"ชะตาอยู่ที่เรา" (โดย บ.ส้มซิ่ง)
การเดินทางมายังดินแดนอันไกลโพ้น ณ ดินแดนมองโกล ทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 มาพร้อมกับคำปรามาสที่ถาโถมว่าพวกเขาไม่ใช่ชุดที่ดีที่สุด
แล้วไง? แล้วไงล่ะ? ใจคอจะไม่ให้กำลังใจเด็กมันหน่อยเหรอ?
รอคอยแต่ค่อนแคะ โดยไม่แยแสต่อเงื่อนไขของการเรียกตัวเลยรึ?
ลีกในประเทศไม่หยุด สโมสรก็ไม่มีทีมใดกล้าปล่อยนักเตะตัวหลักให้มาช่วยชาติหรอก
ถามว่าสโมสรผิดเหรอ? ไม่มีน้ำใจ? ไม่ใจกว้าง? ไม่ทำเพื่อชาติ? แบบนั้นก็คงไม่ใช่แน่นอน พวกเขาไม่ได้ผิดอะไรในข้อเหล่านี้ และทีมชาติเองก็เข้าใจสโมสรเป็นอย่างดี
ในเมื่อทุกอย่างมันเลี่ยงข้อจำกัดตรงนี้ไม่ได้ เด็กชุดนี้ภายใต้การนำของ "โค้ชโย่ง" วรวุธ ศรีมะฆะ ก็ทำหน้าที่บนเส้นทางของพวกเขาต่อ
"มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ กับบทบาทของผู้จัดการทีม ก็ทำทุกอย่างเพื่อซัพพอร์ตทีมอย่างเต็มกำลัง
2 นัดกับการมี 4 คะแนน ทีมชาติไทยกำลังจะลงเล่นในเกมที่สำคัญที่สุดของทัวร์นาเมนต์นี้ นั่นคือการพบกับ มาเลเซีย ในวันที่ 31 ตุลาคม นี้ 10.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
"ชัยชนะ" คือเงื่อนไขเพียงสถานเดียว ที่จะทำให้ทีมชาติไทยได้ตั๋วไปลุยรอบสุดท้ายที่อุซเบกิสถานแบบอัตโนมัติ
รอยยิ้มของทีมงานและเหล่านักเตะไทยหลังเกมชนะ คว้าชัยเหนือ สปป.ลาว บนสกอร์ 3-0 เรียกทุกความมั่นใจ และสปริตในทีมได้มากโข
อย่างน้อยที่สุด 4 แต้มที่มีอยู่ในมือ ก็ยังทำให้ "ชะตา" ยังอยู่ที่เราเป็นคนกำหนด!!!
การซ้อมครั้งสุดท้ายผ่านไปด้วยดี และโค้ชโย่ง ก็มี 11 คนแรกในดวงใจของเขาเรียบร้อย
3 ผู้เล่นที่ได้รับบาดเจ็บหนัก ทั้ง วันชาติ ชูสงค์, อันโธนิโอ แสนใจรักษ์ ได้แต่ส่งใจมาให้เพื่อนสู้
ส่วน เบนจามิน เจมส์ เดวิส โอกาสลงเล่นยังมีเปอร์เซ็นต์น้อยมาก และว่ากันตามตรงอย่าเสี่ยงให้น้องมันลงเลย ได้ไม่คุ้มเสียแน่นอน
เพราะสภาพของสนามหญ้าเทียม ของสนาม MMF และสภาพอากาศที่หนาวเหน็บ ที่นึกขึ้นมาทีไรก็อยากอ้าปากด่า AFC ที่ยังให้ประเทศที่ใช้สนามหญ้าเทียมได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพโดยไม่แยแสต่ออาการบาดเจ็บของนักฟุตบอลเลย
จังหวะฟุตบอลที่เล่นยาก คอนโทรลยาก กว่าจะเริ่มปรับตัว ปรับจังหวะการเล่นได้ ก็ต้องใช้เวลานาน เฮ้อออออ บ่นๆ ได้แต่บ่น!!!
เอาล่ะ อย่างน้อยเส้นทางที่ผ่านมา ก็ทำให้เราฝ่ามาจนถึงนัดที่ต้องใส่เต็มร้อย เพราะนี่คือโอกาสที่เรามีอยู่
สิ่งที่น่าห่วงที่สุดนอกเหนือจากผู้เล่นหลักเราเจ็บไปหลายราย แต่ยังมีเรื่องของสภาพอากาศ ที่ก่อนแข่ง อากาศกลับมาหนาวเย็นมากๆ แถมยังมีลมเพิ่มเติมมาอีกด้วย
เราแข่งคู่แรก เวลาที่นี่คือ 11.00 น. อากาศยังอยู่ 1 องศาด้วยซ้ำไป
วันพรุ่งนี้ คือวันสำคัญของน้องๆ ผมเอาใจช่วยพวกเขาเต็มกำลังอยู่แล้ว และเชื่อว่าที่เมืองไทยเอง ก็อยากเห็นน้องๆ วิ่งชนกับความสำเร็จในทัวร์นาเมนต์นี้
เกมวัดแชมป์กลุ่มเจ กับมาเลเซีย ผมอยากเห็นน้องๆ ร่วมกันถลกหนังเสือเหลือง พร้อมกับเดินออกจากสนาม ด้วยการเป็น "ผู้ชนะ"
ลงไปสู้เพื่อตัวเอง...
ลงไปสู้เพื่อทีมชาติไทยของเรา...
ที่สำคัญ... ลงไปสู้ เพื่อพิสูจน์ตัวเองจากคำปรามาสทั้งหลายทั้งปวง