"พาราลิมปิกเกมส์" เวทีของนักกีฬาหัวใจเหล็ก
ใน โอลิมปิก เกมส์ โตเกียว 2020 แฟนกีฬาทั่วโลกต่างได้รับความสนุกสนาน ตื่นเต้น ลุ้นระทึกทุกการแข่งขันว่าใครจะเป็นที่สุดในมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ
แต่ภาพแห่งความสุขและความประทับใจเหล่านั้น ไม่ได้สิ้นสุดแค่ในพิธีปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา เพราะมี พาราลิมปิก เกมส์ ที่จ่อคิวสร้างความสุขและบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองให้กับผู้ชมทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง
สำหรับ พาราลิมปิก เกมส์ คือมหกรรมกีฬาของผู้พิการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก และได้หวนกลับมาจัดแข่งขันที่ญี่ปุ่นอีกครั้งในรอบ 57 ปี ต่อจากปี 1964
เนื่องในโอกาสที่การแข่งขันจะเริ่มต้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า (24 ส.ค. 2564) เราจะพาทุกท่านไปติดตามเหตุผลที่ว่าทำไมถึงไม่ควรพลาดชม พาราลิมปิก เกมส์ โตเกียว 2020
เพราะพาราลิมปิกคือเวทีที่คนพิการได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียม
องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า ในปัจจุบันประชากรกว่าพันล้านคน หรือคิดเป็น 15 เปอร์เซ็นต์ของประชากรโลกทั้งหมด เป็นผู้พิการ และมีจำนวน 20 เปอร์เซ็นต์ที่ใช้ชีวิตในแต่ละวันได้อย่างยากลำบาก ซึ่งปัญหาใหญ่ที่สุดของพวกเขาโดยเฉพาะประเทศไทยที่มีจำนวนผู้พิการกว่า 2 ล้านคน นั่นก็คือการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ การศึกษา การคมนาคมขนส่ง ข้อมูล และการทำงาน
แม้จะมีการรณรงค์อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีนโยบายช่วยเหลือคนพิการในด้านต่าง ๆ แต่เอาเข้าจริงแล้วพวกเขายังคงไม่ได้รับโอกาสที่เท่าเทียมกับคนทั่วไป และทุกอย่างต่างเป็นผลต่อเนื่องเกี่ยวพันกัน เมื่อไม่ได้รับการศึกษาที่ดี ย่อมยากที่จะได้งานที่ดีหรือค่าตอบแทนที่ดี และเมื่อขาดรายได้ที่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายที่จำเป็นรวมถึงค่ารักษา ก็จะทำให้ขาดคุณภาพชีวิตที่ดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับทัศนคติของผู้มีอำนาจตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารสถานศึกษาหรือนายจ้างซึ่งมักจะเลือกปฏิเสธผู้พิการเพราะมองว่าเป็นภาระเนื่องจากไม่สามารถทำงานได้เท่ากับคนทั่วไป
ทัศนคติในด้านลบต่อผู้พิการนี้คือปัญหาใหญ่ของสังคม เพราะเท่ากับเป็นการปิดกั้นโอกาสทั้งที่พวกเขามีศักยภาพมากพอไม่แพ้คนปกติทั่ว ๆ ไป แถมยังต้องใช้ความพยายามมากกว่าด้วยซ้ำ ซึ่งในโลกของกีฬาสะท้อนเรื่องนี้ออกมาอย่างชัดเจนเพราะมีเวทีให้พวกเขาได้แสดงความสามารถของตัวเองออกมาอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน พาราลิมปิก เกมส์ ที่เราจะได้เห็นนักกีฬาจากทั่วโลกเค้นศักยภาพของตัวเองออกมาจนถึงขีดสุดเพื่อชิงชัยความเป็นหนึ่ง ซึ่งนอกจากจะสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองและประเทศชาติแล้ว ยังเป็นการประกาศให้โลกรู้ว่าพวกเขาก็สามารถเป็นยอดมนุษย์ได้ไม่ต่างจากนักกีฬาโอลิมปิก
ขณะเดียวกันความสำเร็จและชื่อเสียงที่นักกีฬาได้รับจากการลงแข่งขัน พาราลิมปิก เกมส์ ยังช่วยให้สังคมมองเห็นความสำคัญและเปิดพื้นที่ให้พวกเขาเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
เพราะพาราลิมปิกมีอะไรน่าสนใจเพียบ
