูโร 2020 : อังกฤษ 2-0 เยอรมนี
หลังจากที่ทีม "สิงโตคำราม" ทำผลงานยอดเยี่ยมไล่บดเอาชนะ "อินทรีเหล็ก" 2-0 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายศึกยูโร 2020 ได้สำเร็จ และนี่คือ 5 ประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นจากเกมเดือดเมื่อคืนที่ผ่านมา
1. ความเป็นไปของเกมที่ เวมบลีย์เกมออกสตาร์ทด้วยรูปเกมที่เหนือกว่าของพลพรรค อินทรีเหล็ก ในช่วงต้น ลูกทีมของ โยอาคิม เลิฟ ส่งสัญญาณเตือนเบาๆ จากจังหวะเกือบหลุดเดี่ยวของ ลีออน โกเร็ทซ์ก้า จนสามารถเรียกใบเหลืองจาก ดีแคลน ไรซ์ ตั้งแต่ก่อนผ่าน 10 นาทีแรกของเกม
อังกฤษ ตอบโต้บ้างจากอาวุธหนักอย่างการยิงไกลของ ราฮีม สเตอร์ลิง ที่ มานูเอล นอยเออร์ ต้องบินปัดสุดตัว หลังจากนั้นโมเมนตัมของเกมตกเป็นของ สิงโตคำราม ที่ครอบครองบอลได้มากกว่ารูปเกมจะเป็นไปอย่างน่าอึดอัดก็ตาม
แวร์เนอร์ ได้หลุดไปยิงจากคิลเลอร์พาสโดย ฮาแวร์ตซ์ ก่อนจะปิดท้ายครึ่งแรกด้วยโอกาสทองที่หลุดลอยของ แฮร์รี เคน เมื่อพยายามแตะหนี นอยเออร์ แต่บอลยาวถูกสกัดทิ้ง
ครึ่งหลังเริ่มต้นด้วยการทักทายของจังหวะฮาล์ฟวอลเลย์โดย ฮาแวร์ตซ์ ติดเซฟ พิคฟอร์ด ก่อนที่จุดเปลี่ยนจะมาถึงเมื่อ แกเร็ธ เซาธ์เกต ส่ง แจ็ค กรีลิช แทนที่ บูคาโย ซาก้า ลงมามีส่วนร่วมกับทั้ง 2 ประตูของ อังกฤษ ในที่สุด
2. พื้นที่ทองคำในการโจมตีพื้นที่ระหว่างเซ็นเตอร์แบ็คกับวิงแบ็คของทั้ง 2 ทีมกลายเป็นโซนทองคำของการเข้าทำเมื่อต่างฝ่ายต่างใช้รูปแบบการเล่นใกล้เคียงกัน
วิงแบ็คที่ลอยขึ้นสูงเพื่อเติมเกมรุกหมายถึงการที่เซ็นเตอร์แบ็คด้านข้างมีพื้นที่ต้องรับผิดชอบในการป้องกันมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นการที่ต่างฝ่ายพยายามบีบพื้นที่สูงยิ่งทำให้แข้งตัวรุกกับแดนกลางทิ้งให้เหล่าเซ็นเตอร์แบ็คต้องเผชิญหน้ากับแนวรุกของฝั่งตรงข้ามทั้งคู่
3. ความผิดพลาดในรายละเอียดเล็กน้อยตัดสินเกมรูปเกมตลอดทั้ง 75 นาทีก่อนที่จะมีประตูแรกของเกมเป็นไปอย่างคู่คี่และอึดอัดทั้ง 2 ฝ่าย ทั้ง สิงโตคำราม และทัพ อินทรีเหล็ก ต่างกล้าๆ กลัวๆ ในการที่จะเปิดเกมรุกเข้าใส่คู่ต่อสู้ ต่างฝ่ายต่างไม่กล้าใช้ผู้เล่นในแนวลึกเคลื่อนที่เติมเกมนัก
จนกระทั่งความผิดพลาดของ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ที่เอา ราฮีม สเตอร์ลิง ไม่ลงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเสียประตูเบิกร่องในที่สุดจนทำให้ เยอรมนี ไม่อาจคัมแบ็คได้หลังจากนั้น
4. โอกาสทองของ มุลเลอร์นอกจากความผิดพลาดในแนวรับของ เยอรมนี แล้วฝั่ง อังกฤษ ก็มีข้อผิดพลาดให้เห็นด้วยเช่นกันหลังจากได้ประตูขึ้นนำ
สเตอร์ลิง พลาดท่าเสียบอลที่กลางสนามและกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ โธมัส มุลเลอร์ หลุดเดี่ยวครึ่งสนามเข้าไปล่อเป้า จอร์แดน พิคฟอร์ด เหน่งๆ แต่น่าเสียดายสุดๆ ที่แข้งวัยดึกจาก บาเยิร์น มิวนิค สังหารหลุดกรอบออกไปอย่างเหลือเชื่อ
5. บทส่งท้าย 15 ปีของ เลิฟ และเส้นทางของ อังกฤษเกมกับ อังกฤษ กลายเป็นแมตช์สุดท้ายของ โยอาคิม เลิฟ กับ เยอรมนี อย่างเป็นทางการเมื่อเจ้าตัวประกาศตั้งแต่ก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ ยูโร 2020 ว่าจะวางมือกับทัพ ดิมานชาฟท์ เมื่อจบรายการ
แม้เจ้าตัวจะมีผลงานไม่น่าประทับใจนักกับ อินทรีเหล็ก ในช่วงหลังแต่ความสำเร็จอย่างการพาทีมเข้าชิงชนะเลิศ ยูโร 2008 ก่อนจะก้าวขึ้นไปเป็นแชมป์ ฟุตบอลโลก 2014 ก็เป็นหมุดหมายอันยากที่กุนซือคนใดจะพิชิตตามรอยได้
ขณะที่ อังกฤษ ทะลุเข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้ายโดยจะพบกับผู้ชนะระหว่าง สวีเดน กับ ยูเครน โดยหลังจากนั้นจะเป็นรอบ 4 ทีมสุดท้ายที่มีผู้ชนะระหว่าง สาธารณรัฐเช็ก กับ เดนมาร์ก ที่รออยู่
นับว่าเป็นโอกาสที่สดใสของลูกทีม แกเร็ธ เซาธ์เกต ในการที่จะไปถึงฝั่งฝันทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศซึ่งมี เบลเยียม, อิตาลี, สวิตเซอร์แลนด์ หรือ สเปน จากอีกฝั่งหนึ่งรออยู่
ติดตามผลบอล ยูโรเมื่อคืน ทุกคู่ที่นี่ https://www.sanook.com/sport/program/