"ปัญญาวุฒิ" ดาวยิงตัวเก่ง ชี้แข้งทีมชาติไทยสู้ได้ทุกทีมมีลุ้นศึกพาราลิมปิกเกมส์
“ขุนพลแข้งตาบอดทีมชาติไทย” ประกาศคว้าพร้อมครั้งสุดท้าย ก่อนบุก “โตเกียว” ลุยศึกพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ พร้อมวางเป้าหมายคว้าเหรียญรางวัล กลับไปฝากพี่น้องชาวไทยให้ได้ ด้าน “เต๋า” ปัญญาวุฒิ คุพันธ์ ดาวยิงตัวเก่งของทีมฟุตบอลคนตาบอดทีมชาติไทย เชื่อ แข้งตาบอดไทย สู้ได้ทุกทีมในพาราลิมปิกเกมส์
ความเคลื่อนไหวของทีมฟุตบอลคนตาบอดทีมชาติไทย ซึ่งสามารถคว้าสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน “พาราลิมปิกเกมส์ 2020” ในรายการนี้ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และเตรียมความพร้อมฝึกซ้อมอยู่ที่ เอมพันธ์สปอร์ต จ.นนทบุรี ภายใต้การคุมทีมของ "โค้ชก้อง" ก้องเกียรติ ก้องแดนไพร ซึ่งเป็นโค้ชมากประสบการณ์ เคยผ่านการคุมทีมในระดับอาชีพมาอย่างมากมาย
ด้าน อำนวย กลิ่นอยู่ นายกสมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกที่ทีมฟุตบอลคนตาบอดทีมชาติไทย สามารถคว้าตั๋วเข้าร่วมการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ได้ ที่ผ่านมาเราได้มาการเก็บตัวฝึกซ้อมมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับส่งทีมออกไปแข่งขันเพื่อเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ ทำให้ในเวลานี้ทีมฟุตบอลคนตาบอดทีมชาติไทย พร้อมเข้าร่วมการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์อย่างเต็มที่แล้ว
“นอกจากนี้ในครั้งนี้ที่ผ่านมาทางสมาคมฯ ได้ นำนักวิทยาศาสตร์การกีฬาด้านต่างๆ เช่น นักกายภาพบำบัด, นักโภชนาการ, นักจิตวิทยา, มาช่วยวางแผนงานอย่างเป็นระบบในการสร้างกล้ามเนื้อ ดูแลฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ รวมถึงการดูเรื่องโภชนาการอาหาร ให้นักกีฬาด้วยทำให้เราค่อนมั่นใจว่านักกีฬาเราสมบูรณ์มาก และแน่นอนเป้าหมายของเราคือการทำผลงานคว้าเหรียญทองในพาราลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ได้ แต่ก็ต้องขอกำลังใจพี่น้องชาวไทย ให้ช่วยเป็นกำลังให้กับทีมฟุตบอลคนตาบอดทีมชาติไทยในครั้งนี้ด้วย”
นายกสมาคมกีฬาคนตาบอดฯ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ดีทางสมาคมฯ ต้องขอขอบคุณ กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย, บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด, บริษัท ฟุตบอลล์ไทย จำกัด, คณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย นำโดย คุณจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ที่ให้การสนับสนุนทีมกีฬาของสมาคมมาอย่างต่อเรืที่ช่วยให้สมาคมสามารถดูแลให้การสนับสนุนการเก็บตัวฝึกซ้อมของทีมฟุตบอลคนตาบอดทีมชาติไทยมาอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ “โค้ชก้อง” ก้องเกียรติ ก้องแดนไพร หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอลคนตาบอดทีมชาติไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราฝึกซ้อมกันมาเรามีเก็บตัวฝึกซ้อมมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว ทำให้ทีมค่อนข้างมีความพร้อมกว่า 80 เปอร์เซ็นแล้ว แม้ว่าจะมีนักเตะหลายคนที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร และคาดทีมเราน่าจะพร้อมสมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซ็นก่อนออกเดินทางอย่างแน่นอน อย่างไรก็ดีที่ผ่านมาเราค่อนข้างมีความกังวลเรื่องเดียวคือเรื่องโควิด-19 เพราะเราเกรงว่านักกีฬาติด ทำให้เราได้มีการวางมาตรการในการป้องกันอย่างรัดกุมมาโดยตลอด”