ชนิดกีฬาในพาราลิมปิกส่วนใหญ่แล้ว ไม่ต่างอะไรกับ โอลิมปิก เกมส์ แต่จะมีการดัดแปลงเรื่องรายละเอียดปลีกย่อยเพื่อให้เอื้อต่อนักกีฬาคนพิการอย่างเช่นให้นักกีฬานั่งวีลแชร์ลงแข่ง หรืออนุญาตให้มีไกด์รันเนอร์สำหรับผู้พิการทางสายตา ซึ่งความน่าสนใจอยู่ที่ในกีฬาแต่ละชนิดนั้นมีการแข่งขันเป็นอย่างไร กฎ กติกา ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับนักกีฬาประเภทต่าง ๆ เป็นแบบไหน
ขณะเดียวกัน ยังมีชนิดกีฬาซึ่งไม่ได้พบเห็นใน โอลิมปิก นั่นคือ บอคเซีย และ โกลบอล โดยชนิดแรกนั้นคล้ายกับเปตองที่นักกีฬาต้องโยนหรือกลิ้งลูกบอลสีให้เข้าใกล้ลูกบอลสีขาว ส่วนโกลบอลเป็นกีฬาประเภททีมสำหรับผู้บกพร่องทางการมองเห็น ซึ่งนักกีฬาจะต้องพยายามส่งบอลเข้าตาข่ายของคู่แข่งและป้องกันไม่ให้คู่แข่งทำประตูโดยคาดเดาทิศทางจากเสียงกระดิ่งในลูกบอล
นอกจากนั้นใน พาราลิมปิก เกมส์ หนนี้ กีฬาแบดมินตัน และเทควันโดยังได้รับการบรรจุแข่งขันเป็นครั้งแรกอีกด้วย
เพราะนี่คือมหกรรมกีฬาของผู้พิการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
พาราลิมปิก เกมส์ ที่จะแข่งขันระหว่างวันที่ 24 สิงหาคม - 5 กันยายนนี้ จะมีนักกีฬาทั่วโลกกว่า 4,350 คนจาก 22 ชนิดกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน ขณะเดียวกันยังมีการถ่ายทอดสดมากถึง 21 รายการจาก 19 ชนิดกีฬา ซึ่งมากกว่า ริโอ เกมส์ 6 รายการ นั่นหมายความว่า โตเกียว 2020 จะมีผู้ชมถ่ายทอดสดเพิ่มขึ้นกว่าจำนวน 4,100 ล้านคนจากเมื่อ 5 ปีที่แล้ว
ขณะที่ในบ้านเราติดตามชมถ่ายทอดสดได้ที่ T Sports 7, T Sports Channel และ AIS PLAY พร้อมรับชมไฮไลท์การแข่งขันได้ที่ PPTV และ YouTube Stadium TH
ที่ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนที่จะออกกฎห้ามมีผู้ชมในสนาม ประชาชนชาวญี่ปุ่นได้ส่งคำร้องขอซื้อตั๋วเป็นจำนวนถึง 3.1 ล้านใบในช่วงการเปิดจำหน่ายรอบแรก ทั้งที่มีตั๋วทั้งหมดจำนวน 2.3 ล้านใบ เพียงเท่านี้ก็คงพอจะบอกได้ว่า พาราลิมปิก เกมส์ นั้น ยิ่งใหญ่ และได้รับความสนใจมากขนาดไหน
เพราะคนไทยจะได้มีรอยยิ้มอีกครั้ง
หากคุณยังจำความสุขและรอยยิ้มในนาทีที่น้องเทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ คว้าเหรียญทอง โอลิมปิก เกมส์ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ใน พาราลิมปิก เกมส์ คุณจะได้ช่วงเวลาเหล่านั้นกลับมาอีกครั้ง กับนักกีฬาทีมชาติไทยกว่า 77 ชีวิต
ซึ่งมีลุ้นเหรียญรางวัลหลายรายการ โดยเฉพาะเจ้าของเหรียญทองจากเมื่อ 5 ปีที่แล้วอย่าง 2 สุดยอดนักกีฬาวีลแชร์เรซซิ่งคือ ประวัติ วะโฮรัมย์ เจ้าของ 7 เหรียญทอง 7 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดงจากการลงแข่ง 5 สมัย และ พงศกร แปยอ เจ้าของ 2 เหรียญทอง 2 เหรียญเงินใน ริโอ เกมส์ หรือ วัชรพล วงษา เจ้าของ 3 เหรียญทองจากกีฬาบอคเซีย
นอกจากนั้นยังมี สายสุนีย์ จ๊ะนะ ยอดนักกีฬาฟันดาบวีลแชร์ ผู้หญิงคนแรกและคนเดียวของไทยที่ได้เหรียญทองพาราลิมปิก ซึ่งทำได้ถึง 2 สมัย (2000, 2012) รวมถึง รุ่งโรจน์ ไทยนิยม เหรียญทองเทเบิลเทนนิสปี 2012 และเหรียญทองแดงเมื่อครั้งที่แล้ว
ขณะเดียวกัน สายชล คนเจน อีกหนึ่งสุดยอดนักกีฬาวีลแชร์เรซซิ่งได้เดินทางไปแข่งขันที่กรุงโตเกียวด้วยเช่นกัน เพื่อลุ้นเหรียญทองแรกในชีวิต หลังได้มาแล้ว 7 เหรียญเงิน 4 เหรียญทองแดงในการลงแข่ง 3 สมัย
เพราะฉะนั้นเราคนไทยย่อมไม่ควรพลาดชม พาราลิมปิก เกมส์ ด้วยประการทั้งปวง เพื่อร่วมเชียร์และส่งพลังใจให้นักสู้ใจเหล็กเหล่านี้คว้าเหรียญรางวัลกลับมาบ้านเรา