"คริสเตียโน่ โรนัลโด้" : ยอดมนุษย์นักฟุตบอล

การกลับมาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นครั้งที่ 2 ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นอกจากจะส่งผลในแง่ของฟุตบอลและธุรกิจของปีศาจแดงแล้ว โรนัลโด 2.0 ยังส่งแรงกระเพื่อมไปยังนักฟุตบอลคนอื่นๆ ในทีม อาจจะเลยเถิดไปถึงผู้เล่นในพรีเมียร์ลีกเลยทีเดียว

เริ่มจากเรื่องพฤติกรรมการทานอาหาร ลี แกรนท์ ผู้รักษาประตู วัย 38 ปี ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บอกว่า ค่ำวันที่ 10 กันยายน 2021 หนึ่งวันก่อนที่ปีศาจแดงจะเอาชนะนิวคาสเซิล 4-1 ประตู และดาวเตะโปรตุเกสทำสองประตู ตามปกติผู้เล่นจะทานของหวานหลังมื้อเย็น

แต่การมาของโรนัลโด้ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป “คุณจะทานแอปเปิ้ล ครัมเบิล และคัสตาร์ด หรือคุณอาจจะทานบราวนี และครีม ผมบอกคุณตอนนี้เลย ไม่มีผู้เล่นคนไหนไปหยิบบราวนี เพราะทุกคนนั่งลง หนึ่งในผู้เล่นพูดกับผมว่าอะไรอยู่ในจานของโรนัลโด้”

นายด่านปีศาจแดงบอกต่อว่า “พวกเราทำตัวอยากรู้อยากเห็นว่าเขาทานอะไร และแน่นอนว่ามันคลีนมาก เป็นอาหารจานที่เฮลตี้เท่าที่คุณจะจินตนาการได้ และมันทำให้ผมขำตรงที่ไม่มีนักฟุตบอลคนไหนกล้าลุกขึ้น และไปหยิบของหวานมาทาน ผมบอกคุณได้ว่า หนึ่งในจานของเขามีคินัว, อะโวคาโด และไข่ต้ม 2-3 ใบ”

 ถ้าหาก ลิโอเนล เมสซี ถูกสร้างขึ้นมาจากพรสวรรค์ คริสเตียโน โรนัลโด้ ก็คือความสำเร็จของความเป็นมืออาชีพ ความต้องการที่จะเป็นที่หนึ่งของตัวเขาเอง หลังจากที่เจ้าตัวทำสถิติกลายเป็นผู้เล่นที่ทำประตูในนามทีมชาติมากที่สุดในโลกที่ 111 ประตู

โรนัลโด้ บอกว่า “เป็นอีกหนึ่งชิ้นสำหรับพิพิธภัณฑ์” ใช่แล้ว CR7 มีพิพิธภัณฑ์เป็นของตัวเองที่เก็บถ้วยรางวัลและความสำเร็จต่างๆ ที่เขาทำได้เอาไว้ โดยเปิดให้คนทั่วไปเข้าชม ที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ที่มาดิรา ประเทศโปรตุเกส บ้านเกิดของเขา

จุดเริ่มต้นของซูเปอร์สตาร์มากมายในวงการกีฬาเกิดจากครอบครัว ความสัมพันธ์ของพ่อ-ลูก แรงขับที่ทำให้ใครสักคนเป็นที่หนึ่ง บ่อยครั้งเกิดจากความพยายามที่จะทำให้ใครสักคนภูมิใจ หรือไม่ก็ความต้องการเอาชนะบางสิ่งบางอย่าง

โรนัลโด้ ในวัย 12 ปี เกิดอาการคิดถึงบ้านเมื่อต้องไปอยู่ในอะคาเดมีของสปอร์ตติ้ง ลิสบอน พ่อของเขามาดูเขาลงเล่นฟุตบอลบ้าง แต่ก็พ่ายแพ้ให้กับการดื่มสุรา คุณแม่คือคนที่เลี้ยงดูและอยู่เคียงข้างโรนัลโด้มาตลอด

นักข่าวหลายคนบอกว่าโรนัลโด้ พยายามแสวงหาความสัมพันธ์ที่สมบูรณ์แบบของพ่อกับลูก เมื่อลูกชายคนแรกของเขาเกิดตอนที่โรนัลโด้อายุ 25 ปี คริสเตียโน โรนัลโด้ จูเนียร์ เติบโตขึ้นโดยเห็นคุณพ่อเล่นสุดยอดฟุตบอล และคว้าแชมป์มากมาย “มันเป็นความฝันของผมมาตลอด” CR7 เอ่ย