“จากเมื่อช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาเราได้มีโอกาสไปเข้าร่วมการแข่งขันรายการ เวิลด์ กรังด์ปรี ที่ประเทศญี่ปุ่น ทำให้เราได้เจอทั้ง อาร์เจนติน่า และ สเปน และหลายๆทีมได้เข้าร่วมการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ ทำให้ตอนนี้นักเตะเราไม่มีใครกลัวแล้ว ทำให้เราคิดว่าสามารถสู้ได้กับทุกทีม ซึ่งเราหวังเราจะเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้ายให้ได้ สำหรับคู่แข่งนั้นทุกทีมมีความแข็งแกร่ง แต่เรามั่นใจว่าเราจะสามารถทำผลงานได้ดี” โค้ชก้อง กล่าว
ส่วน “เต๋า” ปัญญาวุฒิ คุพันธ์ ดาวยิงตัวเก่งของทีมฟุตบอลคนตาบอดทีมชาติไทย กล่าวว่า จากที่เราได้มีการเก็บตัวฝึกซ้อมมาอย่างยาวนานกว่า 10 เดือน ทำให้เรามีความพร้อมแบบเต็มที่แล้ว แม้ว่าที่ผ่านมาเราต้องประสบปัญหาเรื่องการไม่มีเกมอุ่นเครื่องเนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 ส่วนเป้าหมายนั้นส่วนตัวผมเชื่อมั่นว่าเรามีโอกาสที่เข้าไปถึงรอบ 4 ทีมสุดท้าย และเมื่อไปถึงตรงนั้นอะไรก็เกิดขึ้นได้ ส่วนคู่แข่งสำคัญผมมองว่าทุกทีมที่เข้ามาในพาราลิมปิกเกมส์ครั้งถือเป็นแข็งแกร่งเท่าเทียมกัน แต่อย่างไรก็สุดท้ายพวกเราก็อยากของกำลังใจให้กับทัพนักกีฬาคนพิการและทีมฟุตบอลคนตาบอดในการแข่งขันพาราลิกเกมส์ในครั้งนี้ด้วย
รายชื่อ 10 นักกีฬาทีมฟุตบอลคนตาบอด ทีมชาติไทย ชุดลุยศึก พาราลิมปิก 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วย พรชัย กสิกรอุดมไพศาล (ผู้รักษาประตู), พู่กานต์ โด่งดัง (ผู้รักษาประตู) , ประครอง บัวใหญ่ , กิตติกร บัวดี , ปัญญาวุฒิ คุพันธ์ , สุริยะ ยิ่งชูรส , กิตติธัช วิมลวรรณ์ , สนั่น เพชรกระจ่างสุข , เทิดเกียรติ บุญเที่ยง , บรรชา มูลเพชร
ทั้งนี้การแข่งขันฟุตบอลคนตาบอด ใน “พาราลิมปิก 2020" จัดการแข่งขันแบ่งเป็น 2 กลุ่ม โดยจะคัดเอาอันดับ 1 และ 2 ของแต่ละกลุ่ม ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ โดยในรอบแบ่งกลุ่ม ทีมชาติไทย อยู่ร่วมสายกับ สเปน , โมร็อกโก และ อาร์เจนติน่า โดยโปรแกรมแข่งขันในรอบแรก มีดังนี้ วันที่ 29 สิงหาคม 2564 พบ สเปน เวลา 17:30 น.ตามเวลาไทย, วันที่ 30 สิงหาคม 2564 พบ โมร็อกโก เวลา 14:30 น.ตามเวลาไทย, วันที่ 31 สิงหาคม 2564 และ ไทย พบ อาร์เจนติน่า เวลา 14:30 น.ตามเวลาไทย
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลคนตาบอด จะลงสนามได้ทีมละ 5 คน ประกอบด้วยนักเตะ 4 คน และผู้รักษาประตู 1 คน โดยผู้รักษาประตูสามารถเป็นคนตาปกติได้ แต่ห้ามลงทะเบียนในการเป็นนักเตะฟีฟ่าอย่างน้อย 5 ปี สำหรับลูกบอลจะมีเสียงเพื่อให้ผู้เล่นสามารถรับรู้ได้ว่าลูกบอลอยู่ตรงไหน และแข่งขันกันครึ่งละ 25 นาที