นูโน เมนเดส ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์บอกว่า “มันน่าเศร้าที่โรนัลโด้ ไม่เจอคุณพ่อที่ดีกว่านี้ เขาอายุ 20 ปีตอนที่คุณพ่อของเขาเสียชีวิต หลังจากทำประตูได้ในวันต่อมา โรนัลโดชี้นิ้วขึ้นฟ้าเพื่ออุทิศประตูให้คุณพ่อ เขาพูดถึงเรื่องนี้บ่อยมากขึ้น” ครั้งหนึ่งตอนที่ไปให้สัมภาษณ์รายการ Good Morning Britain เพียร์ มอร์แกน พิธีกรของรายการเปิดวิดีโอคุณพ่อของโรนัลโดที่เอ่ยปากว่าภาคภูมิใจในความสำเร็จของลูกชาย โรนัลโดกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่

 “ผมไม่เคยเห็นวิดีโอนี้ ผมไม่เคยเห็น มันเหลือเชื่อ ผมคิดว่าการสัมภาษณ์จะตลก ผมไม่คิดว่าจะร้องไห้ แต่ผมไม่เคยเห็นภาพนี้ ผมต้องเอาภาพนี้ไปให้ครอบครัวผมดู แต่ผมไม่รู้จักพ่อของผม 100 เปอร์เซ็นต์ เขาเป็นคนขี้เมา ผมไม่เคยพูดคุยกับเขาแบบธรรมดาได้ มันยาก การเป็นเบอร์หนึ่ง และเขาไม่ได้เห็นมัน และเขาไม่ได้เห็นผมรับรางวัล ได้เห็นสิ่งที่ผมเป็น” หนังสือพิมพ์ เดอะซัน รายงานว่า โรนัลโด้ อยู่เคียงข้างคุณพ่อของเขาในวันสุดท้าย และสัญญาว่าเขาจะเป็นนักฟุตบอลทีดีที่สุดในโลก

บางทีความต้องการรักษาสัญญากับพ่อ ความต้องการที่จะดีกว่าพ่อ และความปรารถนาที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้ลูกชายของตัวเอง คือแรงผลักให้โรนัลโด้ ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่มันจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าหากเขาไม่ทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อฟุตบอล

 “พวกเรากลับจากเกมนัดเยือนในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กว่าจะถึงสนามซ้อมในมาดริดก็ราวๆ ตีสามตีสี่” พอล คลีเมนต์ อดีตผู้ช่วยของ คาร์โล อันเชล็อตติ ที่เรอัล มาดริดเอ่ย

“วันรุ่งขึ้นไม่ใช่วันหยุด ผู้เล่นจะเข้ามาฝึกซ้อมกันในช่วงบ่าย เพราะพวกเราจะลงเล่นในอีก 2 วันข้างหน้า หลังลงจากรถบัส นักฟุตบอลจะหยิบกระเป๋าและขับรถกลับบ้านเพื่อพักผ่อนก่อนกลับมาซ้อม ผมหันกลับไป คริสเตียโน ดึงตัวเปเป และ ฟาบิโอ โคเอนเทรา ไปที่ตึก พวกเขาไปอาบน้ำเย็น (Ice Bath) ตอนนั้นมันตี 4 และไม่ใช่แค่เขาทำคนเดียว เขาทำให้คนอื่นมีส่วนร่วมไปด้วย มันเป็นมืออาชีพแบบสุดๆ นี่เป็นสิ่งที่เขาทำมาตลอด และความทุ่มเทในการทำสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ได้ดี ทำให้เขาอยู่ในระดับเหนือมนุษย์”

 ในวัย 34 ปี ซีเนดีน ซีดาน ประกาศแขวนสตั๊ด กาก้าและโรนัลโด้ R9 เลิกเล่นฟุตบอลตอนอายุ 35 ปี ในวัย 36 ปี คริสเตียโน โรนัลโด้ เพิ่งทำได้ 4 ประตูในการลงสนาม 3 นัด ในเกมพรีเมียร์ลีกฤดูกาลล่าสุด หนึ่งในลีกฟุตบอลที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก และฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยที่อายุเข้าใกล้เลข 4 ไม่ทำให้เขาหยุดทุ่มเท “ถ้าคุณไม่ทำงาน คุณก็ไปได้ไม่ถึงไหนในชีวิต” โรนัลโดเคยพูดไว้ การทำงานหนักและทุ่มเททำให้เขามาถึงจุดนี้